AIS ปักหมุดหมายแผนการดำเนินงานปี 2023 มุ่งสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจแบบร่วมกัน Ecosystem Economy ผสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการ และสร้างศักยภาพให้กับคนไทย
การปักหมุดหมายในครั้งนี้ AIS ได้ใช้นวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่มีความอัจฉริยะผ่านโครงข่าย AIS 5G และอินเทอร์เน็ตบ้าน AIS Fibre ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ซึ่ง Ecosystem Ecomony ของ AIS ประกอบไปด้วย 3 หัวข้อได้แก่
- Digital Intelligence Infrastructure พัฒนาโครงสร้างดิจิทัลด้วย AIS 5G และ AIS Fibre พร้อมกับเพิ่มการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมในปีนี้เป็นจำนวนเงิน 27,000 – 35,000 ล้านบาท
- Cross Industry Collaboration เชื่อมต่อกับธุรกิจข้ามอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการรายย่อยมากกว่า 1.8 ล้านร้านค้าทั่วประเทศ
- Human Capital & Sustainability ยกระดับความสามารถ Digital Talent และคนไทยผ่าน Education Platform ที่รวมไปถึงเสริมสร้างความรู้ดิจิทัลสร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS ได้กล่าวว่า จากการดำเนินงานของ AIS ในปีที่ผ่านมาสามารถสร้างการเติบโตที่สวนทางกับสถานการณ์ทุกการแข่งขันในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นรายได้ ผลกำไร และจำนวนของลูกค้า ที่ทำให้ในวันนี้ AIS เป็นผู้บริการที่สามารถส่งมอบโครงข่าย 5G ที่เร็วที่สุด และครอบคลุมมากกว่า 87% พร้อมกับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง AIS Fibre เข้าถึงทุกพื้นที่ของประเทศไทยกว่า 8.8 ล้านครัวเรือน
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่า AIS สามารถก้าวข้ามทุกความท้าทายได้แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และนี่จึงเป็นที่มาของการจัดงาน AIS BEYOND THE BOUNDARIES ที่พร้อมใช้ชีวิตดิจิทัลให้ทุกคนสามารถสัมผัสประสบการณ์เหนือชั้นจาก AIS ได้ทุกช่วงเวลา
ซึ่งภายในงาน AIS ได้ประกาศสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมด้วยการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้มีความอัจฉริยะ (Digital Intelligence Infrastructure) ด้วยความร่วมมือพันธมิตรกับ NT (National Telecom) ด้วยคลื่นความถี่ 700 MHz ส่งผลให้ AIS ถือครองคลื่นความถี่มากที่สุดครบทั้ง 3 ย่านทั้งความถี่ต่ำ, กลาง และสูงรวมกว่า 1460 MHz
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการเปิดตัวเป็นครั้งแรก และรายแรกของประเทศไทยคือ การให้บริการ Millimeter Wave (mmWave) ในย่านความถี่สูงประกาศศักยภาพความเร็วทะลุมาตรฐาน 5G ที่ 3Gbps บนเครือข่าย 5G Millimeter Wave บนคลื่น 26GHz และเปิดตัว 5G SA (Stand Alone) ที่จะมาช่วยประหยัดพลังงานระหว่างการใช้งานอินเทอร์เน็ต 5G
โดยในวันนี้ AIS Fibre ก็สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ของประเทศไทยกว่า 8.8 ล้านครัวเรือน และครองส่วนแบ่งการตลาดของผู้ใช้งานมากกว่า 16% ซึ่งล่าสุด AIS ก็ได้สร้างมาตรฐานใหม่ด้วยเทคโนโลยีระดับโลกกับสายไฟเบอร์ออปติกโปร่งใส (Transparent Fiber Optic) เพื่อสร้างโครงข่ายอินเทอร์เน็ตภายในบ้านความเร็วสูงระดับ Gigabit
นายสมชัยยังได้ย้ำถึงความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ทุกภาคส่วนตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนไปถึงระดับโลกเพื่อสร้างการเติบโตไปด้วยกันได้แก่
- ร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวบัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS
- ร่วมมือกับ Samsung เปิดโปรรายเดือนใหม่ AIS Fibre ในราคา 1,299 บาทต่อเดือนรับไปเลยอินเทอร์เน็ตความเร็ว 1Gbps / 1Gbps, ทีวี Samsung รุ่น UHD AU770 และรับชมความบันเทิงผ่าน AIS Play
- ร่วมมือกับ ZTE นำเข้าแท็บแล็ต 3D รุ่นแรกของประเทศไทยอย่าง Nubia Pad 3D ที่จะมาในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566
- ร่วมมือกับสถาบันทางการเงิน UOB ที่ให้เป็นเจ้าของ iPhone 14 ในราคาเริ่มต้น 850 บาทต่อเดือน และรับเครื่องใหม่ทุก ๆ 24 เดือน โดยในเดือนที่ 25 ลูกค้า AIS สามารถต่อสัญญาว่าจะคืนเครื่อง หรือรับเครื่องใหม่ได้
- ร่วมมือกับ beIN Sports มอบความพิเศษให้กับลูกค้า AIS ทุกคนรับชมกีฬาทุกการแข่งขันฟรีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันนี้จนไปถึงวันที่ 11 เมษายน 2566
- ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์มากกว่า 1.8 ล้านร้านค้าทั่วประเทศที่สามารถนำ AIS Points ไปจ่ายแทนเงินสดได้
- และ AIS Academy ได้มีโอกาสทำงานร่วมกันกับสถานทูตแคนาดาประจำประเทศไทย และสมาคมวิทยาลัยและสถาบันประเทศแคนาดา หรือ Colleges and Institutes Canada (CICan) ในการนำหลักสูตรการเรียนรู้จากสถาบันชั้นนำของประเทศแคนาดามาให้คนไทย และลูกค้าได้เรียนรู้ และพัฒนาตัวเอง
ในช่วงท้าย นายสมชัยยังกล่าวว่า “ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องมากที่สุดในอุตสาหกรรมส่งผลให้ AIS พร้อมก้าวข้ามทุกขีดจำกัดที่จะผลักดันให้เกิด เศรษฐกิจแบบร่วมกัน ECOSYSTEM ECONOMY เพื่อส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลทั้งโครงข่ายสื่อสารอัจฉริยะ และอินเตอร์เน็ตบ้านใหญ่ที่สุดในประเทศ รวมไปถึงงานบริการที่ดีที่สุด ภายใต้การทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทุกภาคส่วนสอดประสานการทำงานโดยใช้จุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาสร้างการเติบโตร่วมกันให้กับลูกค้าคนไทย และประเทศไทย”
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส