วันนี้ Asus เปิดตัว Zenfone 5Z และ Zenfone Max Pro M1 อย่างเป็นทางการนะครับ โดยชูจุดเด่นที่เทคโนโลยีของ Asus แบบจัดเต็ม แถมตั้งราคาได้เร้าใจมาก โดย Zenfone 5Z ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิป Snapdragon 845 ที่ถูกที่สุดในตลาดไทยแล้ว ส่วน ZenFone Max Pro M1 ก็เป็นสมาร์ทโฟนเจาะกลุ่มนักเล่นเกมที่ต้องการเครื่องที่มีประสิทธิภาพพอสมควร ในราคาไม่ถึงหมื่น แถมได้แบต 5,000 mAh ความจุสูงสุดในตลาดไทยตอนนี้
ASUS ZenFone 5Z ราคาเริ่มต้นแค่ 15,990 บาท
Asus Zenfone 5Z นั้นใช้โครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีเดียวกับ Zenfone 5 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ คือมาพร้อมกล้องหลังคู่ กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ OIS ใช้เซ็นเซอร์ภาพ IMX363 จาก SONY® ทำงานร่วมกับกล้องรองมุมกว้างพิเศษ 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมีระบบ AI ช่วยเหลืออีกมากมายจาก ZenUI 5 ไม่ว่าจะเป็นการปรับโหมดและตั้งค่าเองขณะถ่ายภาพ การปรับความเร็วประมวลผลให้เหมาะสมต่อการใช้งาน การควบคุมระบบชาร์จไฟ หรือปรับแต่งโทนสีหน้าจอและเสียงเรียกเข้าตามสภาพแวดล้อม และเทคโนโลยี ASUS OptiFlex™ 3.0 ทำงานร่วมกับ AI อย่างชาญฉลาด จึงสามารถเปิดแอพพลิเคชั่นที่ใช้บ่อยได้เร็วขึ้นกว่าปกติเกือบ 2 เท่า
แต่จุดที่ Zenfone 5Z แตกต่างจาก Zenfone 5 คือเรื่องประสิทธิภาพ ที่ Zenfone 5Z มาพร้อมชิปตัวที่แรงที่สุดในโลก Android ตอนนี้คือ Qualcomm® Snapdragon™ 845 พร้อมแรมสูงสุด 8GB และหน่วยความจำสูงสุด 256GB แบบ UFS 2.1 ที่สามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้เร็วกว่าเดิม และรองรับ LTE ที่ CAT 15 ซึ่งใน Zenfone 5 จะเป็นแค่ Snapdragon 636 พร้อมหน่วยความจำแบบ eMMC และรองรับ LTE CAT 12 เท่านั้น
ZenFone 5Z จะเริ่มวางจำหน่าย ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 ในราคาเริ่มต้นที่ 15,990 บาท สำหรับรุ่น แรม 6GB และหน่วยความจำขนาด 128 GB และราคา 19,990 บาท สำหรับรุ่น แรม 8GB และหน่วยความจำขนาด 256 GB โดยจะเริ่มพรีออเดอร์ในวันที่ 7 ก.ค. นี้ใน Shopee
ASUS ZenFone Max Pro M1 มือถือคู่ใจคอเกมออนไลน์
Zenfone Max Pro M1 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่อึดที่สุดของเอซุส ด้วยความจุสูงถึง 5,000 mAh ภายในบอดี้หนาแค่ 8.46 มม. ทำให้ ZenFone Max Pro M1 ทำลายสถิติสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่ 5,000 mAh ที่บางที่สุดในโลก จึงสามารถเล่นเกม ROV หรือ Free Fire ได้อย่างเต็มที่นานสูงสุด 11 ชั่วโมง ดู Netflix ต่อเนื่องได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง หรือดู Game of Thrones จบ 2 ซีซั่นด้วยการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้เอซุสยังเลือกใช้ชิพ Qualcomm® Snapdragon™ 636 Mobile Platform พร้อมแรมสูงสุด 6GB เพื่อเสริมการเล่นเกมบนหน้าจอขนาด 5.99 นิ้วแบบ Full HD+ และมีคอนทราสต์สูง 1,500:1 (แต่เท่าที่ดูตัวจริงมา จอยังไม่ดีงามเท่า Zenfone 5 นะ อันนั้นจอเทพของจริง)
ZenFone Max Pro M1 ใช้ระบบปฏิบัติการ Pure Android Oreo 8.1 (ไม่ได้ครอบด้วย ZenUI เหมือน Zenfone 5 จึงไม่มีฟีเจอร์ AI แบบรุ่นพี่) เปิดเกมเร็วกว่า ลื่นกว่า และอัพเกรดซอฟท์แวร์ได้ไวกว่าเดิม โดยใช้ลำโพงแม่เหล็ก 5 ชิ้นพร้อมแอมป์จาก NXP ที่ให้เสียงดังชัดกว่าเดิมถึง 41% โดยที่เสียงไม่แตกหรือผิดเพี้ยน ส่วนกล้องหลังมาเป็นคู่ความละเอียด 16 + 5 ล้านพิกเซล ทำให้ถ่ายภาพในโหมด Portrait หน้าชัดหลังเบลอได้ พร้อมแฟลชแบบ Softlight LED ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และยังบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง 4K Ultra HD ได้
พร้อมตอกย้ำความเป็นสมาร์ทโฟนสายเกมเมอร์ ทั้งนี้ ทางเอซุสยังประกาศความเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับเกมส์ Free Fire จากบริษัท Garena Thailand ด้วยการมอบไอเท็มพิเศษแก่ลูกค้าและโปรโมทสินค้า ZenFone Max Pro ในเกมส์
ZenFone Max Pro M1 เปิดตัวด้วยราคาในไทยดังนี้
- ราคา 5,990 บาท สำหรับรุ่น แรม 3GB และหน่วยความจำขนาด 32GB
- ราคา 6,990 บาท สำหรับรุ่น แรม 4GB และหน่วยความจำขนาด 64GB
- ราคา 7,990 บาท สำหรับรุ่น แรม 6GB และหน่วยความจำขนาด 64GB
ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ ZenFone Max Pro M1 ทั้ง 3 รุ่นก่อนใคร สามารถสั่งจองพรีออเดอร์ผ่านเว็บไซต์ Shopee ระหว่างวันที่ 12-18 มิถุนายน 2561 พร้อมรับทันที Shopee Coin มูลค่า 500 บาท และ Free Fire Limited Edition ASUS Jacket ไอเท็มพิเศษในเกมส์ Free Fire