โนเกียเปิดตัวโซลูชันสมาร์ทโฮม (Smart Home) ใหม่ล่าสุด ที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายสามารถนำเสนอบริการใหม่ๆ ให้กับลูกค้าที่กำลังมองหาโซลูชันดิจิทัลโฮมสำหรับยุคสมัยแห่ง IoT โดยโซลูชันดังกล่าวจะรองรับการใช้งานเซ็นเซอร์ ปลั๊ก และอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ ซึ่งจำเป็นสำหรับการรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน ระบบอัตโนมัติภายในบ้าน และบริการวัดอัตราการใช้งานน้ำและไฟฟ้าอัฉริยะ ซึ่งจะมอบประสบการณ์ที่เรียบง่าย และเพิ่มประสิทธิภาพในการบูรณาการการเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์สำหรับลูกค้า
ทาง Nokia ก็ได้มีการวางเป้าหมายในไทยเอาไว้ดังนี้
- วิสัยทัศน์ของ Nokia จะเน้นไปทางด้าน IoT และในเรื่องของความปลอดภัยสาธารณะเป็นหลัก ซึ่งจะจับมือกับผู้ให้บริการโครงข่ายในไทยทั้ง 3 ค่ายกับนวัตกรรมที่เขาคิดค้นขึ้นมา และจะเน้นอุปกรณ์ IoT ทางด้านสุขภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก
- ภารกิจของ Nokia คือการนำพาประเทศไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล Digital Economy ให้สำเร็จ
- โดยโนเกียก็ได้มีโซลูชั่นต่าง ๆ มากมายที่เข้ามามีบทบาททางด้านนี้ไม่ว่าจะเป็น AIRSCALE ที่สามารถรองรับ 5G ได้ ระบบ TCO Reduction เพื่อควบคุมปัญหาด้านการจราจรด้วยระบบอัตโนมัติ, ระบบการจัดการทุกสิ่งอย่างด้วย IMPACT ซึ่งจะเป็น Platform ที่สามารถจัดการและควบคุมความปลอดภัยกับอุปกรณ์ IoT แทบทุกตัวได้อย่างง่ายดาย
มีการคาดการณ์ว่าจำนวนของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ (IoT) จะเติบโตจาก 1,600 ล้านชิ้นในปี ค.ศ. 2014 กลายเป็น 20,000 – 46,000 ล้านชิ้นภายในปี ค.ศ. 2020 ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายจึงกำลังแสวงหาแนวทางใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ สำหรับทุกแง่มุมของชีวิต ด้วยการนำเสนอโซลูชันแพกเกจให้กับผู้ใช้งาน โฮมเกตเวย์อัจฉริยะของโนเกียจะช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบและควบคุมทุกสิ่งภายในบ้านด้วยสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้อย่างง่ายดาย อาทิ เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิและความเคลื่อนไหว เซ็นเซอร์ตรวจจับประตูและหน้าต่าง อุปกรณ์ตรวจจับควัน สวิตช์ไฟ และกล้องวงจรปิด

เซบาสเตียน โลรองท์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย โนเกีย
โจนาธาน คอลินส์ ผู้อำนวยการด้านการวิจัยสำหรับสมาร์ทโฮมจาก เอบีไอ รีเสิร์ช (ABI Research) กล่าวว่า “ตลาดสมาร์ทโฮมยังคงเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหม่อยู่ ในฐานะผู้นำในเทคโนโลยี IoTเรามองว่าตลาดมีศักยภาพสำหรับการเติบโตที่รวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด จึงสร้างโอกาสในการสร้างรายใหม่ได้แก่ผู้ให้บริการด้านเครือข่าย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตคือการทำงานร่วมกันที่ราบรื่นระหว่างอุปกรณ์จำนวนมาก ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายต้องแน่ใจว่าอุปกรณ์สมาร์ทโฮมภายในบ้าน จะสามารถรองรับการสั่งงานที่หลากหลายภายในอุปกรณ์ชิ้นเดียวได้ ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, ZigBee หรือ Z-Wave ก็ตาม”
โฉมใหม่ของโนเกีย – เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โนเกียและ อัลคาเทล-ลูเซ่น สองบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงินได้ควบรวมผนึกกำลังก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาด ปัจจุบัน โนเกียได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีไร้สายและอุปกรณ์เครือข่ายโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะขยายการเชื่อมต่อของมนุษย์อย่างไร้ขอบเขต โดยกลุ่มธุรกิจของ โนเกีย ประกอบไปด้วย เครือข่ายสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือโมบายล์เน็ตเวิร์ก; เครือข่ายสำหรับอุปกรณ์ประจำที่ หรือฟิกซ์เน็ตเวิร์ก; เครือข่ายสำหรับ IP/Optical; แอพพลิเคชั่นส์และการวิเคราะห์ข้อมูล (Applications & Analytics) และโนเกีย เทคโนโลยี (Nokia Technologies)

1 ในกล้อง 360 สุดเจ๋ง OZO โดยโนเกีย
สมาร์ทโฮม โซลูชัน จากโนเกีย (Smart Home) จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและลดความซับซ้อนของการติดตั้งระบบภายในบ้านให้กับผู้ให้บริการด้านเครือข่าย ด้วย 3 องค์ประกอบสำคัญดังนี้ องค์ประกอบแรก เป็นอุปกรณ์หนึ่งชิ้นทำหน้าที่เป็น Optical Network Terminal (ONT) เรสซิเดนเชียล และสมาร์ทโฮม เกตเวย์ องค์ประกอบที่สอง ได้แก่ โปรแกรมบนสมาร์ทโฟน (ขับเคลื่อนบนระบบ IOS และ Android) เพื่อควบคุมระบบของบ้าน และองค์ประกอบสุดท้าย คือ IoT management platform แบบ end-to-end ที่จะควบคุม ระบบนิเวศของสมาร์ทโฮม (Smart Home ecosystem) ที่มีการใช้งานบางอย่างที่โปรแกรมล่วงหน้าและสามารถจัดการอุปกรณ์อัจฉริยะ (Smart Devices)ทั้งหมดภายในบ้าน
สมาร์ทโฮมเกตเวย์รูปแบบใหม่พร้อมสำหรับผู้ให้บริการทางเครือข่ายแล้วภายในปีพ.ศ. 2559 โดยจะนำเสนอการใช้งานและการติดตั้งโซลูชั่นที่ง่ายดาย สำหรับ over the top หรือ OTT อีกทั้งยังสามารถช่วยผู้ให้บริการด้านเครือข่ายได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดจากอุตสาหกรรมสมาร์ทโฮม ซึ่งได้คาดว่าจะเติบโตขึ้นสูงถึง 24% หรือ 39,000 ล้านดอลล่าร์ ระหว่าง พ.ศ. 2558 ถึง พ.ศ. 25632
นอกจากนี้ บริการดังกล่าวยังเพิ่มเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอของโนเกีย ซึ่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาได้เพิ่มธุรกิจในส่วนโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย อาทิ การให้บริการด้านอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ (IoT services) บริการโซลูชั่นเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรม, อุปกรณ์ อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ และสังคมกลุ่ม อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ รวมถึง IoT platform และ เกตเวย์ ซึ่งเพิ่งประกาศเมื่อไม่นานมานี้

IMPACT เทคโนโลยีการควบคุมทุกอย่างใน Platform เดียว
เฟอเดอรีโค กิลลิเยน ประธานฝ่ายเครือข่ายสำหรับอุปกรณ์ประจำที่ บริษัท โนเกียโซลู กล่าวว่า “อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ ยังคงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งมีการเพิ่มจำนวนของอุปกรณ์อัจฉริยะ ภายในบ้าน จึงทำให้ลูกค้าเจ้าของที่พักอาศัยมองหาโซลูชั่นเดี่ยวที่ง่ายต่อการติดตั้งและจัดการ สำหรับในตลาดที่มีการกระจายและแยกเปนส่วนๆ ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายมีโอกาสที่จะสร้างความแตกต่างจากผู้ให้บริการ OTT และสามารถวางตนเองให้อยู่ในฐานะผู้นำด้านการบริการสมาร์ทโฮมสำหรับอนาคต โนเกีย สมาร์ทโฮม โซลูชัน (Smart Home Solution) นำเสนอโอกาสให้กับผู้ให้บริการที่จะได้ก้าวนำเทรนด์ อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ (IoT trend) และให้บริการลูกค้า ด้วย plug-and-play solution ซึ่งสามารถทำงานกับเทคโนโลยี Wi-Fi ชั้นนำ และมาตรฐานที่จำเป็นสำหรับการจัดการอุปกรณ์อัจฉริยะ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ นอกจากนี้ยังจะช่วยให้ผู้ให้บริการนำเสนอระบบความปลอดภัยในสมาร์ทโฮม และการให้บริการในระบบอัตโนมัติ ซึ่งสามารถสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้และส่งเสริมลอยัลตี้ของลูกค้า”