Gottimize เอเยนซี่ และผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนและการซื้อสื่อโฆษณาออนไลน์ และการทำการตลาดบนมือถือ จับมือกูเกิล จัดงาน Mobile App Marketing 2017 เพื่ออัปเดตเทรนด์ตลาดโมบาย แอปพลิเคชัน และกลยุทธ์การสร้างแอปให้ติดตลาด พร้อมอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีในการจัดการโฆษณา บนโลกโซเชียลมีเดีย
ภคศุภ เพ็ชรดี ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัล มีเดีย บริษัท ก็อตติไมซ์ จำกัด
นายภคศุภ เพ็ชรดี ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัล มีเดีย บริษัท ก็อตติไมซ์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดโมบายแอปพลิเคชันในเมืองไทย ในปัจจุบันถือว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ด้วยการเข้าถึงของผู้บริโภคที่มีเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี 4G ส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว และใช้เวลาในการท่องโลกออนไลน์กันมากขึ้น
ก็อตติไมซ์ ในฐานะดิจิทัลมีเดีย เอเจนซี่ ได้มองว่านี่เป็นโอกาสทางด้านธุรกิจ และเดินหน้ารุกตลาดนี้อย่างเต็มกำลัง โดยในปีนี้ ทางก็อตติไมซ์ตั้งเป้าในการเป็น Performance Base มากกว่าการเป็นมีเดียแพลนเนอร์ เพราะว่ามีทีมงานในการคิดวิเคราะห์ วางแผนกลยุทธ์ และซื้อโฆษณาออนไลน์ เพื่อให้ธุรกิจของลูกค้าได้บรรลุเป้าหมาย และเติบโตอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงการมีเทคโนโลยีในการลงโฆษณาออนไลน์ จากวงการสื่อดิจิทัลของเกาหลี อย่าง Yellow Mobile ช่วยให้ก็อตติไมซ์สามารถสร้างความได้เปรียบ และสร้างความแตกต่างจากผู้ให้บริการของรายอื่น
และรวมไปถึงการได้รับการคัดสรรจากกูเกิล จนได้เป็น Google Premier Partner ในการลงโฆษณาออนไลน์ บนบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Google Search, YouTube, Facebook Ads และอีกหลายบริการ จะช่วยให้แคมเปญของลูกค้านั้นประสบความสำเร็จ และมีประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์
บริการต่างๆ ที่ก็อตติไมซ์ให้บริการในด้านการโฆษณาออนไลน์
ในส่วนของเทรนด์โมบายแอปพลิเคชัน ที่จะมาแรงในปีนี้นั้น คุณภคศุภได้กล่าวว่า ในปีนี้ จะมีแอปพลิเคชันเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกที่หลากหลาย แต่พื้นที่การจัดเก็บบนสมาร์ทโฟนที่ใช้งานนั้นมีอยู่จำกัด การโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการแอปพลิเคชันที่ต้องการนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยต้องผ่านการวิเคราะห์กลุ่มผู้ใช้งานก่อนที่จะลงโฆษณา รวมถึงมีเทคโนโลยีในการช่วยเหลือให้ผู้ใช้งานแอปพลิเคชันนั้น กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
นอกจากนั้น ลูกค้าจะเลือกใช้เงินลงโฆษณาในกลุ่ม Mobile Base มากขึ้น และจะไม่ทำโฆษณาเพื่สร้างความรับรู้แบรนด์อย่างเดียว แต่ต้องวัดมูลค่าความสำเร็จเป็นเม็ดเงินที่ตอบกลับได้ และจะมีเครื่องมือใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยในการบริหารโฆษณาออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ เข้าถึงกลุ่มคนใช้งานมากขึ้น