วันนี้ (20 ตุลาคม) กูเกิล (Google) ได้มีการเปิดตัว Pixel 6 และ Pixel 6 Pro พร้อมเปิดตัวชิปประมวลผล Google Tensor อีกก้าวของชิปประมวลผล Machine Learning ที่จะทำให้เครื่องสมาร์ตโฟนมีประสิทธิภาพที่ดี เร็ว และแรงมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่าชิปก่อนหน้านี้มีพัฒนาการที่ช้า และตามไม่ทันทีมวิจัยของกูเกิล กูเกิลจึงตัดสินใจทำทีมพัฒนาขึ้นมาเอง
Google Tensor เป็นชิปประเภท System on a Chip (SoC) หรือเป็นชิปที่รวบรวมส่วนประกอบต่าง ๆ ในการประมวลผลไว้ในชิปเล็ก ๆ เพียงชิ้นเดียว ซึ่งภายในของ Google Tensor นั้น มีหน่วยประมวลผล TPU ที่เป็นหัวใจหลักของ Machine Learning ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมวิจัยของกูเกิล และ ISP หน่วยประมวลผลภาพ
CPU ใน Google Tensor จะถูกแบ่งเป็น 2 คอร์ สำหรับ High Performance 2 คอร์ สำหรับ Mid Performance และอีก 4 คอร์ สำหรับ High Efficiency และในส่วนของ GPU จะมีมากถึง 20 คอร์ รวมถึงยังมี Context Hub ที่จะนำ Machine Learning มาเรียนรู้และประมวลผลเพื่อการใช้พลังงานที่น้อยลง โดยจะเป็นเบื้องหลังของฟีเจอร์ Now Playing หรือ Always-on ด้วยเพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองพลังงาน
เมื่อนำประสิทธิภาพไปเทียบกับชิปประมวลผลที่ใช้บน Pixel 5 นั้น พบว่า Pixel 6 มีประสิทธิภาพ CPU มากกว่าถึง 80% และประสิทธิภาพ GPU มากกว่าถึง 370%
Google Tensor นั้นจะทำให้การใช้สมาร์ตโฟนของผู้ใช้เป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างฟีเจอร์ Live Translate ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถแปลภาษาได้ทันทีในแอปแชต ไม่จำเป็นต้องคัดลอกและวางจากแอปแปลภาษา รวมถึงมีใช้โมเดล Automatic Speech Recognition ในการถอดเสียงคำพูดเพื่อใช้ในแอปต่าง ๆ อย่าง Recorder หรือฟีเจอร์อย่าง Live Caption โดยไม่เปลืองแบตเตอรี่ และยังมีฟีเจอร์สำหรับการถ่ายภาพอีกด้วย เช่น โหมดการเคลื่อนไหว
อ้างอิง : Google
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส