ในยุคปัจจุบันการเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลถือว่ามีความสำคัญมากที่จะสนับสนุนให้ภาครัฐสามารถให้บริการประชาชนได้ครอบคลุมภารกิจ และการให้บริการประชาชนที่มีความหลากหลายมากขึ้น ดังนั้นในแต่ละปีหน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐจึงมีการตั้งงบประมาณจำนวนมากในการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับระบบดิจิทัล เช่น คอมพิวเตอร์ พรินต์เตอร์ ซอฟแวร์ รวมไปถึงบริการระบบคลาวด์ (Cloud) การจ้างพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ การติดตั้งระบบเครือข่าย เป็นต้น

ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกว่า 26,591 ราย 

รัฐต้องการซื้อสินค้าและบริการอะไร และจัดซื้อจัดจ้างกันอย่างไร?

สินค้าและบริการที่หน่วยงานของรัฐต้องการจัดซื้อจัดจ้าง จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ

  1. การจัดซื้อ (ครุภัณฑ์) ได้แก่
    • ฮาร์ดแวร์ ต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์เอกสาร (Hardware)
    • ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป (Software)
    • การจ้างพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ (Software development)

โดยจะจัดซื้อในรูปแบบจ้างเหมาและติดตั้ง (SI:System Integration)

  1. การจัดจ้าง (บริการ)
    • การติดตั้งระบบเครือข่าย (Network)
    • การดูแลระบบไอที (IT Service)
    • บริการระบบคลาวด์ (Cloud) 

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขายสินค้าและบริการให้ภาครัฐนั้น ต้องดำเนินการเข้าระบบจัดซื้อจัดจ้างเพื่อนำเสนอขายสินค้าให้กับภาครัฐ ผ่านการยื่นข้อเสนอในรูปแบบ E-Bidding ดังนี้

  1. การขึ้นทะเบียนผู้ขาย (E-GP) ของกรมบัญชีกลาง
  2. ค้นหาประกาศการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐในระบบ E-GP หรือช่องทางอื่น ๆ
  3. การจัดเตรียมเอกสารการยื่นเสนองาน
    • ข้อเสนอโครงการที่ต้องการยื่น ซึ่งต้องครบคลุมขอบเขตงาน (TOR) และข้อเสนอพิเศษ
    • แผนการส่งมอบงานเอกสารแสดงคุณสมบัติ อาทิ เอกสารจดทะเบียนธุรกิจ
    • เอกสารแสดงผลงาน / ประสบการณ์
    • การเขียนข้อเสนอทางการเงิน
  4. การทำสัญญา (เมื่อได้รับคัดเลือกให้ดำเนินโครงการ)
    • การเตรียมเงินค้ำประกันโครงการ/สัญญา
    • การติดอากรณ์แสตมป์
  5. การอุทธรณ์ / ร้องเรียน (กรณีต้องการคัดค้านผลการคัดเลือกจัดซื้อจัดจ้างของโครงการที่ยื่นเสนอ)

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามหน่วยงานรัฐ มักพบปัญหาว่า SME ที่ยื่นเสนองานนั้น เขียนข้อเสนอโครงการไม่ครบถ้วน จัดทำแผนการส่งมอบงานไม่เป็น เอกสารประกอบไม่ครบ อาทิ เอกสารแสดงผลงาน คุณสมบัติองค์กร คุณสมบัติบุคลากร รวมถึงการจัดทำข้อเสนอทางด้านราคาไม่ตรงกับราคากลางที่กำหนด และผู้ประกอบการหลายรายไม่มีเงินสำหรับเงินค้ำกันสัญญา ทำให้ไม่ได้รับคัดเลือกให้ดำเนินโครงการของรัฐ

รัฐบาลไฟเขียวผู้ประกอบการดิจิทัลเป็นคู่ค้าของรัฐ

ล่าสุดรัฐบาลโดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้เปิดโครงการพัฒนายกระดับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลและธุรกิจเกี่ยวเนื่องเพื่อเข้าสู่ระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจในการเข้าถึงระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้แก่ SME รวมถึงอัปเดตแนวโน้ม และโอกาสในตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของสินค้าดิจิทัล และพัฒนายกระดับผู้ประกอบการเพื่อเตรียมความพร้อมเป็นคู่ค้ากับภาครัฐ

สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้เข้าร่วมกิจกรรมและรับสิทธิประโยชน์ ได้แก่

  1. การอบรม อาทิ ความรู้เกี่ยวกับกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน โอกาสและเทรนด์ด้านการตลาดของอุตสาหกรรมดิจิทัล และระเบียบขั้นตอนการยื่นเสนองานภาครัฐ
  2. กิจกรรมเวิร์คช็อป การลงทะเบียนระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (THAI SME-GP)
  3. กิจกรรมยกระดับศักยภาพที่จำเป็น อาทิ การขอมาตรฐาน ISO/IEC29110 การจัดเตรียมข้อเสนอโครงการ, การบริหารโครงการ, การส่งมอบงาน, การบริหารทางการเงิน, การบริหารหลังการขาย
  4. เชื่อมโยงคู่ค้าหรือแหล่งเงินทุน
  5. การขึ้นทะเบียนสินค้าที่ผลิตในประเทศ Made in Thailand เพื่อเพิ่มแต้มต่อในการเสนองานภาครัฐ
  6. โอกาสได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโชว์ศักยภาพและจัดแสดงสินค้า บริการในงาน FTI Expo 2022 , และงาน SME GP DAY 
  7. รับข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในส่วนที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมดิจิทัล และโอกาสในการยื่นเสนอโครงการภาครัฐ

วันและสถานที่อบรม

  • วันที่ 28 – 29 เมษายน 2565 เวลา 08.30 – 16.30 น. จ. กรุงเทพฯ
  • วันที่ 10 – 11 พฤษภาคม 2565 เวลา 08.30 – 16.30 น. จ. ชลบุรี
  • วันที่ 19 – 20 พฤษภาคม 2565 เวลา 08.30 – 16.30 น. จ. ภูเก็ต
  • วันที่ 24 – 25 พฤษภาคม 2565 เวลา 08.30 – 16.30 น. จ. เชียงใหม่
  • วันที่ 26 – 27 พฤษภาคม 2565 เวลา 08.30 – 16.30 น. จ. ขอนแก่น
  • วันที่ 30 – 31 พฤษภาคม 2565 เวลา 08.30 – 16.30 น. จ. กรุงเทพฯ

ซึ่งผู้ประกอบการที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่ >> https://bit.ly/GP_T2022

โดยจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤษภาคม 2565 เท่านั้น! สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนงานโครงการ Thai SME GP-Digital สถาบัน SMI โทรศัพท์ 02-345-1188, 02-345-1122