Fitbit บริษัทผลิตกำไลข้อมืออัจฉริยะชั้นนำของโลกเปิดตัว Firbit Ionic นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกของบริษัท พร้อมเปิดตัว Fitbit Flyer หูฟังไร้สายเพื่อการออกกำลังกาย และ Fitbit Aria 2 เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะรุ่นใหม่
เมื่อฟิตบิททำนาฬิกาอย่างเป็นทางการกับ Fitbit Ionic
จุดเด่นของ Fitbit Ionic คือนำเทคโนโลยีระดับสูงหลายอย่างของบริษัทมาใส่ไว้ในนาฬิกาข้อมือเรือนนี้คือ
- เทคโนโลยีวัดการเต้นของหัวใจรุ่นใหม่เรียกว่า PurePulse ทำให้ติดตามการเต้นของหัวใจได้แม่นยำขึ้นแบบเรียลไทม์
- มีเซนเซอร์ตรวจวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดสัมพัทธ์ (Relative SpO2 Sensor) สามารถประเมินระดับออกซิเจนในเลือดได้ ทำให้ตรวจสอบร่างกายได้หลากหลาย เช่นภาวะการหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Sleep Apnea)
- มี GPS ในตัวที่แม่นยำ ทำให้ตรวจจับความเร็วในการวิ่ง บันทึกระดับความชัน เส้นทางในการปั่นจักรยาน ผู้ใช้จึงไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนติดตัวไว้ขณะออกกำลังกายก็ได้
- ตรวจจับการวิ่งอัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่ต้องกดปุ่มเริ่มการออกกำลังกายด้วยตัวเอง แถมตรวจสอบช่วงพักระหว่างการวิ่งได้เองด้วย
- มาพร้อม Fitbit Coach เทรนเนอร์ส่วนตัวในข้อมือ ทำให้สามารถออกกำลังกายตามโปรแกรมได้ทุกสถานที่
- Fitbit Ionic สามารถกันน้ำลึก 50 เมตร จึงสามารถใส่ว่ายน้ำเพื่อนับรอบ และวัดการเผาผลาญระหว่างการว่ายน้ำ
- นาฬิกามีพื้นที่เก็บเพลง 2.5 GB สามารถเล่นเพลงได้แบบไม่ต้องใช้สมาร์ทโฟนได้ราว 300 เพลง
- สามารถแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ จากมือถือได้ด้วย
- รองรับ Fitbit Pay ระบบจ่ายเงินด้วยการสัมผัส แต่ยังไม่เปิดใช้ในไทย
- หน้าจอสว่าง 1,000 nit สู้แดดจ้าๆ ได้สบาย
- มีสายให้เลือกเปลี่ยนมากมาย
- และ Fitbit Ionic หนึ่งใน Smartwatch ที่เบาที่สุดในตลาด ทำให้ใส่สบาย
Fitbit Ionic เริ่มวางจำหน่ายในไทยแล้วด้วยราคา 11,690 บาท (แต่ยังไม่รองรับการแสดงฟอนต์ภาษาไทยนะ) โดยมีให้เลือก 3 สีเหมาะกับไลฟ์สไตล์ แต่มาพร้อมสายยาง 2 ขนาดในกล่อง อยากได้สายอื่นๆ ให้ไปซื้อเพิ่ม
Fitbit Flyer หูฟังไร้สายรุ่นแรกของฟิตบิท
พร้อมกันนี้ฟิตบิทได้เปิดตัว Flyer หูฟัง Bluetooth ที่ดีไซน์ให้ทนทานเพื่อใช้ระหว่างออกกำลังกายโดยเฉพาะ โดยมีคุณสมบัติกันเหงื่อ และจุกหูฟังที่เหมาะสมสำหรับการใส่ออกกำลังกาย ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับ Fitbit Ionic ได้เป็นอย่างดี
Fitbit Flyer วางจำหน่ายแล้วในราคา 5,190 บาท
Fitbit Aria 2 เครื่องชั่งน้ำหนักรุ่นใหม่
ความสามารถหลักของ Aria 2 นั้นก็ยังเหมือน Aria รุ่นแรก คือวัดน้ำหนัก หาปริมาณไขมันในร่างกาย และมวลกล้ามเนื้อ พร้อมส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบของ Fitbit ผ่านสมาร์ทโฟน
แต่สิ่งที่ Aria 2 ปรับปรุงขึ้นคือเซนเซอร์มีความละเอียดมากกว่าเดิม เชื่อมต่อได้ง่ายเพราะสามารถเชื่อม Wifi กับระบบภายในบ้านได้เลย ออกแบบใหม่ให้หนาน้อยลง และยังรองรับผู้ใช้มากสุด 8 คน
Fitbit Aria 2 วางจำหน่ายแล้วในราคา 5,290 บาท