หลังจากที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา ให้ “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” หรือนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย เป็นผู้ชนะคดี มีสิทธิ์ที่จะขอคืนใบอนุญาตประกอบการดิจิทัลทีวี และสั่งให้กสทช. คืนเงินประกัน หรือ Bank Guarantee มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ภายใน 60 วัน
อ่านเพิ่ม: คดีพลิก! ศาลชี้ “ทีวีพูล” มีสิทธิ์คืนใบอนุญาตดิจิทัลทีวี “เจ๊ติ๋ม” ยิ้มร่า ส่วนกสทช. หงายเงิบ
ล่าสุด ทางกสทช. ได้มีท่าทีออกมาแล้วในเรื่องนี้ โดยได้รับการเปิดเผยจากรองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) พันเอกนที ศุกลรัตน์ ว่า ในที่ประชุมกสทช. ได้น้อมรับคำสั่งศาล และมีมติให้ทำการยื่นอุทธรณ์ต่อศาล ภายใน 30 วัน
เผยเหตุผลที่ยื่นอุทธรณ์เพราะ “เห็นต่าง”
รองประธานกสทช. ได้ชี้แจงว่า เหตุที่ต้องการยื่นอุทธรณ์นั้น เพราะเห็นต่างจากสิ่งที่ศาลได้อ่านคำพิพากษาออกมาถึง 3 เรื่องด้วยกัน
- ในคำพิพากษาได้ระบุว่า “กสทช. เปิดให้เอกชนเข้าร่วมงาน” ซึ่งหมายถึงการเปิดโอกาสให้เอกชนรับสัมปทานในการประกอบกิจการ ซึ่งเป็นการขัดต่อเจตนา และการปฏิบัติงานของกสทช. ที่ต้องการเปลี่ยนผ่านระบบทีวีในประเทศไทย จากระบบสัมปทาน ไปสู่แบบการออกใบอนุญาต
- ไทยทีวี ได้อ้างว่า กสทช. ไม่ปฏิบัติตามเงื่อไขในสัญญา ในการขยายโครงข่าย (MUX) ให้ครอบคลุม ตามช่วงระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งในความเป็นจริง กสทช. ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกประการ โดยเริ่มขยายโครงข่ายให้ครอบคลุม 50 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรในประเทศ ตั้งแต่วันแรกของการออกอากาศ จนถึงปัจจุบัน ครอบคลุมไปแล้ว 95 เปอร์เซ็นต์
- ในกรณีของการชำระค่าใบอนุญาตนั้น จริงๆ แล้ว ต้องชำระทั้งหมดในครั้งเดียว แต่ทางกสทช. ได้ผ่อนปรน และอนุญาตให้ผู้ประกอบการ สามารถแบ่งชำระเป็นงวดๆ ได้ โดยต้องมีหนังสือรับรองมาค้ำประกัน ทั้งนี้ ค่าใบอนุญาต ไม่ใช่ค่าธรรมเนียมรายปี ซึ่งต้องจ่ายให้กสทช. ทุกปี
นอกเหนือจากนี้ ยังชี้แจงในเรื่องของการแจกคูปองกล่องทีวีดิจิทัลตามบ้านเรือนต่างๆ ด้วยว่า กสทช. ทำการแจกคูปอง โดยจะแจกตามพื้นที่ที่โครงข่ายดิจิทัลทีวีนั้นเข้าถึง ซึ่งถือว่าไม่เป็นการผิดสัญญา
หากกสทช. ผิดสัญญา ผู้ประกอบการทุกรายคงล้มเหลวหมด
ถึงแม้ว่าการยื่นฟ้องกสทช. ของไทยทีวี นำมาสู่คำพิพากษาที่ทำให้ชนะคดี ในเรื่องของการขอคืนใบอนุญาตประกอบการ แต่ในมุมของรองประธานกสทช. กลับมองว่า “นี่ไม่ใช่บรรทัดฐานที่ทีวีดิจิทัลช่องอื่นควรทำตาม” และมั่นใจว่าจะไม่มีผู้ประกอบการรายใด เดินตามรอยของไทยทีวีเพื่อขอคืนใบอนุญาต เนื่องจากในปัจจุบัน มีการชำระค่าใบอนุญาตกลับมาแล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ จากเงินประมูลที่ได้มาทั้งหมด ประมาณ 50,862 ล้านบาท
ที่มา: ไทยรัฐ, คม ชัด ลึก, เรื่องเล่าเช้านี้