คอมมี่ (Commy) ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสมาร์ตโฟนในไทย เปิดตัวฟิล์มกันรอยรุ่นใหม่ ในชื่อรุ่น ‘Commy Super Hydrogel Film’ มีจุดเด่นที่ความบาง 0.15 มม. และสามารถรักษารอยขีดข่วนเล็ก ๆ เองได้ใน 30 วินาที พร้อมประกาศรีแบรนด์ในรอบ 30 ปี !
Commy Super Hydrogel Film ต่างจากฟิล์มไฮโรเจลทั่วไปที่มีเนื้อเจลมากยิ่งขึ้น พร้อมพัฒนาเทคโนโลยี Self-healing ในเนื้อฟิล์มทำให้สมานรอยขีดข่วนได้เอง ภายใน 30 วินาที สำหรับรอยข่วนขนาดเล็ก หรือไม่เกิน 2 นาที สำหรับรอยที่ขนาดใหญ่ขึ้น
โดยตัวฟิล์มจะมีความบางที่ 0.15 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าบางกว่าฟิล์มกระจกโดยทั่วไปที่จะหนาที่ 0.33 มิลลิเมตร ทำให้ภาพที่ส่งภาพฟิล์มมาชัดและตรงกับจอด้านในมากขึ้น โดยยังใช้ TPU เป็นส่วนประกอบภายในอยู่ ทำให้สามารถติดบนหน้าจอได้ทุกประเภท ทั้งแบบจอธรรมดา จอโค้ง หรือจอพับ
โดยฟิล์ม Commy Super Hydrogel Film วางจำหน่ายที่ราคา 690 บาท สำหรับสมาร์ตโฟน (ราคาแตกต่างตามขนาดของจอ) โดยจะเป็นหนึ่งในสินค้าที่จะวางขายแบบ Hybrid Channel หรือขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยแบ่งออกเป็น ช่องทางออนไลน์ จำหน่ายผ่าน COMMY Official Store ทั้ง Lazada และ Shopee เพราะลูกค้าซื้อฟิล์มไปติดเองมากขึ้น หรือสั่งซื้อสินค้าและไปรับบริการติดฟิล์มที่ร้านค้าตัวแทนใกล้บ้านได้ และช่องทางออนกราวด์ ทั้งผ่านตัวแทนจำหน่าย และการจำหน่ายผ่าน 7-Eleven, TG Fone, Jaymart รวมถึงในอนาคต คอมมี่มีแผนจะมีเปิด kiosk ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำภายในสิ้นปีนี้ด้วย
นางสาวอรปรียา มโนวิลาส รองประธานกรรมการ บริษัท คอมมี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดอุปกรณ์เสริมสมาร์ตโฟนในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าตลาดราว 14,000 ล้านบาท จากข้อมูลสำนักวิเคราะห์ Canalys บอกว่าในช่วงไตรมาสแรกปี 2566 ยอดจำหน่ายสมาร์ตโฟน Sell-in shipment ทั่วโลกลดลง 12% โดยยอดจำหน่ายสมาร์ตโฟนในประเทศไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 13 ล้านเครื่องต่อปี คาดว่าเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค มีการตัดสินใจซื้อสมาร์ตโฟนเครื่องใหม่ช้าลง นิยมหันมาซ่อมแซม และใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อป้องกันยืดอายุการใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าประเภท แบตเตอรี่ เคส และฟิล์มกันรอย
คอมมี่ จึงทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อปรับแผนการตลาดโดยยึดแนวคิดความต้องการของลูกค้า ในการพัฒนาธุรกิจ 3 ด้าน ได้แก่ Re-Branding เนื่องจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าไอทีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยวางตำแหน่งแบรนด์ให้มุ่งไปที่กลุ่มคนที่ชื่นชอบสินค้าไอทีที่มีเอกลักษณ์และมีคุณภาพ เน้นการออกแบบสินค้าที่ตอบโจทย์ Personalization มากขึ้น
นอกจากนั้นยังพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มฟิล์มกันรอย เพื่อเจาะตลาดฟิล์มกันรอยในประเทศไทยที่มีมูลค่ากว่า 6,500 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าภายในปีนี้จะมียอดจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 1.1 ล้านชิ้น โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพบว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮโดรเจลฟิล์มได้รับความนิยมจากตลาดผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถที่แตกต่างกันกับฟิล์มกระจกโดยทั่วไป และสินค้าชิ้นแรกหลังการรีแบรนด์ใหม่นี้คือ Super Hydrogel Film นี้นั่นเอง