จากเหตุการณ์เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ที่ทำเอาเหล่าสาวกเว็บรวมดีลชื่อดังอย่าง Ensogo ต้องตกใจกันถ้วนหน้า เนื่องจากการประกาศปิดตัวอย่างกระทันหัน จากเหตุการณ์ราคาหุ้นตกต่ำ ทำให้ดีลบางดีลที่มีผู้ซื้อไปแล้วนั้น ไม่สามารถนำมาใช้งานได้ และไม่มีความรับผิดชอบใดๆ จากทางบริษัทฯ
ล่าสุด เฟซบุ๊กของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอบผู้บริโภค หรือ สคบ. ได้ประกาศเรื่อง การแจ้งดำเนินการกับทางบริษัทเอ็นโซโก้ (Ensogo) ดังนี้
ซึ่งปัจจุบันมีผู้ร้องเรียนทั้งสิ้นจำนวน ๗๕๒ ราย โดยผู้ร้องได้รับการแก้ไขปัญหาแล้วจำนวน ๒๗๗ ราย คงเหลือผู้ร้องที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาอีกจำนวน ๔๗๕ ราย ต่อมาบริษัท เอ็นโซโก้ จำกัด ได้ถูกฟ้องเป็นคดีล้มละลาย และเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ศาลล้มละลายกลาง (เรื่องที่ ๓๑๕๑/๒๕๕๙ คดีหมายเลขดำที่ ล.๒๓๑๙/๒๕๕๙ คดีหมายเลขแดงที่ ล.๓๓๕๙/๒๕๕๙) ได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ทำให้ สคบ. ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ตามระเบียบคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชนของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๑๐ (๔)
จึงได้มีประกาศแจ้งให้ทราบ เพื่อไปใช้สิทธิขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ที่กองบังคับคดีล้มละลาย ๔ ฝ่ายคำคู่ความ สำนักงานเลขานุการกรม กรมบังคับคดี ถนนบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๘๘๑ ๔๙๙๙ ตามกฎหมายต่อไป
สำหรับเหตุการณ์ปิดเว็บดีลในครั้งนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2559 บ.เอ็นโซโก้ ประสบปัญหาขาดทุนมาระยะหนึ่ง โดยมีการปรับลดพนักงานลง เพื่อให้ตัวบริษัทยังอยู่ต่อไปได้ จนกระทั่งมีการประกาศปิดบริษัท ปิดสำนักงานในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมทั้งสำนักงานที่ตั้งในประเทศไทย ก็มีการประกาศปิดและเลิกจ้างพนักงานในบริษัททั้งหมด
รวมไปถึงเว็บไซต์ Ensogo.co.th ก็มีการปิดตัวลง ทำให้ไม่สามารถซื้อดีลได้อีกต่อไป (แต่ปัจจุบัน ได้เปลี่ยนหน้าเว็บมาเป็นแบบ Corporate Site แทน)
นอกเหนือจากนี้ ผู้ที่ได้ซื้อดีลกับทางเอ็นโซโก้ ก็ไม่สามารถนำดีลที่ได้สั่งซื้อไว้ ไปใช้กับร้านค้าต่างๆ แต่บางห้างร้านก็ยังใจดี ให้ผู้ที่ซื้อดีลสามารถนำดีลมาใช้ที่ร้านได้ ถึงแม้จะทราบดีว่าจะไม่ได้ส่วนแบ่งจากการขายดีลแล้วก็ตาม
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีปมดราม่าที่ร้านบางร้านประกาศไม่รับดีลที่มีการซื้อไปแล้ว และทางสพธอ. ก็ได้เสนอแนะให้ร้านค้าที่มีการผูกดีลกับทางเอ็นโซโก้ไว้ ไม่ควรปฏิเสธดีลที่มีการซื้อ และแนะนำให้ทางเอ็นโซโก้ เป็นตัวกลางในการประสานงานและแก้ไขปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง
อีกหนึ่งประเด็นที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เอ็นโซโก้ตัดสินใจปิดกิจการลงอย่างกระทันหันนั้น คือการที่ผู้ถือหุ้นสัญชาติออสเตรเลีย ได้ตัดสินใจหยุดการลงทุนกับทางเอ็นโซโก้ รวมไปถึงมีการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ประเทสออสเตรเลีย ให้หยุดทำการซื้อขายหุ้นของบริษัทลงชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า “เพื่อรักษาเงินทุนของบริษัทไว้สำหรับโอกาสในการระดมทุนครั้งใหม่ต่อไป”
เรียกได้การปิดเว็บดีลอย่างกระทันหัน ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง บางส่วนก็แก้ปัญหาได้ บางส่วนก็ยังแก้ไม่ได้ ส่วนหนึ่งของผู้เสียหายก็ยังคาดหวังการแสดงความรับผิดชอบจากทางบริษัทต่อไป ถึงแม้หน่วยงานภาครัฐอย่างสคบ. จะยื่นมือมาเป็นตัวกลางให้แล้วก็ตาม และต้องติดตามการดำเนินคดีล้มละลายกับทางเอ็นโซโก้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีกด้วย
ที่มา: สคบ., สพธอ., Marketing Oops