Adobe เตรียมเปิดตัวระบบ ‘Prepare as NFT’ ที่เข้ามาช่วยพิสูจน์ความเป็นเจ้าของสำหรับผู้ขาย NFT ในโปรแกรม Photoshop หรือที่เรียกว่า Content Credentials โดยทางผู้ขาย NFT จะสามารถเชื่อมบัญชี Adobe ID เข้ากับกระเป๋าเงินดิจิทัล ทำให้สามารถตรวจสอบ และพิสูจน์ได้ว่างาน NFT เหล่านั้นเป็นของแท้ Original จริง ๆ
NFT คืออะไร?
NFT หรือ Non-fungible token แปลตรงตัวคือโทเคนที่ทดแทนไม่ได้ แต่ละโทเคนมีความเฉพาะตัว มีจำนวนจำกัด ทำซ้ำไม่ได้ แต่สามารถซื้อ-ขายถ่ายโอนได้ และต้องซื้อเต็มโทเคนเท่านั้น ไม่สามารถซื้อเป็นหน่วยย่อย หรือซื้อครึ่งโทเคนได้ ที่สำคัญคือการซื้อ-ขายจะถูกบันทึกและตรวจสอบในระบบ Blockchain ที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำงานแบบไม่มีศูนย์กลาง ทำให้คนทั้งระบบรู้ว่า NFT ชิ้นนั้นเป็นของใคร ซึ่งไม่สามารถมีเจ้าของเกินจำนวนที่ผู้สร้างกำหนดได้ ด้วยการกำหนดคุณสมบัติเหล่านี้ ทำให้เราใช้ NFT เพื่อแทนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตั้งใจให้มีชิ้นเดียวในโลกได้
จากการสัมภาษณ์กับ สกอตต์ เบลสกี (Scott Belsky) หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Adobe ฟังก์ชันใหม่ใน Photoshop จะมีตัวเลือก ‘prepare as NFT’ ที่จะเปิดตัวภายในสิ้นเดือนนี้เพิ่มเข้ามา โดยข้อมูลของ NFT ที่สร้างโดย Content Credentials จะอยู่บนระบบแบบ PFS IPFS (InterPlanetary File System) ซึ่งจะเป็นวิธีกระจาย host files ให้กับเครือข่ายที่มีคนดูแลรับผิดชอบด้านความปลอดภัย คล้าย ๆ การทำงานของระบบ torrent
โดยทาง Adobe กล่าวว่าตลาด NTF อย่าง OpenSea, Rarible, KnownOrigin และ SuperRare จะสามารถรวมเข้ากับ Content Credentials เพื่อระบุถึงแหล่งที่มาของตัว NFT จาก Adobe ได้
ต้องบอกว่าการขโมยงานศิลปะนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ในโลกของ NFT ครับ และมีตัวอย่างมากมายที่มีคนผลิตงานพวกนี้ขึ้นมา แม้เขาจะไม่ได้สร้างงานนั้นขึ้นมาเองหรือไมได้มีลิขสิทธิ์ถูกต้องบน blockchain ก็ตาม ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถสร้าง NFT ขึ้นมาได้ ซึ่งนี้ยังเป็นปัญหาที่ระบบ blockchain ยังไม่สามารถแก้ได้ และการที่งานพวกนี้อยู่บน blockchain ทำให้มันดูเหมือนของแท้ จนเราอาจไม่ได้ระวังได้ครับ
สิ่งที่ Content Credentials จะทำได้ก็คือการมอบความสามารถสร้าง NFT ได้โดยตรงผ่าน Photoshop ซึ่งก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นคนสร้างงานนั้น ๆ ขึ้นมา แม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันการถูกขโมยงานได้แต่ก็ช่วยให้ NFT ปลอมหรืออันที่ซ้ำนั้นดึงดูดคนซื้อได้่น้อยลง
ซึ่งไม่เพียงแต่ NFT เท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์ในครั้งนี้ ตัว Content Credentials ยังเป็นส่วนหนึ่งของ Adobe Content Authenticity Initiative ที่จะมีการเปิดตัวระบบรุ่น Beta สำหรับแสดงข้อมูลการแก้ไขไฟล์ใน Photoshop, แท็กข้อมูลรูปภาพบน Adobe Stock และอื่น ๆ ได้อีกด้วย
อ้างอิง – The Verge
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส