หลังจากปล่อยให้ Nikon D4s วาดลวดลายอยู่ 2 ปี นิคอนก็เปิดตัว D5 อย่างเป็นทางการ ซึ่งพัฒนาจุดเด่นของกล้องตัวท็อปอย่างระบบการโฟกัสให้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดย D5 ใช้โมดูลโฟกัสอัตโนมัติรุ่นใหม่ Multi-CAM 20K มีจุดโฟกัส 153 จุด ซึ่งเป็นแบบ Cross-type 99 จุด พร้อมปรับปรุงเซนเซอร์วัดแสง RGB จากเดิมความละเอียด 91,000 พิกเซลเป็น 180,000 พิกเซล ทำให้วัดแสงได้แม่นยำขึ้น สามารถโฟกัสภาพได้แม้แสงมืดไป – 4 EV พร้อมชิปประมวลผลพิเศษเพื่อทำงานเรื่องโฟกัสอย่างเดียว D5 จึงเป็นกล้องที่มีระบบโฟกัสอัตโนมัติและความสามารถในการติดตามโฟกัสวัตถุเคลื่อนไหวที่ดีที่สุดของ Nikon ซึ่งสามารถถ่ายรัวได้ 12 fps เมื่อต้องโฟกัสอัตโนมัติ และสูงสุด 14 fps เมื่อปิดการโฟกัส
แน่นอนว่า Nikon D5 ก็ใช้เซนเซอร์รับภาพ CMOS แบบ Full-frame ตัวใหม่ ให้ความละเอียด 20.8 ล้านพิกเซล ใช้ชิปประมวลผล EXPEED 5 ซึ่งรองรับความไวแสง ISO 100 – 102,400 แต่สามารถขยายให้ลงต่ำสุดที่ ISO 50 และสูงสุดที่ ISO 3,280,000 ได้ และสามารถถ่ายวิดีโอได้ในระดับ 4K
นอกจากนี้ Nikon ยังได้เปิดตัวแฟลชรุ่นใหม่อย่าง SB-5000 Speedlight ออกมาด้วย ซึ่งความสามารถใหม่คือรับคำสั่งด้วยคลื่นวิทยุได้ (รุ่นก่อนจะรับคำสั่งไร้สายจากกล้องด้วยแสง) ทำให้สั่งงานแฟลชได้แม้มองไม่เห็นกัน แต่ตัวกล้องก็ต้องติดตั้งอุปกรณ์สั่งงานในชุด WR-10 ด้วยจึงจะสั่งงานกันได้
รายละเอียดอื่นๆ ของ Nikon D5
- D5 เป็นกล้องระดับโปรตัวแรกของ Nikon ที่ใช้จอสัมผัสขนาด 3.2″ ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล (แต่เข้าใจว่าไม่สามารถแตะเลือกจุดโฟกัสได้ทันทีเวลาถ่ายภาพด้วยช่องมองภาพ)
- ใช้หน่วยความจำเป็น Compact Flash หรือ XQD Card โดยใส่พร้อมกันได้ 2 การ์ด
- ม่านชัตเตอร์การันตีความทนทานที่ 400,000 ครั้ง (ถ้าถ่ายวันละร้อยรูปก็มั่นใจว่าจะถ่ายได้อย่างน้อย 11 ปี)
- เชื่อมต่อด้วย USB 3.0 หรือพอร์ต LAN ความเร็ว 400 MBps
- การเชื่อมต่อผ่าน Wifi ต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง WT-6A ที่สามารถส่งภาพด้วยความเร็วสูงสุด 130 mbps ในมาตรฐาน AC
- หนัก 1415 กรัม (ไม่รวมเลนส์)
- D5 จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมนี้ ราคา $6,499.95 (ราคาไทยน่าจะเป็น 226,900 บาท)