SharkNinja ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านประกาศเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องดูดฝุ่นรุ่นล่าสุด ‘Shark CleanSense IQ+’ ได้รับการออกแบบผสมผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะและฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
สเปก Shark CleanSense IQ+
ระบบ Auto-Empty System
- แท่นชาร์จพร้อมระบบเทฝุ่นอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องสัมผัสกับฝุ่นละอองโดยตรง และสามารถจัดเก็บฝุ่นได้นานสูงสุด 30 วัน ลดความถี่ในการเทฝุ่น และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน
- มาพร้อมแผ่นกรอง HEPA ที่สามารถดักจับสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.99% ช่วยให้อากาศภายในบ้านสะอาดบริสุทธิ์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้หรือผู้ที่ใส่ใจในคุณภาพอากาศภายในบ้าน
ด้ามจับ Multi-Flex
- ออกแบบให้สามารถปรับงอได้ถึง 90 องศา ช่วยให้การทำความสะอาดใต้เฟอร์นิเจอร์ไม่ต้องก้ม ลดความเมื่อยล้าขณะใช้งาน เพิ่มความสะดวกสบายในการทำความสะอาดในพื้นที่เข้าถึงยาก

แปรงหมุน Hybrid Clean
- แปรงหมุนอเนกประสงค์ที่ออกแบบมาสำหรับพื้นผิวหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นพื้นแข็ง พื้นพรม หรือพื้นกระเบื้อง
- สาวคนไหนผมร่วง ก็มีเทคโนโลยีป้องกันเส้นผมพันกัน ช่วยให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ต้องเสียเวลาในการตัดเส้นผมที่พันกัน
- แถบซิลิโคนและแปรงกำมะหยี่ ช่วยขจัดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก
เทคโนโลยี Smart IQ PRO
- เซนเซอร์ 4 ตัว ที่สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อสิ่งสกปรกได้อย่างแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
- Dirt Detect เพิ่มพลังดูดอัตโนมัติเมื่อตรวจจับสิ่งสกปรกที่ซ่อนอยู่ ช่วยให้ทำความสะอาดสิ่งสกปรกขนาดเล็กได้อย่างหมดจด
- Edge Detect เพิ่มพลังดูดบริเวณขอบและมุมห้องสูงสุด 2.5 เท่า ช่วยให้ทำความสะอาดตามขอบและมุมห้องได้
- Floor Detect ปรับพลังดูดอัตโนมัติตามประเภทพื้นผิว ช่วยให้ทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกพื้นผิว
- Light Detect ไฟส่องสว่างอัตโนมัติ ช่วยให้มองเห็นฝุ่นในที่มืด ช่วยให้ทำความสะอาดในที่แสงน้อยได้อย่างทั่วถึง
หน้าจอ LED
- แสดงข้อมูลการทำงานแบบเรียลไทม์ เช่น สถานะการตรวจจับฝุ่น ระดับแบตเตอรี่ และโหมดการทำงาน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและตรวจสอบการทำงานของเครื่องดูดฝุ่นได้อย่างง่ายดาย
Shark CleanSense IQ+ จะจำหน่ายที่ไหนบ้าง ?
ผลิตภัณฑ์ ‘Shark CleanSense IQ+’ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จาก Shark และ Ninja พร้อมวางจำหน่ายแล้วที่ Power Buy 20 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น พัทยา, ภูเก็ต, หาดใหญ่, ขอนแก่น และชลบุรี
และในสาขาหลักอย่าง เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล เวสต์เกต และเซ็นทรัล ลาดพร้าว ที่มอบประสบการณ์ช็อปปิงระดับพรีเมียม พร้อมทดลองใช้งานจริง รวมถึงช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เพิ่มความสะดวกสบายในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์