เอไอเอส เสริมแกร่งชาวโคราช สร้างงาน หนุนเศรษฐกิจภาคอีสานเติบโต เปิดตัว “AIS Contact Center Development & Training Arena” ศูนย์กลางการพัฒนาบุคลากรด้านงานบริการ และศูนย์ Contact Center แห่งใหม่ใจกลางภาคอีสาน ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุด
เปิดมิติใหม่ของภาคเอกชนที่วางวิสัยทัศน์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มของทรัพยากรบุคคล เสริมความแข็งแกร่ง กระจายองค์ความรู้และโอกาสสร้างงานสู่ภาคอีสาน กับ AIS Contact Center Development & Training Arena ศูนย์กลางการพัฒนาบุคลากรงานบริการ และศูนย์ Contact Center แห่งใหม่ใจกลางภาคอีสาน ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุด เผยมูลค่าการลงทุนกว่า 873 ล้านบาท
AIS Contact Center Development & Training Arena
ศูนย์กลางพัฒนาบุคลากรงานบริการที่ใหญ่และทันสมัยที่สุด ใจกลางภาคอีสาน ด้วยพื้นที่มากกว่า 18,000 ตารางเมตร สูง 6 ชั้น สร้างด้วยแนวคิดอาคารสีเขียว หรือ Green building ตามมาตรฐาน LEED – Leadership in Energy and Environmental Design ในลักษณะของอาคารประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างความสมดุลระหว่างการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนชาวโคราชด้วย Free Working Space เพื่อคนรุ่นใหม่ นิสิต นักศึกษา ใช้เป็นแหล่งพบปะ แลกเปลี่ยนไอเดีย สร้างจินตนาการให้เป็นจริง รวมถึงสัมผัสประสบการณ์เทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุดจาก AIS Digital For Thais พร้อมส่งต่อองค์ความรู้ เพื่อบ่มเพาะบุคลากรด้านงานบริการจาก AIS Trainer มืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ มากประสบการณ์ ผ่านศูนย์ฝึกอบรม Development & Training center ถึง 19 ห้อง รองรับปริมาณผู้ฝึกอบรม ทั้งพนักงานของเอไอเอส ร้านเทเลวิซ และพาร์ทเนอร์ ที่หมุนเวียนเข้ามา มากกว่า 500 คน/วัน ด้วยบรรยากาศจำลองเสมือนการทำงานจริง แบบ On the Job Training
เป็นศูนย์ Contact Center 24×7 ที่พร้อมมอบความอุ่นใจ เคียงข้างลูกค้าเอไอเอส ด้วยมาตรฐานเดียวกับ AIS Contact Center ส่วนกลาง โดยรองรับพนักงานในอนาคตได้ถึง 1,700 ตำแหน่ง พร้อมเปิดโอกาสสร้างงาน ให้ชาวโคราชและชาวภาคอีสาน มาร่วมเป็นสมาชิกครอบครัวเอไอเอส ได้ตลอดเวลาผ่านช่องทางสมัครงาน Online 100% ที่นี่ http://www.ais.co.th/applyjob/
ซึ่งงานบริการ นับเป็นสายงานที่ทุกอุตสาหกรรมมีความต้องการเป็นอย่างยิ่งในยุคนี้ ฉะนั้นการสร้าง AIS Contact Center Development & Training Arena จึงเป็นตัวแทนความตั้งใจของเรา ที่ต้องการจะร่วมสร้าง “ทรัพยากรบุคคล” ในสายงานนี้ให้มีความพร้อม ในปริมาณที่มากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและภาคอีสานได้ทันต่อการแข่งขัน อีกทั้งยังเป็นการกระจายองค์ความรู้จากส่วนกลางไปสู่ระดับภูมิภาค สร้างความเสมอภาค จุดประกายให้คนรุ่นใหม่ที่กำลังศึกษาอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน หรือ ศึกษาที่กรุงเทพฯ ตัดสินใจกลับมาทำงานที่มั่นคงในพื้นที่ภูมิลำเนาของตนเอง ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ทั้งนครราชสีมาและภาคอีสานมีทรัพยากรบุคคลที่พร้อมจะนำองค์ความรู้มาพัฒนาบ้านเกิดเพิ่มมากขึ้นคุณสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส
ส่วนเหตุผลที่เลือกจังหวัดนครราชสีมาหรือโคราช เป็นที่ตั้งนั้น “เพราะนครราชสีมามีศักยภาพในฐานะจังหวัดที่มีขนาดของจีดีพีมากกว่า 2.65 แสนล้านบาท นับได้ว่าใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน และตอนนี้กำลังเกิดการลงทุนครั้งใหญ่ ทั้งจากภาครัฐ ในส่วนของโครงการด้านคมนาคม ขนส่ง อย่าง มอเตอร์เวย์ หรือ รถไฟรางคู่ รวมไปถึงภาคเอกชน เช่น การเปิดตัวของห้างสรรพสินค้าครบทุกห้างดัง ซึ่งทำให้ภาพรวมของตลาดแรงงาน มีความต้องการบุคลากรด้านงานบริการสูงมาก อีกทั้งนครราชสีมาเชื่อมต่อกับจังหวัดที่มีมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษา จะทำให้นิสิต นักศึกษาเพิ่มโอกาสทางอาชีพมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นการที่เราเข้ามาอยู่ที่โคราช ก็จะเท่ากับมารองรับและช่วยสร้างงาน พร้อมช่วยพัฒนาขีดความสามารถ องค์ความรู้ สร้างศักยภาพของทรัพยากรบุคคล ซึ่งมิใช่แค่เพื่อเอไอเอส แต่เพื่ออนาคตที่สดใสของคนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และภาคอีสาน ที่กำลังก้าวสู่ความเป็นมหานครด้านคมนาคม ขนส่ง และประตูสู่ AEC
โซนต่าง ๆ ภายใน AIS Contact Center Development & Training Arena
AIS Contact Center Development & Training Arena เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2013 แบ่งพื้นที่ภายในออกเป็น 5 โซน ดังนี้
Zone 1 : AIS Development & Training center ด้าน Customer Service แห่งแรกที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองรับการหมุนเวียนของผู้ฝึกอบรมได้มากกว่า 500 คน/วัน ด้วยรูปแบบห้อง ทั้ง Lecture Type ,Auditorium type และ Workshop Type ถึง 19 ห้อง พร้อมด้วยบรรยากาศการเรียนรู้เสมือนจริงแบบ On the Job Training
Zone 2 : AIS Work Space พื้นที่เปิดเพื่อให้คนรุ่นใหม่ นิสิต นักศึกษา มาใช้เป็นสถานที่ทำงาน ประชุม หรือ ปลดปล่อยแรงบันดาลใจในแบบคุณ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ AIS Super Wifi ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 650 Mbps , AIS Entertainment, Library, Meeting Room โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
Zone 3 : AIS Exhibition ชวนสัมผัสเทคโนโลยี Digital ล่าสุด เช่น IoT, Chat Bot ผ่านแนวคิด Digital for Thais เช่น App อสม.ส่งเสริมสุขภาพคนไทย, ฟาร์มสุข แพล็ตฟอร์มองค์ความรู้และ Online Market Place เพื่อเกษตรกร, ดิจิทัลคอนเทนต์ที่ครบทั้งสาระความรู้และความสนุกสนาน เสริมสร้างการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้เยาวชนไทย ผ่านกล่องดิจิทัลทีวีสานรัก สานความรู้ พร้อมด้วย Innovation Idea จากเหล่า StartUp
Zone 4 : AIS Contact Center Operation พื้นที่ปฏิบัติงานแบบ 24×7 ของ Agent Call Center ที่รองรับอนาคตได้ถึง 1,700 ที่นั่ง พร้อมขีดความสามารถในการรับสายลูกค้าได้มากกว่า 4 ล้านสาย/เดือน
Zone 5 : AIS Hall of Wellness พื้นที่เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงาน ให้แข็งแรงทั้งร่างกาย จากการได้ออกกำลังกายกับอุปกรณ์ Fitness มาตรฐาน และแข็งแรงจากภายใน ด้วย สปา, โยคะ อันจะส่งผลให้มีความพร้อมในการดูแลลูกค้าและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆเพื่อคนไทย ได้อย่างเต็มที่
สร้างโดยยึดหลัก Green Building
“เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะสร้างทั้งคุณภาพชีวิตแก่ชุมชน พนักงาน บุคลากรของเอไอเอสและของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างการเติบโตแก่เศรษฐกิจ ทั้งในระดับจังหวัด สู่ระดับประเทศ อันจะนำมาซึ่งการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” คุณสมชัย กล่าวเพิ่มเติม โดยเสริมเรื่องของอาคารที่สร้างขึ้นมาโดยยึด Green Building มาตรฐานระดับโลกในด้านการบริหารจัดการพลังงาน (LEED- Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งอาคาร AIS Contact Center Training & Arena มีพื้นที่มากกว่า 18,000 ตารางเมตร 6 ชั้น สื่อถึงความตั้งใจในการทำธุรกิจแบบยั่งยืน (Sustainability) ก่อสร้างด้วยแนวคิดการรักษาสิ่งแวดล้อม สร้างความสมดุลระหว่างการประหยัดพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ กับการใช้สอย อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุดตามมาตรฐาน LEED – Leadership in Energy and Environmental Design ที่เน้นการตอบสนองความต้องการของผู้คนในปัจจุบัน โดยไม่ทำให้คนรุ่นหลังต้องเดือดร้อนจากการขาดแคลนทรัพยากร
เริ่มตั้งแต่การเลือกที่ตั้งอาคารให้เหมาะกับทิศทางลม ส่งผลให้ภายในอาคารสามารถลดจำนวนเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำพลังงานสะอาดมาใช้ทดแทนให้เกิดประโยชน์สูงสุด อาทิ ใช้พลังไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ (Solar Energy) หล่อเลี้ยงอาคาร, ระบบบำบัดน้ำเสียที่สามารถนำน้ำกลับมาใช้หมุนเวียนได้ พร้อมด้วยการใช้กระจกรอบอาคารที่ทำจากวัสดุกันความร้อน และรักษาความเย็นภายในตัวตึก นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของพนักงาน เริ่มตั้งแต่การออกแบบพื้นที่และเฟอร์นิเจอร์ที่อย่างเหมาะสมกับสรีระและลักษณะงานที่ทำ สนับสนุนให้ได้เคลื่อนไหวร่างกายในระหว่างทำงาน ด้วยบันไดที่เชื่อมโยงระหว่าง 2 อาคารแฝด แทนการใช้ลิฟท์ รวมไปถึงพื้นที่กว้างขวางบริเวณโดยรอบที่ส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างใกล้ชิดธรรมชาติ