หลังจาก iflix ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งภาพยนตร์และซีรี่ส์ออนไลน์เริ่มให้บริการในไทยมาเกือบ 2 ปี ล่าสุดประกาศความสำเร็จ มีสมาชิกในไทยมากกว่า 1 ล้านคน โดยผู้ชมส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 18 – 34 ปี พร้อมประกาศสร้างซีรี่ส์ของตัวเอง 2 เรื่อง
iflix มองว่าคู่แข่งสำคัญที่สุดคือเนื้อหาเถื่อน
จุดเด่นสำคัญของ iflix ที่ใช้ต่อสู้ในตลาดสตรีมมิ่งที่กำลังร้อนแรงที่มีคู่แข่งมากขึ้นเรื่อยๆ ในไทย และต่อสู้กับเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์คือค่าบริการที่ถูกมาก แค่ 100 บาทต่อเดือน (หรือเหมาจ่ายปีละ 1000 บาท) และเนื้อหาที่หลากหลายทั้งคอนเทนท์จากอเมริกา, ยุโรป, เกาหลี, ไทย ครบทุกหมวดไม่ว่าจะเป็นซีรี่ส์, ภาพยนตร์, สารคดี, เรียลลิตี้, อนิเมชั่น โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ที่ให้บริการจะมีซับไตเติ้ลไทย และสามารถดาวน์โหลดเก็บไว้ในแอปเพื่อดูภายหลังได้ แต่ iflix ไม่ได้เน้นหนังใหม่แบบชนแผ่น
ส่วนคู่แข่งอื่นๆ อย่าง Netfilx, VIU ฯลฯ ไอฟลิกซ์มองว่าแต่ละบริการเจาะกลุ่มผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้ใช้มักไม่ทับกัน ผู้ใช้ก็จะเลือกบริการตามเนื้อหาที่ตัวเองอยากดู การที่มีคู่แข่งเยอะ ก็หมายถึงการขยายฐานผู้ใช้โดยรวมออกไปด้วย ก็ทำให้ iflix มีโอกาสได้ผู้ใช้มากขึ้นในอนาคตด้วยเช่นกัน
สถิติในไทย iflix (เมษายน 2560)
- สมาชิกในไทยมากกว่า 1 ล้านราย
- ผู้ใช้ Active ราว 1 แสนต่อเดือน
- ผู้ใช้ในไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจาก อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
- ชม iflix เฉลี่ย 135 นาทีต่อวัน (ชม 2 ชั่วโมงต่อวัน ถือว่าเยอะมาก)
- หนึ่งสัปดาห์จะดู 2.6 วัน
- ช่วงเวลายอดนิยมคือ 21.00 – 01.00 น.
- สมาชิก 65% มาจากกลุ่มอายุ 18 – 34 ปี โดยแบ่งเป็น Gen Y 39% และกลุ่ม Millennials อีก 27%
- ผู้ใช้ชาย 55% ผู้หญิง 45%
- ดูผ่านมือถือและแท็บเล็ตเป็นอันดับหนึ่งคือ 69% (3% เป็นทีวี)
- ดูบน Android 72%
- เนื้อหายอดนิยมตามลำดับคือ ดราม่า, เกาหลี, คอมเมดี้, แอคชั่น และไทย
สถิติโดยรวมของ iflix
- เปิดให้บริการ 10 ประเทศทั่วโลกคือ ไทย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, ศรีลังกา, บรูไน, มัลดีฟส์, ปากีสถาน, เวียดนาม และเมียนม่าร์
- สมาชิกรวมกันมากกว่า 5 ล้านราย
- รับชมเนื้อหาไปแล้วกว่า 5 พันล้านนาที
- เนื้อหายอดนิยมคือ ดราม่าและคอมเมดี้
หัวใจสำคัญของบริการอยู่ที่เนื้อหา
iflix จึงได้ประกาศสร้างเนื้อหา Original 3 รูปแบบ
- ซีรี่ส์โรแมนติกวัยรุ่น 8 ตอนเรื่อง Magic Hour ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์อันดับหนึ่งของอินโดนีเซีย
- ซีรี่ส์คอมมิดี้ Watch Your Mouth ที่ผลิตในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย โดยแต่ละประเทศจะดำเนินรายการโดยพิธีกรตลก
- ร่วมกับ Skop Production Group และ Viper Studio ของมาเลเซีย โดยนำภาพยนตร์มาให้ชมหลังจากฉายในโรงภาพยนตร์ และวางแผนสร้างมินิซีรีส์แบบเอ็กซ์คลูซีฟในอนาคต
iflix มีเนื้อหาจาก 170 สตูดิโอทั่วโลก โดยมีพาร์ทเนอร์ด้านเนื้อหาในไทยมากกว่า 30 ราย เช่น GDH, GMM, Tiga (ได้โคนันทั้งหมดมาลง), Rose, Xact และในช่วงที่ผ่านมา iflix มีผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหามาร่วมทีมอย่างคุณ Sean Carey (ฌอม แครี) มาร่วมทีมเป็น Chief Content Officer และคุณจุน ลี ที่ปรึกษาพิเศษของคอนเทนท์เกาหลี
กลยุทธ์การเติบโตของ iflix
กลยุทธ์สำคัญของ iflix คือการจับมือการพาร์ทเนอร์มากมาย เพื่อนำเสนอ iflix ให้กับลูกค้าของพาร์ทเนอร์ต่างๆ เช่นแจกสมาชิกให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟน Samsung หรือ Air Asia ที่แจกสมาชิก iflix ให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดหนังลงมือถือก่อนขึ้นบิน (เอาไว้ดูบนเครื่องบิน)
2 ปีที่แล้ว CATCHA Group เป็นผู้ลงทุนหลักของ iflix หลังจากที่เริ่มให้บริการก็มีผู้ร่วมลงทุนมากขึ้น เช่นค่าย MGM หรือกลุ่ม Sky และผู้ให้บริการในภูมิภาคต่างๆ ทำให้อนาคต iflix สามารถเติบโตในประเทศอื่นๆ ได้อีก เช่นในกลุ่มแอฟริกา
นอกจากนี้ยังมีแคมเปญใหม่ในช่วง 1 – 15 พ.ค. คือส่วนลดค่าสมาชิก iflix 70% โดยใช้โค้ด iflixsummersale ระหว่างการซื้อ
