เรียกว่าเป็นข่าวที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนักกับพนักงานของทาง Intel ที่ในปีนี้ได้มีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยการลดพนักงานลงกว่า 12,000 รายหรือกว่า 11% ของบริษัท ด้วยสาเหตุที่ว่าผู้คนในยุคปัจจุบันมีความต้องการในด้านคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือ PC ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
โดยทาง Intel ได้กล่าวถึงผู้ที่ถูกปลด 12,000 คนนี้มีทั้งผู้ที่สมัครใจและไม่สมัครใจที่จะถูกปลด ซึ่งจะดำเนินการแจ้งพนักงานมั้งหมดภายในระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งบางคนจะยังคงอยู่ต่อได้จนถึงช่วงกลางเดือนปีหน้า โดย Intel จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในปีนี้ได้ถึง 750 ล้านเหรียญสหรัฐจากการปลดพนักงานในครั้งนี้ สาเหตุหลักคือการส่งออกของ PC ทั่วโลกที่ลดลงกว่า 11.5% ในช่วง Q1 ปีนี้รวมไปถึงหุ้นของทาง Intel ที่ตกลงกว่า 8.4%
ซึ่งแผนการปรับโครงสร้างในครั้งนี้ทาง Intel จะมุ่งเป้าไปที่ธุรกิจอื่น ๆ นอกเหนือจาก PC อาทิ Data Center และอุปกรณ์ Internet of Things ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีมูลค่าการเติบโตแล้วกว่า 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้วหรือราว 40% ของรายได้ทั้งหมด
CEO คนล่าสุดของ Intel Brian Krzanich (ไบรอัน คาซานิช ) ได้กล่าวใน E-mail ที่ส่งหาพนักงานในบริษัทไว้ว่า “การกระทำในครั้งนี้จะส่งผลในระยะยาวให้ทาง Intel เป็นผู้นำในด้านการเชื่อมต่อกับโลกใบนี้อย่างชาญฉลาด ซึ่งผมมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าการกระทำในครั้งนี้จะทำให้ทางบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ”