ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือน แอป “คำที่ฉันใช้มากที่สุดในเฟซบุ๊ก” มีสิทธิดึงข้อมูลส่วนตัวในเฟซบุ๊กออกไปใช้งานได้ ในขณะที่ CEO vonvon.me ผู้สร้างแอปโต้ บริษัทจะไม่มีวันทำแบบนั้น

ในช่วงปีที่ผ่านมาเราคงเห็นเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กแชร์เกมจาก vonvon.me กันมากมาย ที่ผ่านมาตัวที่ดังๆ คือพระเจ้าสร้างเราได้ยังไง (อุ้ย! พระเจ้าทำอะไรหก) แต่ตัวล่าสุดที่ผู้ใช้กำลังแชร์ในเฟซบุ๊กก็คำที่เราแชร์บ่อย ซึ่งได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีคนแชร์กว่า 16 ล้านครั้งแล้ว แต่สิ่งที่ผู้ใช้ควรระลึกไว้เสมอคือแอปที่ขออนุญาตเข้าถึงโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กนั้นมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลของเราได้ลึกมาก ซึ่งควรพิจารณาให้ดี

สิ่งที่ vonvon ต้องการจากข้อมูลของเรา (ในภาพคือปรับลดเหลือแค่ที่จำเป็นแล้ว)

สิ่งที่ vonvon ต้องการจากข้อมูลของเรา (ในภาพคือปรับลดเหลือแค่ที่จำเป็นแล้ว)

เว็บ CompariTech ตั้งข้อสังเกตว่าแอปของ vonvon.me นั้นขอสิทธิ์จากผู้ใช้มากเกินไปคือ

  • โปรไฟล์ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ เช่นชื่อ รูปโปรไฟล์ อายุ เพศ วันเกิด
  • รายการเพื่อนทั้งหมด
  • ขอดูทุกสิ่งที่โพสต์ขึ้น Timeline
  • รูปที่โพสต์และที่ถูกแท็ก
  • ประวัติการศึกษา
  • เมืองเกิดและเมืองที่อยู่ตอนนี้
  • ทุกสิ่งที่ไปกดไลค์ไว้
  • IP Address
  • ข้อมูลการใช้งานอุปกรณ์ เช่นใช้เบราว์เซอร์อะไร

ซึ่งความกังวลคือในนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ของ vonvon.me เขียนเอาไว้ว่าบริษัทมีสิทธินำข้อมูลส่วนตัวของเราเหล่านี้ขายให้บริษัทอื่นๆ (โดยไม่ระบุชื่อเจ้าของ) โดยอาจมีการขออนุญาตก่อน (ซึ่งจริงๆ ก็ใช้แอปก็เหมือนการอนญาตให้เอาข้อมูลส่วนตัวไปใช้แล้ว)

vonvon-word

หลังจากโพสต์นี้เผยแพร่ไปไม่นาน Jonghwa Kim, CEO ของบริษัท vonvon ก็เขียนเมลตอบโต้ โดยบอกว่าอย่าทำร้ายเรา เราเป็นบริษัท startup ที่ตั้งมาไม่กี่ปีเอง และชี้แจงว่าข้อมูลที่ vonvon ต้องการก็เพื่อนำไปสร้างผลลัพธ์ของเกมเท่านั้นเอง แต่ที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้กำหนดสิ่งที่ต้องการแยกละเอียดเป็นรายเกม ทำให้ดูเหมือนต้องการข้อมูลเยอะมากทุกอัน ต่อไปนี้ vonvon จึงขอปรับลดการขอข้อมูลจากผู้ใช้ลง

vonvon ขอปรับลดข้อมูลที่ต้องการจากผู้ใช้ลง เหลือเท่าที่ต้องใช้ในแต่ละเกม

และ vonvon ขอยืนยันว่าเราไม่มีการนำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ไปขาย และไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ไว้ในฐานข้อมูลด้วย (แม้ว่าใน Privacy Policy จะเขียนไว้อ่านะ)

ซึ่งเอาจริงๆ สิ่งที่ CEO ของ Vonvon พูดก็เหมือนสัญญาปากเปล่าว่าจะไม่ทำ แต่ในเอกสารกลับเปิดช่องว่าทำได้ เรื่องนี้ก็ต้องวัดกันที่ความเชื่อใจล้วนๆ

เมื่อเข้าหน้า App ของเฟซบุ๊กแล้ว สามารถกดปุ่ม Remove App ด้านล่างเพื่อปิดการเข้าถึงข้อมูล แต่ข้อมูลที่เคยดูดไปแล้วก็แก้ไขไม่ได้

เมื่อเข้าหน้า App ของเฟซบุ๊กแล้ว สามารถกดปุ่ม Remove App ด้านล่างเพื่อปิดการเข้าถึงข้อมูล แต่ข้อมูลที่เคยดูดไปแล้วก็แก้ไขไม่ได้

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ก็อยากให้แฟนๆ เว็บแบไต๋ระวังการเล่นแอปใน facebook กันสักนิด ไม่ใช่แต่ของ vonvon ที่อ้างถึงในข่าวนี้อย่างเดียว ทุกแอปที่ขอข้อมูลส่วนตัวของเราในเฟซบุ๊ก มีโอกาสเข้อถึงข้อมูลส่วนตัวเราได้ลึกมาก ทางที่ดีที่สุดคืออย่าเล่นแอปที่ไม่จำเป็น เพราะเมื่ออนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลไปแล้ว เมื่อปิดแอปไปแล้ว มันก็ยังเข้าถึงข้อมูลเราได้ตลอดเวลาจนกว่าจะเข้าไปยกเลิกในหน้า App Settings ของเฟซบุ๊ก และข้อมูลที่ถูกเก็บไปแล้วก็ไม่ได้ถูกยกเลิกไปด้วย เราต้องติดต่อผู้ผลิตแอปอีกครั้งเพื่อขอให้ลบข้อมูลของเราออก

ที่มา: Comparitech