ทรู คอร์ปอเรชั่นแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในจังหวัดเชียงราย โดยมุ่งเน้นการดูแลและรักษาความต่อเนื่องของระบบสื่อสารในสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้น บริษัทได้ออกมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้า True และ Dtac ในพื้นที่ประสบภัย เพื่อให้แน่ใจว่าการติดต่อสื่อสารจะเป็นไปอย่างราบรื่น แม้ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้

นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีของทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การสื่อสารในภาวะวิกฤตเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือการขอความช่วยเหลือ ทรู คอร์ปอเรชั่นได้ยกระดับการดูแลระบบสื่อสารให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยให้สามารถสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง

สถานีฐานทรู คอร์ปอเรชั่น ที่แม่สาย จ.เชียงราย บางแห่งอยู่ในที่สูงปลอดภัยจากอุทกภัย จึงสามารถเปิดเป็นจุดพักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วมเมื่อกลางดึก 02:00 น. วันที่ 11 กันยายน 2567

เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่นได้จัดตั้งทีมปฏิบัติการพิเศษประจำศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ BNIC พร้อมด้วย AI ในภารกิจฉุกเฉิน หรือที่เรียกว่า War Room เพื่อดูแลเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง ทีมงานได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งอย่างใกล้ชิด รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือ อุปกรณ์สำรอง และทีมเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลเสาสัญญาณอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากมีการตัดกระแสไฟฟ้าบางพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ทรู คอร์ปอเรชั่นได้ปรับโหมดการทำงานของเสาสัญญาณด้วยพลังงานแบตเตอรี่สำรองชั่วคราว และเตรียมความพร้อมยานพาหนะขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือเรือท้องแบนสำหรับนำเครื่องปั่นไฟฉุกเฉินเข้าสู่พื้นที่เสาสัญญาณเมื่อสถานการณ์อนุญาต ทั้งนี้เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่นยังได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมโดยร่วมมือกับสำนักงาน กสทช. มาตรการประกอบด้วยการขยายวันใช้งานให้ลูกค้าเติมเงินเพิ่มอีก 7 วัน และระงับการตัดสัญญาณ รวมถึงขยายเวลาชำระค่าบริการให้ลูกค้ารายเดือนของทรูมูฟ เอช ดีแทค ทรูออนไลน์ และทรูวิชั่นส์อีก 7 วัน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทรูในการดูแลและสนับสนุนลูกค้าและชุมชนในช่วงวิกฤตนี้