งานสัมมนา Asia IoT Business Platform ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ วันที่ 24 – 25 กรกฎาคม 2560 ได้เน้นย้ำถึงประเด็นที่สำคัญเกี่ยวกับ เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ในประเทศไทย โดยงานนี้ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยจะหยิบยกประเด็นต่าง ๆ ขึ้นมาอภิปราย เช่น การพัฒนาด้านดิจิทัลในปัจจุบันในประเทศไทย รวมไปถึงความท้าทายและปัญหาต่างๆ ที่ภาคธุรกิจและองค์กรในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ กำลังเผชิญอยู่ งานสัมมนา 2 วันจัดขึ้นที่โรงแรมเรอแนสซองซ์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์นี้ มีผู้บริหารระดับอาวุโสกว่า 300 ท่านและผู้นำในวงการไอทีทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศให้เกียรติมาเข้าร่วมงาน โดยร่วมอภิปรายเพื่อก่อให้เกิดองค์ความรู้ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจภายในภูมิภาคนี้
นาย อิลซ่า สุพับโต ผู้อำนวยการ Asia IoT Business Platform กล่าวว่า “งานนี้จะเป็นแพลทฟอร์มที่มีประโยชน์สำหรับผู้นำด้านอุตสาหกรรมและไอทีจากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะมารวมตัวกันและร่วมปรึกษาหารือกัน ซึ่งจะส่งเสริมให้ความรู้และความเข้าใจเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นในวงการนี้ ซึ่งขั้นตอนนี้นับว่าเป็นก้าวที่สำคัญที่สุดก้าวหนึ่งในการผลักดันให้เกิดการปฏิรูปวงการดิจิทัลในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยให้ผู้มีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ได้หยิบยกปัญหาและความท้าทายต่างๆ ขึ้นมานำเสนอให้ผู้ให้บริการโซลูชั่นและผู้ค้าร่วมกันแก้ไขปัญหา”
เมื่อไม่นานมานี้ Asia IoT Business Platform ได้ทำการสำรวจผู้นำด้านไอทีในภูมิภาคอาเซียนว่ามีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับ เทคโนโลยี IoT จากการสำรวจพบว่า ในปัจจุบันนี้มีหน่วยงานและองค์กร 73.3% ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการสำรวจหรือค้นหาเทคโนโลยี IoT ที่สามารถนำมาใช้งานได้จริง อย่างไรก็ตาม มี 7% ที่รายงานว่าได้รับประโยชน์จากการใช้งานเทคโนโลยี IoT โดยชี้แจงว่า ปัญหา 3 อันดับต้นๆ ที่พบในการนำเทคโนโลยี IoT มาใช้งาน ได้แก่ เรื่องราคา เข้ากับระบบที่มีอยู่เดิมไม่ได้ และความยุ่งยากในการใช้งาน
“ถึงแม้ว่าการนำเทคโนโลยี IoT มาใช้งานนั้นอาจดูเหมือนว่าจะต้องลงทุนสูงในระยะสั้น แต่เราควรมองว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต” นายฮิเดโนริ ฟุรุคาวา กรรมการบริหาร ที่ปรึกษาธุรกิจของบริษัท เคพีเอ็มจี กล่าว “เราขอแนะนำให้บริษัทต่างๆ คิดให้ใหญ่ แต่เริ่มจากเล็กๆ ก่อน โดยควรเริ่มจากทำความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ที่จะได้จากเทคโนโลยี IoT ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นโดยการทดลองและเรียนรู้โซลูชั่นต่างๆ เมื่อเข้าใจประโยชน์ของ IoT ดีแล้ว ก็ค่อยขยับขึ้นไปทำการเปลี่ยนแปลงในระดับที่ใหญ่ขึ้น สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การนำเทคโนโลยี IoT มาใช้งานนั้น ควรที่จะสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจด้วย บริษัทต่างๆ จะต้องคำนึงว่า จะให้ประโยชน์อะไรแก่ลูกค้าได้บ้างจากการใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้จาก IoT แล้วจึงเริ่มจากโครงการนำร่องเล็กๆ ก่อนซึ่งจะช่วยนำทางเราไปสู่เป้าหมายได้ในที่สุด การเริ่มต้นใช้เทคโนโลยี IoT ควรเริ่มต้นจากจุดนี้”
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในทุกวันนี้เว็บไซต์ มือถือ และเทคโนโลยีคลาวด์ล้วนส่งผลต่อการปฏิรูปวงการดิจิทัล ส่วนเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ก็ก้าวเข้ามาเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ในการพัฒนาธุรกิจเข้าสู่โลกดิจิทัลเช่นกัน” “ไมโครซอฟท์ได้นำเทคโนโลยี IoT มารวมไว้ใน Microsoft Dynamics 365 for Field Service เพื่อใช้ในการบริการลูกค้า ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคต่างๆ ระหว่างแผนงานธุรกิจกับการนำไปปฏิบัติจริง ด้วยการใช้เทคโนโลยีคลาวด์อัจฉริยะที่เชื่อมโยงประสานให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด บริษัทที่ใช้ Microsoft Dynamics 365 for Field Service จะช่วยผลักดันให้บริการหลังการขายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างเสริมแบรนด์ลอยัลตี้ในกลุ่มลูกค้า”
นอกจากนั้น งานสัมมนาครั้งนี้ยังมีการมอบรางวัลอันทรงเกียรติ อันได้แก่ Thailand Enterprise Innovation Awards ซึ่งเป็นการยกย่องหน่วยงานและองค์กรที่มีผลงานโครงการด้านดิจิทัลที่โดดเด่นเพื่อปฏิรูปธุรกิจของตนเองโดยนำเทคโนโลยี IoT มาประยุกต์ใช้ ผู้ชนะในปีนี้ ได้แก่ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ (ด้านธนาคารและการเงิน) และ แมนไฮมม์ เอเชีย แปซิฟิก (ด้านอุตสาหกรรม) ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัลและใบประกาศนียบัตร รวมทั้งได้เดินทางไปร่วมงาน World Congress on Information Technology 2017 ที่ประเทศไต้หวันฟรีอีกด้วย
งานในครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนโดย Microsoft and KPMG (ผู้สนับสนุนระดับ Diamond), the Singapore infocomm Technology Federation (SiTF), Institute for Information Industry (III), Hewlett Packard Enterprise (ผู้สนับสนุนระดับ Gold), Fujitsu (ผู้สนับสนุนระดับ Gold), Oracle (ผู้สนับสนุนระดับ Gold), Atilze (ผู้สนับสนุนระดับ Silver), Leap Solutions Asia (ผู้สนับสนุนระดับ Silver), Dassault Systemes (ผู้สนับสนุนระดับ Silver), Adlink (ผู้สนับสนุนระดับ Bronze) และผู้ร่วมจัดงานนิทรรศการ ได้แก่ Robustel, DRVR, Hitachi, Cytech and Aerial Communications, Parasoft, Elabram, Overdrive, STMicroelectronics, Mds Pacific, Telecom of Thailand, Digital Economy Promotion Agency (DEPA), Quantum Inventions, Rapid7, Nexcom, AAEON, A-Value และ Getz