เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เชิญชวนสื่อมวลชนไปชมนวัตกรรมในโครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ในพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

กฟภ. พัฒนาเทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ PEA Smart Home ซึ่งบ้านตัวอย่างตั้งอยู่ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (สำนักงานใหญ่) โดยใช้พลังงานที่ได้รับจากแผงโซลาเซลล์บนหลังคาเลีี้ยงไฟในบ้านทั้้้้้้งหลังเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน ภายในบ้านติดตั้ง Smart Meter ในการคำนวนการใช้พลังงาน และค่าไฟฟ้า ซึ่งตรวจสอบและชำระค่าไฟฟ้าได้ผ่านแอป PEA Smart Plus โดยทางกฟภ. จะเปลี่ยน Smart Meter ให้ทุกบ้านในพัทยาประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นรายฟรี

ดร.วโรดม คำแผ่นชัย วิศวกรระดับ 6 กองวิจัย ฝ่ายวิจัยและพัฒนาระบบไฟฟ้า แสดงการควบคุมอุปกรณ์ Smart Divices ต่าง ๆ ในบ้านผ่านแอป PEA Hive Platform รวมถึงควบคุม Google Home, Amazon Echo และแนะนำ Chat Bot ภาษาไทยในการสั่งงานระยะไกล ควบคุมอุปกรณ์ IOT ได้ โดยจะมีการ Soft Launth ตัวแอป PEA Hive Plus วันที่ 6 มิถุนาคมนี้

เพื่อผลักดันนโยบายพลังงาน 4.0 ทางกฟภ. จึงจัดตั้งโครงข่ายข้อมูลสถานีอัดประจุไฟฟ้า PEA VOLTA (โวลต้า) วิจัยและพัฒนาโครงข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า หรือ EV Charging Station (EV Electric Vehicle) เพื่อชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

นายคณิต ชัยวัฒนา รองผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนวิจัยและนวัตกรรม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า ทางกฝภ. เล็งเห็นว่าในอนาคตเนี่ย จะมีการประกอบรถยนต์สันดาปกันน้อยลง และคนจะหันไปใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น กฟภ.จึงจัดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าขึ้น หวังให้มีในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งตอนนี้ที่มีติดตั้งอยู่เป็นช่วงทดลองใช้ฟรี มีของกฟภ. เองทั้งหมด 11 แห่ง ของโครงข่ายโวลต้า 3 แห่ง และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 3 แห่ง

ก่อนกลับทีมงานกฟภ. ได้นำคณะ Bloger ไปชมพื้นที่เรียบชายหาดพัทยาที่นำสายไฟฟ้าลงใต้ดินเรียบร้อยแล้ว และพื้นที่ที่กำลังดำเนินการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน แม้จะยังมีปัญหาในบางพื้นที่ไม่สามารถจัดการกับเสา หรือนำสายลงได้ทั้งหมดเนื่องจากบางส่วนเป็นสายสื่อสาร

และตลอดการเดินทางกฟภ. อำนวยความสะดวกด้วย E-Bus รถบัสใช้ไฟฟ้า 100% ที่เมื่อชาร์จเต็มจะสามารถวิ่งได้ 300 กม. โดยใช้เวลาการชาร์จแบบ Normal Charge AC 10 ชม. หรือ Quick Charge DC เพียง 2 -3 ชม. ซึ่งการใช้พลังงาน ไฟฟ้าประหยัดกว่าน้ำมัน 50-70%