LG เป็นอีกแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์กลุ่มทีวีที่แข็งแกร่งนะครับ โดยเฉพาะกลุ่ม OLED TV ที่ครองตลาดมานาน เพราะ LG สามารถผลิตตัวแผงหน้าจอเองได้ ทำให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดหน้าจอหลากหลาย และมีระดับราคาหลากหลายได้ และนวัตกรรมทีวีล่าสุดที่ LG เปิดตัวในไทยคือ LG SIGNATURE OLED M4 ทีวีจอยักษ์ 97 นิ้ว ที่เชื่อมต่อสัญญาณแบบไร้สาย พร้อมยังเปิดไลน์อัปทีวีประจำปี 2024 อีกด้วย
ทีวีไร้สายสัญญาณ LG SIGNATURE OLED M4
จุดเด่นของทีวี LG รุ่น M4 นี้นอกจากจอขนาดใหญ่มาก 97 นิ้ว ยังเป็นทีวีรุ่นแรกที่ใช้ Zero Connect Box กล่องเชื่อมต่อของทีวีที่ส่งสัญญาณภาพ 4K ไปขึ้นหน้าจอได้แบบไร้สาย โดยพอร์ตต่าง ๆ ของทีวีอย่างพวก HDMI จะอยู่ที่กล่อง Zero Connect Box เพื่อเปลี่ยนเป็นสัญญาณภาพไร้สายแล้วยิงไปยังทีวี โดยตัวกล่องมีดีไซน์พิเศษที่สามารถปรับหมุนเสาสัญญาณในกล่องเพื่อให้ส่งสัญญาณไปถึงทีวีได้ดีที่สุดด้วย โดย LG แนะนำว่าไม่ควรติดตั้ง Zero Connect Box สูงกว่าหน้าจอทีวี และระยะจากกล่องถึงทีวีไม่ควรเกิน 10 เมตร เมื่อวางกล่องหน้าทีวีครับ ส่วนถ้าวางด้านข้างหรือด้านหลัง ไม่ควรเกิน 3 เมตร และแน่นอนว่าแม้จะไร้สายสัญญาณแล้ว แต่เราก็ต้องต่อสายไฟให้ทีวี 1 เส้น และกล่อง Zero Connect Box อีก 1 เส้นอยู่ดี
ส่วนดีไซน์ใช้แบบ One Wall Design ทำให้สามารถแปะผนังแบบติดไปกับกำแพงเลย แถม Sound Bar ก็ออกแบบตัวใหม่ที่แปะได้ได้สนิทแบบเดียวกันด้วย
นอกจากนี้ LG SIGNATURE OLED M4 ยังใช้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดของ LG คือ α11 (อัลฟ่า) AI Processor 4K ทำให้สามารถประมวลผล AI Picture Pro ที่มีคุณสมบัติในการแยกแยะวัตถุในระดับพิกเซล รู้จักวัตถุต่าง ๆ ในภาพและปรับให้เหมาะสม ให้ภาพชัดเจนสะดุดตา แล้วยังมีการปรับการแสดงผลสีภาพตามต้นฉบับที่ผู้กำกับตั้งใจไว้ (AI Director Processing) อีกด้วย
ในเรื่องของเสียง ยังมี AI Sound Pro ที่ชิป α11 สามารถอัปสเกลจากลำโพง 4.2 ของทีวีสู่ 11.1.2 ช่องสัญญาณได้ ทำให้จำลองเสียงรอบทิศทางในตัว พร้อมรีมาสเตอร์เสียงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น (AI Voice Remastering)
LG SIGNATURE OLED M4 ขนาด 97 นิ้ว เปิดตัวที่ราคา 1,099,990 บาท
ทีวี LG รุ่นปี 2024
นอกจากตัว M4 ที่เป็นเรือธงของปี 2024 รุ่นรองลงมาอย่าง LG OLED Evo G4 นั้นแทบจะเหมือนรุ่นพี่เลย แค่ตัดกล่อง Zero Connect Box ออก จึงมีราคาที่ถูกลงอีกระดับ ซึ่งมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 97 – 65 นิ้ว ส่วนตัวรองลงมาอีกคือ LG OLED Evo C4 นั้นเปลี่ยนจากชิป α11 มาเป็นรุ่นรอง α9 และหน้าจอสว่างน้อยลงหน่อย มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 83 – 48 นิ้ว และรุ่นเริ่มต้นในกลุ่ม OLED คือ B4 ที่ใช้ชิป α8 และหน้าจอสว่างน้อยที่สุด ก็มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 77 – 55 นิ้ว ซึ่งกลุ่ม LG OLED นี้มีราคาตั้งแต่ 49,990 – 999,990 บาท
นอกจากนี้ยังมีทีวีในกลุ่ม QNED ประจำปีนี้อีกหลายรุ่นใน 4 ซีรีส์ ได้แก่ QNED91TSA (MiniLED), QNED89TSA, QNED86TSA และ QNED80TSA ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 55 จนถึง 98 นิ้ว ให้ผู้บริโภคได้เลือกตามความต้องการ โดยมีราคาตั้งแต่ 28,990 – 149,990 บาท
นายซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “LG ไม่เคยหยุดพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ และตื่นเต้นที่จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 แห่งการเป็นผู้นำตลาดทีวี OLED ตัวจริง ด้วยการนำเสนอทีวี OLED แบบไร้สายรุ่นแรกของโลกในประเทศไทย เราเข้าใจว่าผู้บริโภคต้องการให้ทีวีเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้านด้วย”
ประกาศ webOS อัปเดตให้ยาว ๆ 5 ปี
จุดเด่นของ LG คือการใช้ webOS ระบบปฏิบัติการในทีวีที่ LG พัฒนาเอง และปีนี้กับโปรแกรม webOS Re:New การันตีอัปเดตระบบให้ 5 ปี จาก webOS 24 รุ่นปัจจุบัน จะอัปให้ยาว ๆ ถึง webOS 28 เลย หมดกังวลเรื่องการใช้งานอินเทอร์เฟซที่ตกยุค หรือปัญหาทีวีไม่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันใหม่ ๆ อีกต่อไป
นายอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “LG มั่นใจว่าในปีนี้เราจะยังรักษาส่วนแบ่งของตลาดทีวี OLED ที่ 60% และส่วนแบ่งของตลาดทีวีโดยรวมทั้งหมด 20% พร้อมตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายทีวี OLED ในปี 2567 อีก 30% ด้วยกลยุทธ์การเปิดตัวไลน์อัปใหม่ของทีวีที่ครอบคลุม โดยปัจจุบันตลาดพรีเมียมในประเทศไทยยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วน 15% ในภาพรวมตลาดทีวีทั้งหมด”