ประธานาธิบดี Barack Obama ให้บริษัทไอทีช่วยสหรัฐอเมริการสู้กับ ISIS
“ผมจะใช้เทคโนโลยีระดับสูงและมาตรการบังคับใช้กฏหมายเพื่อไม่ให้ผู้ก่อการร้ายสามารถรอดพ้นจากเงื้อมมือความยุติธรรมได้”
ท่านประธานาธิบดีกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา
WhatsApp และ Telegram เป็นแอพที่ใช้ในการเข้ารหัสข้อความ แอพ Signal เข้ารหัสการโทรในโทรศัพท์ Wickr ส่งข้อความที่ทำลายตนเองได้ FaceTime แอปวิดีโอแชทจาก iPhone ก็มีการเข้ารหัสด้วยเช่นกัน สำหรับอีเมลก็มี PGP ที่เป็นที่นิยมมาก
โปรแกรมเหล่านี้เปลี่ยนคำพูดให้กลายเป็นรหัสคอมพิวเตอร์จำนวนมหาศาล ซึ่งสายลับในรัฐบาลจะไม่สามารถถอดรหัสได้ง่ายนัก
ผลที่ได้คือ การพูดคุยผ่านทางโทรศัพทจะถูกเข้ารหัสที่ไม่สามารถถอดได้ ซึ่งส่งผลต่อผู้ก่อการร้ายในซีเรียที่จะโทรหารคนในสหรัฐเพื่อก่อการสังหารหมู่
นั่นยังส่งผลไปถึงการสืบสวนของตำรวจที่บางครั้งได้โทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัยมา แต่ก็ไม่สามารถถอดรหัสดูข้อมูลข้างในได้
กล่าวสั้นๆ คือ ทางรัฐบาลจับได้ว่ามีคนคอยสอดแนม บริษัทไอทีก็ตอบโต้ด้วยการสร้างกำแพงขึ้นมาป้องกัน แต่รัฐบาลก็บอกว่าไม่ปลอดภัยพอ
จนล่าสุด คำสั่งของ Obama ผลักดันให้บริษัท Apple, Google และ Microsoft ต้องจัดการกับช่องโหว่นี้
แต่ James Comey ผู้อำนวยการ FBI เตือนว่าผู้ก่อการร้ายนั้นร้ายกาจกว่านั้นมาก และอัยการประจำ Manhattan ก็ออกมากล่าวว่า การเข้ารหัสนี้จะทำให้การดำเนินคดีเกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายชะงัก
“เป้าหมายของกรเข้ารหัสนี้คือทำให้ผู้ก่อการร้ายและอาชญากรหาผู้เข้าร่วมกลุ่มได้ยากขึ้นในโลกออนไลน์”
คำกล่าวจากผู้บริหารอาวุโสของ CNNMoney
การร่วมมือกันระหว่าง Facebook และ Twitter ในครั้งนี้จะเป็นดั่งปฏิบัติการเชิงรุก เนื่องจากกลุ่ม ISIS ได้แชร์ข่าวรับสมัครสมาชิกไปตามสื่อโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว และง่ายต่อการเข้าถึงเป็นอย่างมาก
ทาง Twitter ได้ออกมากล่าววว่า ธุรกิจไอทีจะต้องมีการพัฒนาไปอีกขั้น
ส่วนทาง Facebook ก็ออกมาสนับสนุนในแนวคิดของรัฐบาลครั้งนี้
ที่มา : money.cnn.com