หลังจากที่ Asus ประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับ Asus Zenfone Max M1 รุ่นที่แล้ว ที่ทำมือถือรุ่นราคาสุดคุ้มให้มีแบตอึด และประสิทธิภาพดีพอที่จะใช้งานในชีวิตประจำวันได้สบายๆ และวันนี้ก็มาถึงรุ่นต่อไปที่คลอดพร้อมกัน 2 รุ่นคือ

Zenfone Max M2 รุ่นน้องราคาสุดคุ้ม

  • Snapdragon 632 – 4 + 4 cores (1.8 GHz Kryo 250 Gold – Cortex-A73 derivative + 1.8 GHz Kryo 250 Silver – Cortex-A53 derivative) ซึ่งด้อยกว่า Zenfone Max M1 ในปีที่แล้วที่ใช้ Snapdragon 636
  • กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล f/1.8 กล้องรอง 2 ล้านพิกเซล ทำให้ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ พร้อม EIS ลดการสั่นไหวด้วยอิเล็กทรอนิกส์
  • กล้องหน้า 8 ล้าน f/2.0
  • หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ให้ภาพ 88% ของพื้นที่หน้าจอ สัดส่วน 19:9 HD+ ความละเอียด 1520 x 720 พิกเซล
  • แบตเตอรี่ 4000 mAh ใช้งานได้ 2 วัน
  • RAM 4 GB
  • เสียงดังขึ้น 40% จากรุ่นแรก ให้เสียงเบสได้ดีขึ้นด้วย ด้วยลำโพงที่มีแม่เหล็ก 5 ชิ้น
  • ใช้ Pure Android 8.1 ไม่มีการปรับแต่งมากนัก
  • น้ำหนัก 160 กรัม ซึ่งเบากว่ามือถือ 4000 mAh ทั่วไป
  • ดีไซน์ฝาหลังเป็นโลหะ วางจำหน่าย 3 สีด้วยกัน ได้แก่ Midnight Black (ดำ), Space Blue (น้ำเงิน), และ Meteor Silver (เงิน)

ช่องทางการจัดจำหน่ายและราคาของ Zenfone Max M2

เครื่องสีเงินคือ Asus Zenfone Max M1 ส่วนเครื่องสีน้ำเงินทางขวาคือ Zenfone Max M2 จะเห็นว่าหน้าตาถอดแบบกันมาเลย

  • ราคา 5,990 บาท สำหรับรุ่นความจุ 64 GB จะวางจำหน่ายผ่านร้านค้าตัวแทนทั่วประเทศ ในราคา 5,990 บาท ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมเป็นต้นไป
  • และราคา 5,490 บาท สำหรับรุ่นความจุ 32 GB (ขายที่ Shopee เท่านั้น และช่วง Pre-order ระหว่างวันที่ 18-31 ธันวาคม 61 ใช้ Code ‘Asusm2’ รับส่วนลดเพิ่ม 500 บาท)

Zenfone Max Pro M2 สมาร์ทโฟนแบต 5,000 mAh ราคานิดเดียว

  • Snapdragon 660 พร้อม AI Engine (2 + 6 cores (2.0 GHz Kryo 360 Gold – Cortex-A75 derivative + 1.7 GHz Kryo 360 Silver – Cortex-A55 derivative))
  • GPU Adeno 512
  • หน่วยความจำ 64 GB
  • รองรับ MicroSD สูงสุด 2 TB
  • หน้าจอ 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2280 x 1080 px) รองรับขอบเขตสี 94% ของ NTSC ความสว่างสูงสุด 450 nit, Contrast 1500:1
  • กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล f/2.0 พร้อมแฟลชหน้า
  • กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล f/1.8 PDAF เซนเซอร์ Sony IMX486 ขนาดพิกเซล 1.25 μm (Micrometer) , กล้องรอง 5 ล้านพิกเซลเอาไว้วัดความชัด
  • รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30 fps พร้อมระบบกันสั่น EIS
  • ใช้ Pure Android 8.1 ไม่มีการปรับแต่งมากนัก และจะอัปเดทเป็น Android 9.0 ในช่วงเดือนมกราคม 62
  • ใส่ได้ 2 ซิมพร้อม MicroSD
  • ใช้แอม NXP ให้เสียงดัง เสียงไม่แตก ลำโพงที่มีแม่เหล็ก 5 ชิ้น
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh ใช้งานได้ 2 วันชิวๆ ดูหนัง Netflix 15 ชั่วโมง
  • เป็นสมาร์ทโฟน 5000 mAh ที่เบาที่สุด น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 175 กรัมเท่านั้นเอง
  • กระจก Gorilla Glass 6 ทนทานกว่าเดิม ซึ่งเป็น 6 รุ่นเดียวในระดับราคานี้
  • 2 สีด้วยกัน ได้แก่ Cosmic Titanium (สีเงิน) และ Midnight Blue (สีน้ำเงิน)

ราคาของ Asus Zenfone Max Pro M2

  • รุ่นท็อปมีแรม LPDDR4 6 GB ราคา 8,990 บาท
  • รุ่นธรรมดามีแรม LPDDR4 4 GB ราคา 6,990 บาท ขายที่ Shopee เท่านั้น (ผู้ที่สั่งจองในช่วง Pre-order ระหว่างวันที่ 18-31 ธันวาคม 61 ใช้ Code ‘Asusm2’ รับส่วนลด 500 บาท)

พรีวิว Asus Zenfone Max Pro M2 ก่อนวางขาย

Play video

ทีมงานแบไต๋ได้เครื่อง Zenfone Max Pro M2 มาลองใช้จริงก่อนวางขายนะครับ ซึ่งเรายังออกเป็นรีวิวฉบับเต็มไม่ได้เพราะซอฟต์แวร์ในเครื่องยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ เลยยังไม่สามารถให้คะแนนได้ตอนนี้ แต่ก็สรุปการใช้งานออกมาได้ว่า

จุดที่ชอบใน Asus Zenfone Max Pro M2

  • เครื่องเบาและแบตอึดจริง ใช้จนหมดวันยังเหลือมากกว่า 50% ประทับใจมาก หวังว่า Firmware จริงออกมาจะอึดได้กว่านี้อีก
  • เสียงลำโพงดังมากและไม่แตก
  • คุณภาพหน้าจอดี สว่างสดใส
  • เครื่องไม่ใหญ่เกินไป ถือถนัดมือ
  • GPS แม่นยำ นำทางได้ดี
  • สแกนนิ้วมือทำงานได้รวดเร็ว
  • หน้าตาแบบ Pure Android ใช้แล้วไม่หน่วง

จุดที่ไม่ชอบใน Asus Zenfone Max Pro M2

  • ไม่รองรับ Wifi 5 GHz
  • ใช้พอร์ต MicroUSB ยังไม่ใช่ USB-C
  • ลำโพงมีตัวเดียว
  • หน้าตาแบบ Pure Android ปรับอะไรได้น้อย (แหม่ ช่างย้อนแย้งกับในข้อดี 555) หวังว่าเฟิร์มแวร์จริงจะปรับปุ่ม Navigation ด้านล่างได้

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Asus Zenfone Max Pro M2 (ยังไม่ใช่เฟิร์มแวร์ขายจริง)

ภาพกลางคืน

โหมด Portrait