กสทช. และสหพันธรัฐรัสเซีย ลงนามความร่วมมือด้านโทรคมนาคม โดยรัสเซียเสนอแนวทางตั้งโฮลดิงคัมพานีร่วมกัน ให้ไทยถือหุ้น 51% และรัสเซีย 49% เพื่อสร้างแพลทฟอร์ม Social Network แอปแซท และเว็บค้นหาข้อมูลสำหรับใช้เองภายในประเทศ ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่าจะสรุปเรื่องนี้ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมาคณะของกสทช. ได้เข้าร่วมประชุมและลงนามความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กสทช. และกระทรวงโทรคมนาคมและการสื่อสารมวลชนสหพันธรัฐรัสเซีย (Ministry of Telecom and Mass Communications of the Russian Federation) ที่กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย โดยสาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้คือ พูดคุยเรื่องการลดค่าบริการข้ามแดนระหว่างไทยกับรัสเซีย โดยมีตัวแทนจากทรูพูดคุยกับผู้ให้บริการหลัก 4 รายของรัสเซีย นอกจากนี้ยังมีแลกเปลี่ยนความรู้ด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ และความร่วมมือด้านทีวีดิจิทัล
ประเด็นที่น่าสนใจคือ นายนิโคลัย นิกิโฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโทรคมนาคม และการสื่อสารมวลชนของรัสเซีย เสนอให้ไทยและรัสเซียตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อให้บริการโซเซียลเน็ตเวิร์ค แชท และเว็บค้นหาเป็นของตัวเอง โดยนำแพลทฟอร์มของรัสเซียที่ได้รับความนิยมในยุโรปอย่าง vk.com (โซเซียลเน็ตเวิร์ค), Yandex.com (เว็บค้นหา) มาพัฒนาเพื่อใช้ในประเทศไทย
รัสเซียมองว่าที่ผ่านมาไทยมีปัญหาไม่สามารถจัดเก็บรายได้จากการเครือข่ายของต่างประเทศไทยได้เลย ซึ่งแต่ละปีมีเงินตราไหลออกนอกประเทศมากกว่าหมื่นล้านบาท (เช่นซื้อโฆษณา google, facebook) โดยที่รัฐบาลไทยไม่สามารถเก็บภาษีได้เลย แต่การที่มี Social Network ของไทยเอง ก็ทำให้จัดเก็บรายได้ได้ง่ายขึ้น
โดยกสทช. จะนำเรื่องนี้เสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และทางฝั่งรัสเซียก็จะเสนอต่อนายกรัฐมนตรี และเสนอต่อให้นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซียต่อไป โดยคาดว่าในการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก (APEC) จะมีการพูดคุยเรื่องนี้กันต่อระหว่างผู้นำไทยและรัสเซีย
และประเด็นปิดท้ายที่น่าสนใจคือ นายฐากรเปิดเผยว่าทางรัสเซียสอบถามว่า จริงหรือไม่ที่หัวเว่ย เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านไอทีให้ไทย เพราะผู้บริหารของหัวเว่ยอ้างอย่างนั้น ทำให้ชาติอื่นไม่กล้าลงทุนในไทย ซึ่งนายฐากรก็ตอบว่าไม่จริง ซึ่งก็เป็นประเด็นที่รัฐบาลไทยต้องระวัง