‘เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน’ ชูภาพลักษณ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีหลังคาโซลาร์ของประเทศไทย สร้างฐานตลาดด้วยกลยุทธ์ Partnership Integration ด้วย New Solar Hybrid Solutions ระบบแผงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ครบวงจร พร้อมใช้งาน ที่เป็นความร่วมมือระหว่างทาง SCG และ HUAWEI ที่ทำให้สามารถใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ได้ทั้งวันทั้งคืน และดูแลรักษาง่ายผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน
โดยระบบโซลาร์เซลล์แบบไฮบริด เป็นส่วนผสมระหว่างระบบ Off Grid และ On Grid คือ มีการใช้ไฟจากทั้งการไฟฟ้า ไฟที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์ และไฟจากแบตเตอร์รี่ ในกรณีที่แผงโซลาร์ผลิตกระแสไฟฟ้ามากเกินกว่าการใช้งาน แบตเตอรี่จะกักเก็บไฟ และสามารถดึงมาใช้ในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งระบบไฮบริดของ SCG จะใช้แผงโซลาร์เซลล์ รับแสงจากดวงอาทิตย์มาเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้ากรแสตรง จากนั้นจึงนำไฟฟ้ามาผ่านอินเวอร์เตอร์ (Inverter) หรือเครื่องแปลงไฟของ HUAWEI เพื่อแปลงพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ไปเป็นกระแสสลับ (AC) แล้วนำไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่อไป หรือจะเก็บไฟฟ้าที่ได้ไว้ในแบตเตอรี่ของ HUAWEI ก็ได้เช่นเดียวกัน
นายธงชัย โสภณ Head of Housing Products Business บริษัท เอสซีจี รูฟฟิ่ง จำกัด กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้หลายองค์กรเน้นการทำงานแบบ Work from Home มากขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงกับการเพิ่มปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวัน ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ทำให้หลายคนเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานและไลฟ์สไตล์ หรือหาวิธีการอื่นเพื่อลดค่าใช้จ่ายและประหยัดการใช้พลังงาน ทาง SCG Solar Roof Solutions จึงได้นำเทคโนโลยีและความร่วมมือจากพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ ‘Partnership Integration’ นำจุดแข็งด้านเทคโนโลยีมาผสานเข้ากับการสร้างสรรค์นวัตกรรมสู่การเป็นโซลูชันพลังงานสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูง ล่าสุดร่วมมือกับ 3 กลุ่มพาร์ทเนอร์ เพื่อสร้างโซลูชันที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้านเทคโนโลยี ได้ร่วมมือกับ หัวเว่ย (HUAWEI) เพื่อนำนวัตกรรมแบตเตอรี่มาเพิ่มความสามารถในการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าเพื่อให้สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าได้ในช่วงเวลากลางคืน โดยมีนาย โลแกน ยู (Logan Yu) ประธานของ Huawei Digital Power Business Thailand ร่วมอธิบายหลักการทำงานของอินเวอร์เตอร์ใหม่นี้ด้วย และร่วมมือกับ เอนเฟส เอ็นเนอร์จี้ (Enphase Energy) ผู้นำด้านเทคโนโลยีไมโครอินเวอร์เตอร์ (Microinverter) สหรัฐอเมริกา ร่วมนำเอาเทคโนโลยี
ไมโครอินเวอร์เตอร์ มาช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของระบบโซลาร์ให้ดียิ่งขึ้น ด้านไฟแนนซ์ ได้ร่วมมือกับ สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย เพื่อเพิ่มทางเลือกและความคุ้มค่าด้านต่างๆ ให้กับลูกค้า ได้เป็นเจ้าของระบบโซลาร์เซลล์ง่ายขึ้น รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานภาครัฐ ทั้งการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการดำเนินการขออนุญาตให้รวดเร็วมากขึ้นด้วย
ทางบริษัทฯ ยังมีการให้บริการการติดตั้ง ดูแลครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา การออกแบบโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และติดตั้ง พร้อมบริการหลังการขาย มีการตรวจสอบสภาพความพร้อมของหลังคาก่อนการติดตั้ง (Roof Health Check) เพื่อให้มั่นใจว่าหลังคาพร้อมติดตั้งโซลาร์รูฟ และติดตั้งโซลาร์รูฟ โดยไม่ต้องเจาะหลังคาด้วยนวัตกรรม Solar FIX ไม่เสี่ยงรั่ว สิทธิบัตรเฉพาะเอสซีจีเท่านั้น แผงโซลาร์ Tier 1 รับประกันตัวแผงโซลาร์ และประสิทธิภาพการผลิตไฟนาน 25 ปี ในส่วนของอินเวอร์เตอร์ (ระบบแปลงไฟ) รับประกัน 10 ปี นอกจากนั้น ยังดำเนินการขออนุญาตติดตั้งโซลาร์ให้ทั้งกระบวนการ และสามารถติดตามการผลิตไฟและค่าไฟที่ประหยัดได้แบบ Real Time ผ่านทางแอปพลิเคชัน SCG Solar Solutions (และ ให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน พร้อมอยู่ดูแลและเคียงข้างไปตลอดระยะเวลารับประกัน 25 ปี
สำหรับราคา โซลูชันแต่ละระดับ ที่รวมทุกอย่าง ทุกขั้นตอน และพร้อมใช้งาน (ไม่รวมแบตเตอรี่) สามารถดูได้ที่ภาพด้านล่างนี้ (สามารถกดที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดเต็มได้)
นางชลารัตน์ พินิจเบญจพล รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด มหาชน กล่าวว่า เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการตัดสินใจด้านความคุ้มค่า ทางธนาคารกสิกรไทย จึงได้ร่วมจัดทำข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้สนใจ ‘SCG Solar Roof ระบบ Hybrid’ มอบโปรโมชันแพ็กเกจพิเศษ ‘โปรรักษ์โลก’ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ได้แก่ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ และดอกเบี้ย 0% 3 เดือนแรก และแผนการผ่อนที่ยาวนานสูงสุดถึง 30 ปี รวมถึงส่วนลดพิเศษสูงสุด 70,000 บาท และ Tops E-voucher 2,000 บาท
ทั้งนี้ ยังมีโปรโมชัน แพ็กเกจที่ร่วมกับธนาคารอื่น ๆ เพิ่มอีกด้วย อย่างเช่น UOB หรือ TISCO เป็นต้น