วันที่16 พฤษภาคม 2559 – นายชาน ปาร์ค ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Uber กล่าวว่า “ทุกคนในกรุงเทพฯ คิดไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลานั่นรวมถึงการเอาความคิดและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตของ Uber ซึ่งการตอบรับเรื่องเทคโนโลยีของผู้คนในเมืองนี้น่าทึ่งจริงๆ”
ตลอดสองปีที่ผ่านมา Uber สร้างโอกาสการทำงานให้กับผู้ร่วมขับหลายพันคน วันนี้ผู้ร่วมขับหลายพันคนที่อยู่บนแพลตฟอร์มของ Uber กำลังสร้างอนาคตที่ดีและมั่นคงกว่าเดิมให้กับครอบครัวของพวกเขา ด้วยการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้กับชีวิตจากการเป็นพนักงานกินเงินเดือนไปประกอบอาชีพที่มีอิสระด้านการเงิน
วันนี้จำนวนผู้ร่วมขับบนแพลตฟอร์มของ Uber เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างโอกาสการหารายได้หลังพวงมาลัยเพิ่มขึ้น ในช่วง 12 เดือนก่อน ผู้ร่วมขับใช้เวลามากกว่าครึ่งหนึ่งกับการเดินทางแต่ละเที่ยว —เทียบกับไตรมาสเดียวของเวลาพวกเขาเมื่อ 2 ปีก่อน ตัวเลขความต้องการโดยสารรถเติบโตขึ้นถึง 3.5 เท่า เเละเมื่อมีผู้โดยสารเดินทางมากขึ้น จะทำให้รายได้ต่อชั่วโมงการทำงานของพาร์ทเนอร์ผู้ร่วมขับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่าปีก่อน ผู้ร่วมขับส่วนใหญ่ที่ขับรถบนแพลทฟอร์มนี้เลือกทำเพราะความสะดวกและความยืดหยุ่น 55% ของผู้ร่วมขับในกรุงเทพฯ เลือกทำงานที่ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์หรือน้อยกว่านั้น ความสามารถของการกดปุ่มแล้วเริ่มงานได้ตามความต้องการของผู้ร่วมขับเป็นประโยชน์อย่างมาก และยิ่งมีความหมายมากขึ้นกว่าที่เคยเมื่อผู้ร่วมขับ uberX มีรายได้ต่อชั่วโมงที่สูงขึ้น
นายชาน ปาร์ค ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Uber กล่าวทิ้งท้ายว่า “Uber มีความมุ่งมั่นเพื่อนำพาประเทศไทยเดินหน้าไปสู่อนาคตที่มั่นคงเพราะ Uber กำลังสร้างอนาคตร่วมกันและสิ่งที่มีความหมายมากที่สุดในเวลานี้คือสิ่งที่จะทำต่อไป Uber ไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้สำเร็จหากปราศจากผู้โดยสารและชุมชนผู้ร่วมขับชาวไทยที่เดินทางไปกับ Uber จนถึงวันนี้ผมขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมเดินทางไปกับ Uber และเราจะนั่งเคียงข้างร่วมกันไปถึงจุดหมายต่อไปด้วยกันข้างหน้า”
2 ปีกับความสำเร็จ Uber ประเทศไทยผ่านตัวเลข
- ชุมชนผู้โดยสารชาวไทยเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากผู้โดยสารในกรุงเทพฯ มีความไว้วางใจในแพลทฟอร์ม Uberในการพาพวกเขาไปถึงจุดหมายที่ต้องการ ทุกแห่งที่หลายครั้งก็ไกลกว่าที่ระบบขนส่งมวลชนทั่วไปจะไปถึง!!
เดินทางจากจุด A ไปจุด B ได้รวดเร็วกว่าที่เคยเป็น
- กรุงเทพฯ ไม่ต่างจากอีกหลายเมืองทั่วโลกที่เต็มไปด้วยยานพาหนะบนท้องถนนในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งนับเป็นความท้าทายอย่างต่อเนื่องของ Uber ที่ต้องเป็นบริการที่พึ่งพาได้พร้อม ๆ กับการลดเวลาการรอคอยของผู้โดยสารให้สั้นลง
- Uber ลงทุนหนักมากกับการวิเคราะห์ข้อมูล ณ เวลาจริง ทุ่มเททรัพยากรในการระบุความต้องการของผู้โดยสาร เพิ่มตัวเลือกและนำโซลูชั่นเทคโนโลยีชั้นสูงมาใช้เพื่อให้ผู้โดยสารมั่นใจว่าจะมีรถมารับในอีกไม่กี่นาที ระยะเวลาเฉลี่ยรถมารับในเขตกรุงเทพฯ ลดลงเหลือเพียง 7 นาที และในเขตใจกลางเมืองจะเฉลี่ยอยู่ที่ 5.65 นาที ซึ่งในระยะเวลา 2 ปี Uber ลดเวลาการรอรถของผู้โดยสารลงไปครึ่งหนึ่ง
มอบโอกาสให้คนไทยได้เข้าถึงการหารายได้
- ทุก ๆ วัน Uber พูดคุยกับผู้ร่วมขับที่ใช้แพลตฟอร์มของ Uber เพื่อให้พวกเขาเข้าใจมากขึ้นว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาคืออะไร และสิ่งที่เราสามารถทำได้จากการรับฟัง เรียนรู้และปรับปรุงความเป็นหุ้นส่วนที่เรามีด้วยกัน
