บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ก้าวสู่ปีที่ 15 (ไปรษณีย์ไทยก่อตั้งมา 134 ปี แต่เป็นบริษัทจำกัด มา 15 ปี) เดินหน้ายกระดับสู่ “ไปรษณีย์ 4.0” เน้นสร้างสรรค์นวัตกรรมการไปรษณีย์เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้า โชว์กำไรสุทธิในครึ่งปี 2560 ถึง 1979 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว “พี่ตู้รู้ทุกเรื่อง” ที่เปลี่ยนตู้ไปรษณีย์ให้สามารถให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวได้ โดยนำร่องติดตั้งที่จังหวัดพิษณุโลก
ไปรษณีย์ไทยรายได้แข็งแกร่งจาก e-commerce
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัดเผยว่า ผลการดำเนินงานของไปรษณีย์ไทยในช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน 2560 เติบโตขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีรายได้รวม 13,473 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,979 ล้านบาท
ซึ่งรายได้ที่เติบโตของไปรษณีย์ไทยนั้นมาจากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่คิดเป็น 42% ของรายได้ คือประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งในปี 2560 นี้ไปรษณีย์ไทยตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 26,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,300 ล้านบาท (ก็ถือว่าเกินครึ่งจากเป้าหมายไปแล้ว)
การพัฒนาของไปรษณีย์ไทย เพื่อตอบสนองลูกค้า
ไปรษณีย์ไทยกำลังพัฒนา 3 ส่วนเพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น
- พัฒนาเว็บ Thailandpostmart.com เพื่อเป็นมาร์เก็ตเพลสระดับประเทศ พื้นที่ฝากขายสินค้าชุมชนจากผู้ประกอบการทั่วประเทศ
- พัฒนา e-Logistics สร้างทางเลือกใหม่ๆ สำหรับลูกค้าอีคอมเมิร์ซ
- กล่องฟอร์คอมเมิร์ซ (For Commerce) กล่องเหมาจ่ายราคาประหยัด สำหรับผู้ส่งที่ใช้กล่องเยอะ และมองว่ากล่องปกติของไปรษณีย์ไทยแพงไป จึงมีกล่องแบบใหม่ที่แข็งแรงเหมือนกัน แต่ราคาประหยัดกว่ามาซื้อแบบเหมาจ่าย
- บริการนำจ่ายให้ผู้รับปลายทาง (C2C Fulfillment Solution) เพื่อให้รับสิ่งของได้รวดเร็วขึ้น
- บริการกำหนดจุดรับสินค้า (Drop Off) ให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกสถานที่รับสินค้าได้สะดวกขึ้น
- พัฒนา e-Payment ระบบรับชำระค่าสินค้าและบริการ เปลี่ยนธนาณัติเป็น e-wallet เพื่อส่งของแล้วรับเงินมาเลย (ไปรษณีย์ไทยมีใบอนุญาตการจัดการเงินอยู่แล้ว) เก็บเงินไว้ถอนทีหลัง คาดว่าอีก 2-3 เดือนจะเริ่มใช้งาน
นอกจากการพัฒนาที่ไปรษณีย์ไทยกำลังทำอยู่แล้ว ไปรษณีย์ไทยยังมีภาพใหญ่ของการพัฒนาที่ตั้งเป้าจะให้เสร็จภายในปี 2562 คือ
งานรับฝาก
จากเมื่อก่อนต้องไปที่ไปรษณีย์เพื่อส่ง ก็กำลังทำระบบเรียกไปรษณีย์วิ่งไปรับของที่บ้านได้ ซึ่งตอนนี้มีการจัดตั้งเครือข่ายรถยนต์สำหรับรับฝากสิ่งของ โดยนำร่องในที่ทำการไปรษณีย์กรุงเทพ 10 แห่งคือ สามเสนใน หลักสี่ ปากเกร็ด จระเข้บัว รังสิต คลองจั่น ภาษีเจริญ ยานนาวา พระโขนง และพระประแดง ให้สามารถเรียกใช้บริการได้
และถ้ามาที่ศูนย์ไปรษณีย์ก็กำลังพัฒนาระบบให้เวลาต่อคนน้อยลงไปอีก โดยโครงการที่เริ่มทดสอบตอนนี้คือตู้ iBox เพื่อลดความแออัดของผู้ใช้บริการในห้องรอจ่าย ตอนนี้ทดลองที่ bigC สุวินทวงศ์ ส่งของไปแล้วให้ประชาชนไปรับ เอารหัสกับบัตรประชาชนไปเปิดตู้ และตั้งจุดรับสิ่งของ (Drop Station) เสริมศูนย์ไปรษณีย์ ซึ่งเป้าหมายแรกคือตั้ง 80 จุดทั่วประเทศ
คัดแยก
ใช้ระบบคัดแยกอัตโนมัติในทุกศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศ ทำให้ทำงานรวดเร็วขึ้น ใช้คนน้อยลง
ส่งต่อ
ใช้บริษัท ไปรษณีย์ไทย ดิสเดบิวชั่น จำกัด บริษัทลูกของไปรษณีย์ไทย ช่วยจัดการเส้นทางขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นำจ่าย
กำหนดเวลาหรือเปลี่ยนสถานที่รับพัสดุได้ผ่านแอป ซึ่งจะสะดวกสำหรับลูกค้ามาก
พี่ตู้รู้ทุกเรื่อง
พลเอกสาธิต พิธรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ตอนนี้มีโครงการปรับปรุงตู้ไปรษณีย์เพื่อบริการประชาชนด้วยคิวอาร์โค้ด ภายใต้ชื่อ “พี่ตู้รู้ทุกเรื่อง” นวัตกรรมตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะยุค 4.0 ที่เปลี่ยนตู้ไปรษณีย์ธรรมดาให้สามารถให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงได้เพียงสแกนคิวอาร์โค้ด ก็จะเข้าหน้าเว็บพิเศษเพื่อดูข้อมูลภายในจังหวัด เพื่อเป็นการส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยว และผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชน นอกจากนี้ที่ตู้ยังมีพอร์ต USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์ด้วย
ณ ปัจจุบันจะทำการนำร่องติดตั้งตู้ดังกล่าวในจังหวัดพิษณุโลก จำนวนรวมทั้งสิ้น 15 ตู้ กระจายไปทุกอำเภอในจังหวัด พร้อมมีแผนเตรียมขยายไปพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ ภายในปีนี้
นอกจากนี้ พลเอกสาธิต ยังเผยถึงแผนการรองรับการขยายตัวของพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) วางแผนการจัดตั้งศูนย์โลจิสติกส์ฮับที่ครอบคลุมเข้มแข็ง เชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน อำนวยความสะดวกด้านการขนส่งทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ที่ไปรษณีย์ไทยจะเสริมความแข็งแกร่งด้านระบบขนส่งให้ประเทศอีกด้วย และไปรษณีย์ไทยกำลังทำ sameday ส่งเช้าได้บ่าย ส่งบ่ายได้ค่ำๆ (ไม่เกิน 2 ทุ่มครึ่ง) โดยจะเริ่มกับผู้ค้ารายใหญ่ก่อน เริ่มทดลองเดือนกันยายนอีกด้วย