เจ้าของช่อง YouTube ชื่อว่า MrMoon ออกมาเผยว่าถูกทาง Autodesk เรียกค่าเสียหายกว่า 400,000 บาท หลังจากที่ซื้อ Autodesk Maya Indie แบบรายปีมาแล้ว (ภาพปกคือ Andrew Anagnost ประธานและ CEO ของ Autodesk)

โดยทาง Autodesk ได้ส่งอีเมลมายังผู้ใช้รายดังกล่าว พร้อมขู่จะดำเนินคดีตามกฎหมายหากเจ้าตัวไม่ชดใช้ค่าเสียหายด้วยการไปซื้อผลิตภัณฑ์ Autodesk Maya จนครบจำนวนเงินที่แจ้งไว้

ทำไมถึงโดนเรียกค่าเสียหาย

MrMoon เล่าว่าสาเหตุที่โดนฟ้องก็เป็นเพราะว่าก่อนที่จะใช้ Maya Indie ของแท้นั้น เคยใช้ Maya เถื่อนมาก่อนหลายต่อหลายครั้งใน Instance ของระบบปฏิบัติการตัวเดียวกัน เนื่องจากระบุว่าเหตุที่ต้องใช้ของเถื่อนก็เพราะของแท้มีราคาที่สูง อาจไม่คุ้มค่ากับการซื้อลิขสิทธิ์เพื่อใช้เพียงไม่กี่ครั้ง จนทาง Autodesk สามารถตรวจจับได้ตั้งแต่ช่วงเวลาและจำนวนครั้งที่ใช้ของเถื่อน จึงเป็นที่มาของการเรียกค่าเสียหาย

ช่องทางที่ Autodesk สามารถจับไต๋ได้ว่าใช้ของปลอมมาก่อน ก็เป็นเพราะว่าในตัวซอฟต์แวร์ Maya Indie ของแท้ที่ MrMoon ใช้นั้นพ่วงมาด้วยระบบตรวจจับซอฟต์แวร์ของเถื่อนที่ยังหลงเหลือไฟล์บางส่วนอยู่ในเครื่อง

ข้อมูลจากหลายแหล่งยังระบุว่า Autodesk (รวมถึงผู้ให้บริการซอฟต์แวร์เจ้าอื่น ๆ) จะคอยตรวจตราอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอเพื่อหาซอฟต์แวร์เถื่อน (ดูจากเลขซีเรียล) และรวบรวมข้อมูลก่อนจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดด้วย

ลิขสิทธิ์มูลค่า 150,000 บาท

จากกรณีนี้ทำให้ MrMoon ไปต่อรองกับทาง Autodesk ว่าการที่เขาใช้ Maya Indie ลิขสิทธิ์แท้น่าจะช่วยชดเชยความเสียหายบางส่วนไปได้บ้าง ผลก็คือ Autodesk ยอมลดความเสียหายให้เหลือ 150,000 บาท โดยวิธีการชดใช้ค่าเสียหายจะต้องเป็นการสั่งซื้อซอฟต์แวร์ออนไลน์ หรือจะซื้อกับบริษัทพาร์ตเนอร์ของ Maya ในถิ่นที่อยู่ของตัวเองจนครบความเสียหายก็ได้

ต่อมา ทาง MrMoon ยืนยันทางอีเมลกับ Autodesk จนมั่นใจว่า 150,000 บาท หมายความว่าเป็นการซื้อ 1 ไลเซนส์ จำนวน 3 ปี ก็ได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะทำตามเงื่อนไขของบริษัทแล้วจริง ๆ และมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร จึงได้ไปทำการซื้อซอฟต์แวร์กับผู้ขายในไทย ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายระดับโกลด์พาร์ตเนอร์ จนสามารถจบเรื่องราวทั้งหมดได้ด้วยดี

อยากใช้แต่กลัวโดนฟ้อง ?

หลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้คงรู้สึกว่าเรื่องราวในครั้งนี้ของ MrMoon อาจทำให้ไม่กล้าใช้ซอฟต์แวร์ของแท้แล้ว เพราะกลัวต้องชดเชยความเสียหายจำนวนมหาศาล จากการที่ตัวเองเคยใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนมาด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่

แต่ MrMoon ก็ให้ทางแก้ว่าหากเคยลงซอฟต์แวร์เถื่อนและต้องการใช้ของแท้ ก็สามารถเลี่ยงการถูกตรวจจับจนต้องชดใช้ค่าเสียหายได้ด้วยการลงระบบปฏิบัติการใหม่ แน่นอนว่าต้องเป็นระบบปฏิบัติการของแท้ และล้างฮาร์ดดิสก์ทั้งหมด ไม่ให้ซอฟต์แวร์แท้หาของเถื่อนที่เคยลงไว้เจอ เป็นการเริ่มชีวิตใหม่แบบถูกต้องตามกฎหมาย

นอกจากนี้ Autodesk เองก็มีช่องทางให้กับผู้ที่อาจจะโหลดของเถื่อนมาใช้โดยไม่ได้ตั้งใจในการแจ้งเบาะแสช่องทางได้มาซึ่งของเถื่อนได้ด้วย เหมือนกับเป็นการมอบตัวเหนาะ ๆ และป้องกันความผิดด้วย แต่ต้องเป็นการโหลดแบบไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ เท่านั้น

ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนมีข้อเสียกว่าที่คิด

การใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนไม่ได้แค่เสี่ยงจากการถูกฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่อะไรหลาย ๆ อย่างได้มากมาย

เริ่มตั้งแต่ความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีด้วยมัลแวร์ที่แอบแฝงมากับตัวซอฟต์แวร์เถื่อนที่โหลดมาตามที่ต่าง ๆ ซอฟต์แวร์เถื่อนบางตัวยังอาจเป็นมัลแวร์ทั้งดุ้นที่ใส่หน้ากากซอฟต์แวร์อื่นครอบเอาไว้ได้เลยทีเดียว รายงานเมื่อปี 2022 ของ Redpoints ชี้ว่าโอกาสที่ผู้โหลดซอฟต์แวร์เถื่อนจะเจอของแถมมีมากถึง 50%

นอกจากนี้ การใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนยังเป็นการทำลายผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อีกทาง ทำให้ผู้พัฒนาสูญเสียรายได้ที่ควรจะได้ ข้อมูลจาก Revenera ในปี 2023 พบว่า 33% ของบริษัทซอฟต์แวร์สูญเสียรายได้ 6-10% จากการใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน และมี 8% ที่เสียรายได้ไปกว่า 30%

ยิ่งไปกว่านั้น หากมีผู้ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนเยอะขึ้นเรื่อย ๆ จะเป็นการทำลายความสร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ผู้พัฒนาก็ไม่อยากจะสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาอีก กระทบต่อเศรษฐกิจในภาพใหญ่ระดับโลก เห็นไหมว่าการใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนร้ายแรงแค่ไหน

ในทางกลับกัน การใช้ซอฟต์แวร์แท้ นอกจากเป็นการช่วยผู้พัฒนาแล้ว ยังมีช่องทางในการติดต่อกับผู้พัฒนา หากตัวซอฟต์แวร์ทำงานผิดปกติหรือสร้างความเสียหายกับอุปกรณ์ที่เราใช้อยู่ และช่วยเศรษฐกิจในระดับโลกให้ดียิ่งขึ้นด้วย