หลังจากที่เปิดตัวในต่างประเทศได้สักพักกับ ROG Phone 9 Series มือถือที่ว่ากันว่าแรงที่สุด ณ เวลานี้ พร้อมฟีเจอร์ AI แบบจัดเต็ม ในที่สุดก็ถูกนำมาเปิดตัวที่ไทยในงาน Thailand Mobile Expo 2025 พร้อมกับราคาเริ่มต้นที่ 29,990 บาท และไปจบที่ 49,990 บาท
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับ ROG Phone 9 Series มือถือเกมมิงระดับเรือธงในปีนี้ เปิดตัวมาให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่น คือ ROG Phone 9FE รุ่นเริ่มต้นราคาเบา ๆ, ROG Phone 9 Pro ตัวท็อปสเปกจัดเต็ม และ ROG Phone 9 Pro Edition ที่มาพร้อมกับสเปกที่เหนือกว่าและอุปกรณ์เสริมแบบจัดเต็ม
จุดเด่นของ ROG Phone 9 อย่างแรกคือดีไซน์ที่มากับความเพรียวบาง เรียบหรู และเหมาะกับการใช้งานทุกสไตล์ ด้วยสีดำ Phantom Black กับกระจกด้านที่กันรอยนิ้วมือได้ดี ซึ่งปีนี้ ROG อัปเกรด Anime Vision ให้มีลูกเล่นเยอะกว่าเดิม โดยการเพิ่มไฟ Mini-LED สีขาวและสีแดงรวมกันกว่า 648 ดวง ทำให้สามารถใส่ลูกเล่นได้เยอะขึ้น ยกตัวอย่าง เราสามารถเล่นเกมโดยใช้ฝาหลังเป็นจอได้เลย หรือที่เรียกว่า Anime Play ซึ่งก็จะมีเกมแนวย้อนยุค (Retro) ที่นิยมช่วง 80-90’s อย่าง Brick Smasher, Snake Venture, Aero Invaders และ Speedy Runner พร้อมระบบเก็บคะแนน (Ranking) ที่สามารถแข่งกับผู้คนทั่วโลกได้ หรือดูแจ้งเตือน รวมถึงนับถอยหลังเวลาจะถ่ายภาพ
ด้านสเปกเองก็จัดเต็มเหมือนกับทุกรุ่น ROG หยิบเอาชิปเซตตัวแรงอย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Elite มาใช้ พร้อมกับปลดล็อกศักยภาพให้ทำงานได้เต็มที่บน X Mode ที่ไม่ว่าจะเป็นเกมไหนบนมือถือ ก็สามารถเล่นได้แบบลื่น ๆ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความร้อนสะสม เพราะดีไซน์การระบายความร้อนแบบ 360° SoC Cooling System Gen 3 ที่ใช้วัสดุระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงหลากหลายชนิด เช่น แผ่นระบายความร้อน (Vapor Chamber) ที่ใหญ่ขึ้น ทำงานร่วมกับพัดลมเสริม AeroActive Cooler X Pro ทำให้ระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิม และเพิ่มซับวูฟเฟอร์กลับมาแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อรีดประสิทธิภาพออกมาสูงสุด
นอกจากนี้ยังใช้หน้าจอที่ดีที่สุดกับอัตรารีเฟรชเรต 185 Hz บนหน้าจอ E6 AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว พร้อมฟีเจอร์ LTPO ที่ช่วยปรับอัตรารีเฟรชเรตอัตโนมัติตั้งแต่ 1-120 Hz ทำให้ได้ทั้งความสมูทลื่นไหลและการจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยม นอกจากนั้นแล้วยังให้ความสว่างได้สูงสุดถึง 2,500 nits
ยุคนี้มือถือรุ่นใหม่ก็ต้องมี AI บน ROG Phone 9 Series ก็มีฟีเจอร์ AI เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น X Sense 3.0 ใช้ประโยชน์จากการจดจำภาพด้วย AI เพื่อช่วยในการเล่นเกม เช่น การตรวจจับเหตุการณ์สำคัญ การเก็บไอเทมโดยอัตโนมัติ และในเวอร์ชัน 3.0 ล่าสุดของ ROG ยังสามารถอัปสกิลของตัวละครในเกม ROV ได้โดยอัตโนมัติ, X Capture 2.0 ใช้การจดจำภาพ AI โดยอัตโนมัติ เพื่อตรวจจับเหตุการณ์สำคัญและบันทึกช่วงเวลาแห่งชัยชนะ การต่อสู้ของทีม และเวลาผู้เล่นจั่วการ์ดตัวละครสำคัญ, AI Grabber 2.0 ใช้ AI สำหรับการจดจำข้อความ ทำให้การค้นหาเป็นเรื่องง่าย และยังรองรับฟีเจอร์แปลภาษาอีกด้วย เพื่อให้การสื่อสารราบรื่นยิ่งขึ้น และ AI Noise Cancelation ระบบตัดเสียงรบกวนด้วย AI โดยตัวเครื่องจะเรียนรู้เพื่อระบุความถี่เสียงที่แตกต่างกัน ทำให้เกมเมอร์สามารถกำจัดเสียงที่ไม่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
ส่วนกล้องถ่ายภาพก็ได้รับการอัปเกรดกล้องหลักในส่วนของการกันสั่นแบบ OIS Hybrid Gimbal Stabilizer 4.0 แบบ 6 แกน พร้อมเซนเซอร์ใหม่ LYTIA 700 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องซูมและกล้องมุมกว้างอัลตราไวด์ยังใช้เหมือนเดิมคือ 32 ล้านพิกเซล และ 13 ล้านพิกเซล
โดยราคาเปิดตัวของ ROG Phone 9 Series แบ่งเป็น 3 รุ่น ได้แก่
- ROG Phone 9 FE (16GB / 256GB) ราคา 29,990 บาท
- ROG Phone 9 Pro (16GB / 512GB) ราคา 39,990 บาท
- ROG Phone 9 Pro Edition (24GB / 1TB) ราคา 49,990 บาท มาพร้อมพัดลม AeroActive Cooler X Pro ในกล่อง
สามารถหาซื้อได้ผ่าน AIS, ASUS Online Store, ASUS Official Store บน Lazada และ Shopee และตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ โดยความพิเศษในช่วงเปิดตัวคือจะมีโปรโมชัน “Early Bird ซื้อก่อนคุ้มกว่า” ด้วยของแถมแบบจัดหนัก ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคมเป็นต้นไป ตามรายละเอียดด้านล่าง
- เมื่อซื้อ ROG Phone 9 ทุกรุ่น ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม – 2 มีนาคม 2568 (ของแถมมีจำนวนจำกัด)
- รับฟรี ! ROG Phone 9 Chill Case มูลค่า 1,490 บาท / ROG Slash Sling Bag 2.0 มูลค่า 1,990 บาท / ROG Phone 9 Screen Protector มูลค่า 690 บาท
- พิเศษ ! เฉพาะในงาน Thailand Mobile Expo 2025 ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 (ของแถมมีจำนวนจำกัด)
- ซื้อ ROG Phone 9 Pro / 9 Pro Edition รับของแถมเป็น จอย ROG Tessen Mobile Controller มูลค่า 3,590 บาท
- ซื้อ ROG Phone 9 FE รับของแถมเป็นหูฟัง ROG Cetra True Wireless มูลค่า 1,990 บาท
ใครอยากดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกลิงก์ดูได้ที่ https://th.rog.gg/sgo5f3