LG Electronic ประเทศไทย จัดงานฉลอง 10 ปีแห่งความเป็นผู้นำนวัตกรรม OLED พร้อมเปิดตัว LG OLED evo 4K ซีรีส์ G2 ทีวี OLED ที่มีขนาดจอใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย กับราคาค่าตัว 999,990 บาท นอกจากนี้ยังเปิดตัวทีวี OLED อีกหลากหลายรุ่น ที่มีการอัปเกรดเทคโนโลยีภายใน เพื่อบุกตลาดทีวีไทยในปี 2023
สำหรับทีวี LG ที่เปิดตัวใหม่ในปี 2566 จะมีรายการดังนี้
- LG OLED evo 4K ซีรีส์ G2 ขนาด 97 นิ้ว ราคา 999,990 บาท
- LG StanbyME 24 นิ้ว ราคา 44,990 บาท
- LG OLED Posé 55 นิ้ว ราคา 67,990 บาท
- LG OLED 4 ซีรีส์ ได้แก่ Z3, G3, C3, และ B3 ในขนาด 48-88 นิ้ว ราคา 49,990 – 999,990 บาท
- LG QNED 3 ซีรีส์ 10 รุ่น ซีรีส์ LG QNED MiniLED, QNED86 4K, QNED80 4K, QNED75 4K ในขนาด 55-86 นิ้ว ราคา 24,990 – 149,990 บาท
- LG NanoCell 2 ซีรีส์ 8 รุ่น และ LG UHD ทั้งหมด 4 ซีรีส์ 15 รุ่น ราคา 12,990 – 84,990 บาท
นายซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แอลจีได้นำเสนอนวัตกรรมทีวี OLED ระดับโลกสู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทีวี LG OLED จอโค้งขนาด 55 นิ้วรุ่นแรกของโลก และวอลล์เปเปอร์ทีวีไร้ขอบ LG OLED หรือทีวี OLED 8K รุ่นแรกของโลก ไปจนถึงเป็นผู้ผลิตทีวี OLED ที่มีขนาดหน้าจอเล็กที่สุดไปจนถึงใหญ่ที่สุด การนำเสนอผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นออกสู่ตลาด เกิดจากความตั้งใจที่ส่งมอบประสบการณ์ความบันเทิงเหนือระดับและไม่ซ้ำใครให้แก่ผู้บริโภค
โดยมีหัวใจสำคัญคือการพัฒนาด้านนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง สอดคล้องกับแนวคิด “Innovation for a Better Life” แอลจีจะเดินหน้านำเสนอนวัตกรรมทีวีที่ก้าวล้ำ เพื่อก้าวต่อไปอย่างแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้าน OLED”
ส่วนนายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เทรนด์ของตลาดทีวีโลกเปลี่ยนไปทุกปี โดยในปี 2023 นี้ ผู้บริโภคมองหาทีวีที่ใช้ประเภทจอ OLED ที่มีสีสันสดใสมากขึ้น ส่วนขนาดจอก็ต้องมีความกว้างขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังมองหาเทคโนโลยี AI ที่ทำให้ทีวีมีความฉลาดมากขึ้น และสุดท้ายต้องเข้ากับสไตล์การแต่งบ้านของคนยุคใหม่
แนวทางการตลาดของปีนี้ LG จะเน้นไปที่ตลาด OLED พร้อมกับอัปเกรดเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับผู้บริโภค โดยการอัปเกรดใหญ่คือการอัปเกรดชิปประมวลผล AI มาเป็น α9 (อัลฟ่า) AI Processor Gen6 ที่ให้ประสิทธิภาพและมีความเสถียรมากขึ้น ซึ่งจะมี 3 ซีรีส์ที่ได้รับการอัปเกรดชิปประมวลผล ได้แก่ LG OLED 8K evo ซีรีส์ Z3 และ LG OLED evo 4K ซีรีส์ G3 และ C3 นอกจากนี้ยังมีการอัปเกรดความสว่างบนจอภาพเพิ่มขึ้นถึง 70% ด้วยเทคโนโลยี Brightness Booster Max
โดยในงานจะมี LG OLED evo 4K ซีรีส์ G2 ขนาด 97 นิ้ว ที่ได้ชื่อว่าเป็นทีวีจอ OLED ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาโชว์ด้วย ซึ่งมีทั้งใส่ขาตั้งอยู่บนเวที และติดเข้ากับกำแพงอยู่ในส่วนแสดง
นอกจากนี้ LG OLED Posé ขนาด 55 นิ้ว ที่ดีไซน์สวยเหมาะกับการเอาไปตกแต่งห้อง นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว LG StanbyME ขนาด 24 นิ้ว จอทีวีที่มีความเป็นแท็บเล็ต มีแบตเตอรี่ในตัวและมีล้อลาก สามารถพาไปใช้งานตามส่วนต่าง ๆ ของบ้านได้
สุดท้ายทีวีทุกรุ่นของ LG ในปี 2566 จะได้รับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ webOS 23 ทำให้อินเทอร์เฟซการใช้งานของทีวีมีความเรียบง่ายและเป็นสัดส่วนมากขึ้น เช่น ฟีเจอร์ Quick Cards จัดหน้าจอตามสไตล์ ช่วยให้ผู้ชมค้นหาคอนเทนต์ที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็ว, ฟีเจอร์ Quick Settings ยังช่วยให้ตั้งค่าฟังก์ชันที่ใช้งานบ่อยได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปเลือกจากเมนูเต็มรูปแบบทุกครั้ง นอกจากนี้เมนู Home Hub ยังรองรับการเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์ IoT ภายในบ้านอย่างสะดวกผ่านแอปพลิเคชัน LG ThinQ และมีฟีเจอร์ Game Optimizer ที่สามารถตั้งค่าการเล่นได้โดยไม่ต้องเสียเวลาหยุดหรือออกจากเกม
ผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและสาขาที่ร่วมรายการ รายละเอียดของทีวีแอลจีเข้าชมได้ที่ https://www.lg.com/th/oled หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2057-5757 และติดตามกิจกรรมจากแอลจีได้ทาง