หลังบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (SCBX) ประกาศเลื่อนการยุติการให้บริการส่งอาหาร (Food Delivery) ของแอปพลิเคชัน Robinhood ออกไป เนื่องจากบริษัทอยู่ในระหว่างการพิจารณาข้อเสนอเข้าซื้อกิจการทั้งหมดจากผู้ที่สนใจ ทำให้หลายคนสงสัยว่าใครจะมารับช่วงกิจการนี้ จนกระทั่งบริษัท ยิบอินซอย ที่มารับช่วงต่อกิจการฟูดดิลิเวอรี Robinhood ต่อจาก SCBX

ดีลนี้ บริษัท ยิบอินซอย จำกัด และพาร์ทเนอร์ จ่ายทันทีให้บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเงิน 400 ล้านบาท และมีส่วนเพิ่มตามผลประกอบการสูงสุดไม่เกิน 1,600 ล้านบาท

โดยมีอีก 3 บริษัทที่เป็นพาร์ทเนอร์ในดีลนี้คือ บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (30%), เอสซีที เรนทอล คาร์ (10%) และล็อกซบิท (10%) โดยยิบอินซอยลงทุน 50%

ยิบอินซอย เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อายุกว่า 100 ปี ที่มีประสบการณ์หลากหลายด้าน ทั้งดิจิทัล ไฮเทคโนโลยี พลังงานการเกษตรและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเคยเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ระดับโลก เช่น น้ำมัน Texaco, รถบรรทุก Isuzu และผลิตภัณฑ์จาก 3M

แม้ Robinhood เคยประสบปัญหาขาดทุนหนัก 4 ปีกว่า 5,000 ล้าน แต่ยิบอินซอยมองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากแพลตฟอร์มนี้ เนื่องจากการเข้ามาในธุรกิจฟูดดิลิเวอรีผ่าน Robinhood ถือเป็นการขยายธุรกิจเข้าสู่ภาคบริการโดยตรง (B2C) และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแพลตฟอร์มที่มีอยู่ และจุดแข็งของ Robinhood ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือสังคมในช่วงวิกฤตโควิด-19 โดยมีการให้บริการส่งฟรีและไม่เก็บค่าบริการจากร้านค้า ทำให้แพลตฟอร์มนี้เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

แผนการพัฒนา Robinhood ในอนาคตของยิบอินซอย จะพัฒนา Robinhood ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างประโยชน์ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งลูกค้า ร้านค้า ผู้ส่งอาหาร และเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้า ร้านค้า และผู้ส่งอาหารที่มีอยู่แล้ว เพื่อสร้างระบบนิเวศของธุรกิจฟูดดิลิเวอรีที่แข็งแกร่ง