เอปสันตอกย้ำความสำเร็จหลังรักษาแชมป์โปรเจ็กเตอร์ที่มียอดขายทั่วโลกสูงสุดติดต่อกัน 15 ปี ด้วยการเสริมทัพโปรเจ็กเตอร์รุ่นใหญ่ และเปิดตัวกลุ่มเลเซอร์โปรเจ็กเตอร์ (Laser Light Source Projector) ในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ

%e0%b8%a2%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a2%e0%b8%87-%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b8%b5%e0%b8%a1%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%a5%e0%b8%97%e0%b8%a3_epson_1

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากผลการสำรวจล่าสุดของ FutureSource Consulting บริษัทวิจัยการตลาดยักษ์ใหญ่ของโลก ในปี 2558 เอปสันยังคงสามารถครองตำแหน่ง เจ้าตลาดโปรเจ็กเตอร์ที่ทำยอดขายทั่วโลกสูงสุด ซึ่งบริษัทฯ ทำได้ติดต่อเป็นปีที่ 15 แล้ว สถิตินี้เป็นความสำเร็จที่ น่าภูมิใจ และเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความไว้วางใจของผู้บริโภคทั่วโลกในแบรนด์และเทคโนโลยี 3LCD ของเอปสัน

“ในตลาดเมืองไทยก็เช่นกัน ในปีงบประมาณที่ผ่านมาของบริษัท (1 เมษายน 2558 – 31 มีนาคม 2559) เอปสันมีส่วนแบ่งตลาดโดยรวมอยู่ที่ 36% แต่ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ (เริ่ม 1 เมษายน 2559) เอปสันเพิ่มส่วนแบ่งตลาดขึ้นเป็น 46% โดยมีปัจจัยจากการที่บริษัทฯ ทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเพิ่มจำนวนรุ่นสินค้าเข้าสู่ตลาด จนปัจจุบันมีมากกว่า 60 รุ่น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าทุกกลุ่มตั้งแต่โฮมยูสเซอร์ เอสเอ็มอี องค์กรขนาดใหญ่ สถาบันการศึกษา โรงแรม อีเว้นท์ออร์แกไนเซอร์ ทั้งยังมีการรับประกันสินค้าที่นานกว่าคู่แข่ง และการบริการหลังการขายที่รวดเร็ว”
“ปัจจุบัน บริษัทฯ เป็นผู้นำทั้งในตลาดเครื่องรุ่น Entry หรือเครื่องขนาดเล็กไปจนถึงเครื่องระดับกลาง ส่วนเครื่อง ในกลุ่ม High Performance หรือเครื่องขนาดใหญ่ที่มีความสว่างตั้งแต่ 6,000 ลูเมนส์ขึ้นไป เป็นอีกตลาดสำคัญที่บริษัทฯ กำลังเร่งขยายฐานลูกค้า ซึ่งถึงแม้ตลาดนี้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่ มีจำนวนเครื่องขายต่อปีไม่มากเมื่อเทียบ กับตลาดอื่น แต่มูลค่าต่อเครื่องค่อนข้างสูง และเป็นตลาดที่มีอัตราการขยายตัวทุกปี โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็น บริษัทออร์แกไนเซอร์และธุรกิจพัฒนาคอนเท้นท์สำหรับงานอีเว้นท์ต่างๆ รวมถึงองค์กรที่มีห้องประชุมขนาดใหญ่ เช่น สถาบันการศึกษา โรงแรม” นายยรรยงกล่าว

epson_8

ล่าสุดเอปสันเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่ม High Performance หรือ G-Series 6 รุ่น ได้แก่ EB-G7100, EB-G7805, EB-G7000W, EB-G7200W, EB-G7400U และ EB-G7905U โดยสินค้าใหม่ที่เปิดตัวครั้งนี้ เป็นรุ่นที่ให้คุณภาพของ Contrast Ratio หรือความต่างระหว่างสีดำและสีขาวที่สูงถึง 50,000 : 1 และมีระดับความละเอียดทั้ง XGA, WXGA และ WUXGA และระดับความสว่างตั้งแต่ 5,500 – 8,000 ลูเมนส์ ทั้งยังสามารถรองรับมาตรฐานการ เชื่อมต่อแบบ HDBase-T ได้

epson_6

นอกจากนี้ เอปสันยังได้เปิดตัวกลุ่มสินค้าเลเซอร์โปรเจ็กเตอร์ในตลาดเมืองไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีสินค้าใหม่ 4 รุ่น ซึ่งจะเปิดตัวในราคาเริ่มต้นที่ 599,000 บาท ได้แก่ EB-L1100U ความสว่าง 6,000 ลูเมนส์ EB-L1200U ความสว่าง 7,000 ลูเมนส์ EB-L1405U ความสว่าง 8,000 ลูเมนส์ และ EB-L1505U ความสว่าง 12,000 ลูเมนส์ สามารถฉายภาพที่มีความละเอียด 1,920 x 1,200 ระดับ WUXGA ทั้งยังสามารถรองรับภาพที่มีความละเอียดสูง ระดับ Ultra HD หรือ 4K ในรูปแบบ 4K Enhancement ได้อีกด้วย

นายยรรยงกล่าวว่า “ที่ผ่านมาความต้องการเลเซอร์โปรเจ็กเตอร์ยังมีไม่มาก เนื่องจากราคาเครื่องที่สูงและเทคโนโลยียังไม่เสถียร อีกทั้งผู้บริโภคยังพอใจกับโปรเจ็กเตอร์ที่ใช้งานอยู่ แต่ในวันนี้เทคโนโลยีสำหรับเลเซอร์ โปรเจ็กเตอร์ได้รับการพัฒนาขึ้นมาก และเริ่มได้รับความนิยมสูงขึ้นในหลายตลาดรวมถึงเมืองไทย บริษัทฯ จึงเริ่มรุกตลาดเลเซอร์โปรเจ็กเตอร์อย่างเต็มตัว ด้วยการเปิดตัวสินค้า 4 รุ่น ซึ่งเป็นเครื่องเพื่อการใช้งานในธุรกิจ เหมาะกับกลุ่มลูกค้าธุรกิจที่ต้องการความคุ้มค่าในการลงทุน และต้องการลดขั้นตอนการดูแลรักษาเครื่อง เช่น องค์กรขนาดใหญ่ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ธุรกิจบริการให้เช่าเครื่องโปรเจ็กเตอร์ ธุรกิจพัฒนาคอนเท้นท์ และออร์แกไนเซอร์”

“เลเซอร์โปรเจ็กเตอร์ของเอปสันมีจุดเด่นในด้านคุณภาพของภาพที่ดีเยี่ยม ด้วยการผสานเทคโนโลยีแหล่งกำเนิด แสงด้วยเลเซอร์และ 3LCD ทำให้มีระดับความสว่างของสีและแสงสีขาวสูงขึ้น ภาพจึงมีสีสันสดใสคมชัด ทั้งยังมีมิติสมจริง มีระดับ Contrast Ratio หรือความต่างระหว่างสีดำและสีขาวที่สูงถึง 2,500,000 : 1 ซึ่งสูงที่สุดในตลาดขณะนี้ จึงสามารถแสดงภาพที่มีความลึกและรายละเอียดภาพ รวมถึงแสดงภาพแบบ 3 มิติได้อย่างดีเยี่ยม”

“ต่อมาคือความเสถียร ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่เอปสันมีเหนือคู่แข่งอย่างชัดเจน เนื่องจากชิ้นส่วนสำคัญในการแยก และรวมแสงภายในเครื่องที่ต้องได้สัมผัสกับความร้อนและแสงกระทบอยู่ตลอดเวลา อย่างแผงจอ LCD และ วงล้อสะท้อนแสง (Phosphor Wheel) เป็นแบบ Inorganic ที่สามารถทนความร้อนสูงได้เป็นเวลานาน จึงช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่า ทั้งยังเปิดใช้งานต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงได้ โดยที่คุณภาพของภาพไม่เสื่อมลง เอปสันจึงกล้ารับประกันอายุการใช้งานนานถึง 20,000 ชั่วโมง หรือ 3 ปี ขณะที่คู่แข่งรับประกันที่เพียง 10,000 ชั่วโมง” นายยรรยงกล่าวต่อ
“สุดท้ายคือความหลากหลายในการใช้งาน เลเซอร์โปรเจ็กเตอร์ของเอปสันได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้ อเนกประสงค์กับพื้นที่หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งเครื่องแบบ 360 องศา การทำ Edge Blending หรือ การสร้างภาพพาโนราม่า ด้วยการต่อภาพจากโปรเจ็กเตอร์หลายเครื่อง การทำ mapping บนวัตถุหรืออาคาร ไปจนถึงการปรับและตั้งค่าตำแหน่งเลนส์ เพื่อหาจุดโฟกัสใหม่ได้ทันทีที่มีการเปลี่ยนพรีเซนเตชั่น ทั้งยังสามารถถอดเปลี่ยนและเลือกประเภทเลนส์ให้เหมาะสมกับแต่ละประเภทงาน”

นายยรรยงกล่าวว่า “บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายตลาด ด้วยการเพิ่มสินค้ารุ่นใหม่และนำนวัตกรรมใหม่เข้าสู่ตลาด อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ทั้งยังได้สร้างทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อศึกษาลูกค้าแต่ละกลุ่ม แล้วนำข้อมูล ที่ได้มาพัฒนางานด้านการขาย การบริการ และการสนับสนุนทางเทคนิคให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด นอกจากนี้ยังได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าผ่านบริการหลังการขาย เช่น การบริการแบบ Onsite Service และบริการเครื่องสำรองส่งให้ลูกค้าถึงมือ เพื่อนำไปใช้ก่อนระหว่างรอการซ่อม”

“นอกจากขยายฐานลูกค้าผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในโปรเจ็กเตอร์ของเอปสันแล้ว บริษัทฯ ยังได้สร้างโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มออร์แกไนเซอร์มากขึ้น ผ่านพาร์ทเนอร์ที่เป็นครีเอทีฟเอเจนซี่ หรือ บริษัทพัฒนาคอนเท้นท์ต่างๆ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์การต่อยอดธุรกิจภายใต้แคมเปญสื่อสารการตลาด #TrustInYou ที่ จัดขึ้นเพื่อตอกย้ำความสำเร็จในการก้าวสู่ปีที่ 26 ของเอปสัน ประเทศไทย โดยหยิบยกปรัชญาองค์กรของเอปสัน อันได้แก่ Passion ความมุ่งมั่น ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ซึ่งเป็นสูตรความสำเร็จทางธุรกิจ มาเป็นคุณค่า (Value) หลัก เพื่อใช้ในการสื่อสารแบรนด์ไปยังลูกค้าทุกกลุ่ม ที่ให้ความไว้วางใจกับแบรนด์เอปสันมาโดยตลอดว่า หากทุกคนและทุกองค์กรมีความรัก (Passion) ความมุ่งมั่น (Commitment) ในสิ่งที่ทำ พร้อมความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creative & Innovative) ก็จะสามารถก้าวสู่ความสำเร็จสูงสุดในการทำธุรกิจ และได้รับความไว้ วางใจจากคนในองค์กรเอง จากลูกค้า พันธมิตรคู่ค้า และสังคมได้

ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ของเอปสันพร้อมจะสนับสนุน ทุกธุรกิจ ด้วยเทคโนโลยีระดับโลกผ่านโซลูชั่นดีๆ มากมายที่ทุกคนต่างวางใจตลอดมา โดยแคมเปญนี้ได้ใช้ กลยุทธ์ Expert Endorsement ได้แก่ การใช้ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในสายงานต่างๆ มาตอกย้ำความเชื่อมั่นในแบรนด์ ผ่านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรมพิเศษ Epson Champion Event และการเป็นผู้สนับสนุนในกิจกรรมต่างๆ ซึ่งผู้บริโภคจะได้มีโอกาส Engage กับแบรนด์ และมีประสบการณ์ที่ดีกับผลิตภัณฑ์ในโซลูชั่นต่างๆ ของเอปสันได้มากขึ้น”