LINE ผู้นำด้าน Platform แชทบนมือถือยอดนิยมระดับโลก เผยตัวเลขความสำเร็จพร้อมประกาศวิสัยทัศน์ปี 2017 ก้าวสู่การเป็น “Mobile Portal” หรือระบบการเชื่อมต่อเข้ากับทุกสิ่งโดยเน้นการให้บริการที่ครอบคลุมทั้ง 4 ด้านดังนี้

  • ด้านการติดต่อสื่อสาร (Communication)
  • ด้านคอนเทนต์ (Content)
  • ด้านบริการ (Services)
  • ด้านบริการ (Commerce)

คุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย

ซึ่งปัจจุบันทุก ๆ คนต่างก็ใช้มือถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันกันไปแล้ว และแอปแรก ๆ ที่เราโหลดนั้นก็คงไม่พ้นแอปฯ แชทเจ้าประจำอย่าง LINE ซึ่งทางคุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย กล่าวไว้ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสำคัญมาก ๆ สำหรับ LINE ซึ่งทั่วโลกมีผู้ใช้งานทั้งสิ้นกว่า 216 ล้านคน และประเทศไทนก็เป็นอันดับ 2 ของจำนวนผู้ใช้งานทั้งหมด และปัจจุบันก็มี Mascot ต่าง ๆ ออกมามากมาย ซึ่งในงานนี้เขาก็ได้พามาทั้งหมด 4 ตัวคือ Cony, Brown, Choco และ Pangyo ซึ่งเป็นแพนด้า Mascot ตัวล่าสุดนั่นเอง

ซึ่งในปีที่ผ่านมาทาง LINE ก็ได้ตั้งเป้าเอาไว้และทำได้สำเร็จไปแล้วเช่น

  • LINE TV สร้างการเติบโตด้วยยอดรับชมที่สูงขึ้นกว่า 136% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาและมีซีรี่ส์ต่าง ๆ ชื่อดังออกมาเป็นกระแสในโซเชียลมากมายเช่น บันทึกของตุ๊ด เป็นต้น
  • LINE MAN บริการน้องใหม่ซึ่งประกอบไปด้วยบริการสั่งซื้ออาหารและของสะดวกซื้อ รวมไปถึงบริการรับส่งพัสดุต่าง ๆ ที่เปิดตัวไปเมื่อพฤษภาคมปี 2559 ที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีผู้ใช้งานแล้วสูงถึง 400,000 คนพร้อมจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมแล้วกว่า 20,000 ร้าน ซึ่งเข้าสู่อันดับ 1 บริการส่งอาหารภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีเต็ม
  • LINE GAME ครองอันดับ 1 ในตลาดเกมมือถือของไทยด้วยเกมที่ฮิตติดลมบนอย่าง เกมเศรษฐี หรือ LINE Cookie Run สร้างเสียงหัวเราะและความสนุกสนานให้ผู้เล่นได้ทุกเพศทุกวัย
  • LINE STICKERS ได้รับความนิยมมาก ๆ ด้วยจำนวนยอดดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 500 ล้าน Set ซึ่งบ่งบอกถึงความนิยมการใช้สติกเกอร์บอกความรู้สึกของคนไทยได้เป็นอย่างดี

ซึ่งเขาก็ได้พูดถึงการใช้งานแอปที่น้อยลงเรื่อย ๆ ในปัจจุบันเมื่อเทียบกับยุคแรกเริ่มของ Smartphone ซึ่งเฉลี่ยเพียง 32 แอปเท่านั้นที่ถูกโหลดจากจำนวนแอปบน Store กว่า 2.2 – 2.6 ล้านแอป เนื่องจากพื้นที่ในเครื่องที่ไม่ค่อยจะเพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบัน รวมไปถึงหลาย ๆ แอปนั้นไม่ตอบโจทย์การใช้งาน ดังนั้น LINE ก็จะเป็น 1 ในตัวกลางที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องโหลดแอปอื่น ๆ เพิ่มลงไปให้เปลืองพื้นที่ โดยจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็น Portal หรือแหล่งรวมรวมทุกสิ่งอย่างเข้ามาไว้ด้วยกันทั้งหมดจนเรียกได้ว่า แค่เข้าแอป LINE ก็สามารถทำได้ทุกอย่างที่คุณต้องการดังนี้

ด้านการติดต่อสื่อสาร (Communication)

จากผลสำรวจของ Nielsen พบว่าคนไทยใช้เวลาเฉลี่ยกว่า 234 นาทีต่อคนต่อวันในดูมือถือเพื่อทำงาน ติดต่อสื่อสารหรือพูดคุยกับคนอื่น ซึ่งกว่า 70 นาทีนั้นคือผู้ที่ใช้งานแอป LINE ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่ง LINE ก็จะพยายามหาสิ่งต่าง ๆ เข้ามาเพื่อตอบโจทย์ให้ผู้ใช้งานอยากใช้งานบนแอป LINE มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีการพัฒนาบริการต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ Lifestyle ของผู้ใช้งานทุกคนอยู่ตลอดเวลา

ด้านคอนเทนต์ (Content)

เรียกได้ว่าสื่อ ณ ปัจจุบันได้ถูกย้ายฐานจาก TV มาสู่ดิจิทัลหรือ Online มากขึ้นเรื่อย ๆ LINE TV จึงถือได้ว่าเป็นอีก 1 สถานที่ ที่ช่วนยให้ผู้ผลิตรายการ Content ต่าง ๆ ดี ๆ มากมายสามารถเติบโตไปพร้อม ๆ กันได้อย่างยั่งยืน โดย LINE TV ก็จะมี Content ต่าง ๆ เพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา ความสวยงาม( Beauty) ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากละคร, เพลง, การ์ตูน และการถ่ายทอดสด (LIVE) นั่นเอง โดยปีนี้จะเริ่มมีการจับมือกับพันธมิตรช่องดัง ๆ เพื่อผลิต Content พิเศษสุด Exclusive บน LINE TV ขึ้นมาอีกด้วย

รวมไปถึงด้านการข่าว LINE ก็มีบริการ LINE Today ซึ่งเป็นบริการกระจายข่าวที่จะมีข่าวเด่น ๆ ทุกวันให้กับผู้อ่านได้ติดตามอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาโดยเป็นข่าวจาก Partner ต่าง ๆ มากมายซึ่งแน่นอนว่า 1 ในนั้นคือแบไต๋เรานั่นเอง (หรือจะติดตามผ่านช่องทาง @beartai ก็ได้เช่นกันนะครับ อิอิ)

ด้านบริการ (Services)

LINE ก็ได้แนะนำในส่วนของ Chatbot ซึ่งเป็นอีก 1 Feature หลักที่จะช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการ LINE Official ของคุณได้อย่างง่ายดายและช่วยให้ลูกค้าของคุณโต้ตอบกับคุณได้เพื่อเพิ่มยอดขายได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งปัจจุบัน Chatbot นั้นสามารถทำได้แทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร ดูหุ้น เช็คยอดบัตรเครดิต เรียก Uber หรือแม้แต่การเช็คสินค้า(ผ่านทาง Lazada) ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

 

ด้านการขายสินค้าและบริการ (Commerce)

เรียกได้ว่าปัจจุบันการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทาง E-commerce ในประเทศไทยยังคงมีสัดส่วนที่ไม่โตมากเพียง 3.8% ของมูลค่าการค้าปลีกทั้งหมด LINE จึงอยากเชื่อมบริการบนโลก Offline เข้ากับโลก Online ให้กับคุณซึ่งเป็นบริการในรูปแบบ O2O (Offline to Online) โดยมีการนำเสนอ Beacon ที่จะช่วยให้ลูกค้าที่เดินเข้ามาในบริเวณร้านของเราสามารถรับ Promotion หรือรับแจ้งกิจกรรมต่าง ๆ เข้าไปใน LINE ได้โดยผ่าน Bluetooth ซึ่งเขาก็ได้ทดสอบให้ดูโดยการแสดงหน้าจอผู้เข้าร่วมในงาน รวมไปถึงตรวจสอบคนที่เข้าไปถ่ายรูปหรืออยู่ใกล้กับเหล่า Mascot ได้อีกด้วย

รวมไปถึงบริการ LINE MAN ซึ่งเป็นบริการช่วยในการส่งพัสดุหรือสินค้าที่ถูกปรับเปลี่ยนจากบริการสั่งซื้ออาหารและของสะดวกซื้อไปสู่บริการรับส่งพัสดุเต็มรูปแบบ โดยการจับมือกับ Alpha ซึ่งเป็น 1 ในผู้ให้บริการนี้อยู่แล้วในปัจจุบันเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งานนั่นเอง

ในฐานะที่ LINE เป็นผู้นำด้าน Platform มือถือและเป้าหมายการเป็น Mobile Portal นั้น พวกเขาก็จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนา Services ต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระบบ Digital Economy ของประเทศไทยต่อไป

…แล้วคุณล่ะ พร้อมจะเปลี่ยนหรือยัง?