ยุคนี้ถือว่าเป็นยุคทองของ e-commerce เลยก็ว่าได้ เพราะมีการเติบโตทั้งคนซื้อและคนขาย ตัวเร่งเรื่องนี้ก็คงเป็นเรื่องของเทคโนโลยีทั้งในเรื่องของความสะดวกในการเลือกและการสั่งของ รวมถึงวิธีการจ่ายเงินที่ง่ายแค่ปลายนิ้ว ทุกอย่างดูเหมือนจะดีไปหมด แต่ก็จะมีเรื่องกวนใจก็ตอนที่ต้องรอรับของที่สั่งนี่แหละ ก็คนเราต่างมีเหตุผลมากมายในเรื่องนี้ บ้างก็ไม่สะดวกเพราะต้องออกไปทำงานนอกบ้านไม่มีเวลามารอรับของ บ้างก็ไม่อยากให้คนในบ้านรู้ว่าสั่งของมา และบางทีก็คำนวนไม่ถูกว่าจะให้ส่งของที่ออฟฟิศหรือที่บ้านดี เพราะไม่รู้ว่าของจะมาถึงวันไหน พอไม่อยู่ตอนที่ของมาส่งก็ลำบากต้องตามไปรับของ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ตอนนี้คุณมีทางเลือกและตัวช่วยมากขึ้นในการรับสิ่งของที่ทำการสั่งซื้อกันแล้ว
1. ทางเลือกของหนุ่มสาวออฟฟิศสมัยใหม่ (iBox)
สำหรับคนวัยทำงานที่ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับที่ทำงานและการเดินทาง ย่อมไม่มีความสะดวกในการรอรับของที่บ้านแน่นอน บางคนจึงใช้ที่อยู่ของออฟฟิศรับของ แต่ถ้าทำบ่อยๆ มันก็จะแลดูไม่ดีและไม่มีความเป็นส่วนตัว แน่นอนว่าต้องคอยไปถามอยู่เรื่อยไปว่ามีของมาส่งหรือยัง หากเปลี่ยนเป็นมีจุดที่สามารถรับของได้ตลอดเวลา แถมยังมี SMS มาบอกในเวลาที่ของมาถึง คงจะช่วยให้ชีวิตชาวออฟฟิศสะดวกขึ้น
ด้วยบริการของ iBox ตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะ ที่มีให้บริการอยู่ในย่านธุรกิจ ตู้นี้จะทำหน้าที่คอยรับของให้คุณตลอดเวลา และทันทีที่สินค้ามาถึงจะมีการส่ง SMS เป็นรหัสแบบใช้ครั้งเดียวให้ทางโทรศัพท์มือถือ จากนั้นคุณก็ไปที่ตู้ iBox ที่คุณเลือกให้รับของ ทำการปลดล็อกด้วยบัตรประชาชนและรหัสผ่านที่ได้รับ ตู้ก็จะเปิดออกแล้วก็รับของไปได้เลย
สำหรับวิธีเลือกใช้บริการ iBox ก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก เพียงแต่ทำการระบุที่อยู่ผู้รับด้วยสาขาของตู้ iBox แทน หลังจากนั้นก็รอรับ SMS แจ้งการมาถึงของสินค้า โดยสินค้าจะถูกเก็บไว้ในตู้เป็นระยะเวลา 3-4 วัน หากไม่มีผู้มารับสินค้าจะถูกส่งคืนไปยังผู้ส่ง ตอนนี้มีให้เลือกใช้ 50 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งสามารถลงทะเบียนใช้งานได้ที่ ibox.thailandpost.co.th
2. ทางเลือกของชุมชนน่าอยู่มีเพื่อนบ้านแสนดี
สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในชุมชนอบอุ่น มีความสนิทสนมกับเพื่อนบ้านเป็นอย่างดี และที่สำคัญมั่นใจได้ว่าเพื่อนบ้านของคุณมักจะอยู่บ้าน และสนิทกันจนไหว้วานกันเรื่องรับพัสดุแทนได้ หรือมีร้านหน้าปากซอย บ้านผู้ใหญ่บ้านที่สนิทกัน ก็ถือว่าคุณมีทางเลือกที่น่าสนใจขึ้นมาแล้ว
เพราะวันนี้คุณสามารถแจ้งความต้องการกับไปรษณีย์ให้เพื่อนบ้านรับของแทนได้ ที่สำคัญบริการนี้ไม่เสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมแต่อย่างใด เลือกใช้บริการนี้ได้ที่ไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ
3. ทางเลือกของคนมีความเป็นส่วนตัวสูง PO Box
งานนี้สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง หรือเป็นคนที่มักจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศบ่อยๆ หลายครั้งที่ทำให้มีปัญหาในการรับของจากไปรษณีย์ เพราะพัสดุมักจะถูกตีกลับไปเสมอ แบบนี้ต้องหากล่องรับของส่วนตัว เอาแบบที่ฝากของที่ส่งมาเก็บไว้ได้เป็นเดือนเป็นปี สะดวกจะมาเอาของเมื่อไรก็มาเอา แถมยังมีความปลอดภัยสูง
ซึ่งสามารถเปิดใช้ได้ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง โดยเช่าตู้ ปณ หรือ P.O.Box มีบริการให้เลือกทั้งแบบรายเดือนและรายปี บางครั้งการมีตู้ P.O. Box ของเราเองก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เราจะเข้าไปเอาของของเราเมื่อไรก็ได้ เพราะกุญแจตู้อยู่ที่เราเอง และการแจ้งที่อยู่ให้กับคนส่งก็ง่ายๆ เพียงจ่าหน้าถึง หมายเลขของตู้ ปณ ตามด้วยรหัสไปรษณีย์
4. ทางเลือกของสายชิลไม่รีบร้อน ส่งไปไว้ที่ไปรษณีย์
งานนี้สำหรับคนที่ไม่รีบร้อน แต่เน้นเรื่องความสะดวกใกล้บ้านเป็นหลัก เพราะหากไม่มีผู้รับพัสดุจะถูกตีกลับไปยังต้นทาง ดังนั้น คุณสามารถให้ผู้ส่งเขียนที่อยู่เป็น “รอจ่ายที่ไปรษณีย์ (ระบุสาขา)” และสะดวกเมื่อไรก็ไปติดต่อขอรับ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งเดี๋ยวนี้ ไปรษณีย์หลายๆ แห่งก็ขยายเวลาให้เวลาถึง 2 ทุ่ม เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือบริการของไปรษณีย์ไทยที่พร้อมจะสร้างความยืดหยุ่นให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคสมัยนี้ ไม่ว่าคุณจะใช้ชีวิตแบบไหน ไปรษณีย์ไทยก็พร้อมจะทำหน้าที่ในการส่งสินค้าให้ถึงมือคุณในรูปแบบที่ดีที่สุดเสมอ
