หลังจากที่ Huawei Cloud เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Cloud ระดับนานาชาติรายแรกที่ตั้งโครงสร้างพื้นฐานอยู่ในประเทศไทย วันนี้ Huawei Cloud พร้อมนำเสนอเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ของบริษัทให้แก่ผู้สนใจในงาน Huawei Cloud AI Open Day Thailand 2019 ระหว่างวันที่ 28 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ชั้น 39 อาคารจี ทาวเวอร์ ถนนพระรามเก้า ซึ่งงานนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากเห็นภาพชัดเจนว่า AI สามารถช่วยเหลือธุรกิจในยุคปัจจุบันได้อย่างไร
สำหรับเทคโนโลยีที่เป็นไฮไลท์สำคัญภายในงาน ประกอบด้วยชิป AI, บริการคลาวด์และโซลูชั่น AI แบบครบทุกระดับ (Full-stack AI) ที่ครอบคลุมการใช้งานหลากหลายด้าน นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จและนวัตกรรมอัจฉริยะต่างๆ ของบริการคลาวด์ด้าน AI เช่น Optical Character Recognition (OCR) เป็นการรู้จำตัวอักขระด้วยแสงและภาพ ที่อ่านภาษาไทยได้อย่างแม่นยำ, การค้นหาภาพ, การวิเคราะห์วิดีโออัจฉริยะ, แพลตฟอร์มพัฒนาระบบ AI ที่เรียกว่า ModelArts และ HiLens เป็นต้น สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ การขนส่ง, การบริหารจัดการแคมปัส, เกม, รถยนต์อัจฉริยะ และการบริหารงานหน้าร้านค้าปลีก โดยมีตัวอย่างการใช้งานเทคโนโลยี ดังต่อไปนี้
- เมือง+AI: โซลูชั่น Traffic Intelligent Twins ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรที่แออัด, การควบคุมดูแลรถยนต์อัจฉริยะ, การตรวจตราปัญหาความรุนแรง, การส่งเสริมความปลอดภัยด้านการขนส่งภายในเมืองและการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- แคมปัส+AI: หุ่นยนต์จะทำหน้าที่ตรวจตราดูแลภายในบริเวณพื้นที่ขนาดใหญ่และประมวลผลเพื่ออนุญาตการเข้าพื้นที่ภายในเวลาเสี้ยววินาทีโดยใช้อัลกอริธึ่มระบบการจดจำที่แม่นยำ นอกจากนี้ ยังสามารถปรับปรุงการแสดงผลโฆษณาได้แบบเรียลไทม์ด้วยระบบจดจำใบหน้า และการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงความแม่นยำในด้านการตลาดที่ดีขึ้น
- โลจิสติกส์+ AI: กล้องที่มี “สมอง” มีความสามารถมากกว่าแค่บันทึกภาพคนงาน แต่ยังสามารถรายงานและแสดงหลักฐานความรุนแรง รวมถึงบันทึกภาพความเสียหายที่เกิดจากการกระทำด้วยความประมาทหรือปฏิบัติอย่างไม่ถูกต้องในขั้นตอนการจัดส่งขนถ่ายสินค้าได้ด้วย
- การขนส่ง+AI: ระบบจดจำใบหน้าเป็นความสามารถพื้นฐานของ AI ในการตรวจสอบยืนยันความถูกต้องภายในสนามบิน ด่านศุลกากร และร้านค้าปลีก ซึ่งผู้เข้าชมงานจะได้ทดลองสัมผัสขั้นตอนการขึ้นเครื่องทั้งหมดด้วยระบบการจดจำใบหน้า ตลอดจนไฟสัญญาณจราจรที่ควบคุมด้วยระบบอัจฉริยะแบบเรียลไทม์เพื่อลดปัญหาการจราจรแออัด
- งานค้าปลีก+AI: การจดจำลักษณะท่าทางของลูกค้าด้วยเทคโนโลยี AI จะแสดงตัวอย่างแอพพลิเคชั่นที่มีทักษะความสามารถสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมค้าปลีก โดยผู้เข้าชมจะสามารถสั่งกาแฟได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องสั่งผ่านแคชเชียร์
- ชิพ AI Ascend: การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี AI ของหัวเว่ยนั้น ทำให้ได้นวัตกรรมชิพสองรุ่น คือ Ascend 910 และ Ascend 310 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสำหรับการประมวลผลแบบนิวรอลเน็ทเวิร์ค พร้อมชุดเครื่องมือการพัฒนา และการฝึกอบรมด้านคลาวด์
นอกจากนี้ ผู้ที่มาในงานยังจะได้รับชมและทดลองควบคุมหุ่นยนต์เล่นฟุตบอลด้วย HiLens ระบบกล้องอัจฉริยะ ตลอดจนการทำงานของเทคโนโลยี AI ในการรู้จำตัวอักขระไทยด้วยแสงและภาพ (Thai OCR) ที่อาจมีลักษณะจากการพิมพ์ไม่สมบูรณ์เช่นตัวอักษรไทยที่มีลายเส้นเอนเอียงหรือผิดรูปบนเอกสารที่มีพื้นหลังซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ
ซึ่งคุณธนินทร์ น้อยรังษี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี ธุรกิจคลาวด์ Huawei Technology ประเทศไทย ก็ให้ข้อมูลว่าอนาคตของ AI กำลังจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ทั่วไปหรือ GPT (General Purpose Technology) อย่างที่ Internet หรือ Computer กลายเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนใช้ ซึ่ง AI กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนอุตสาหกรรม เช่นช่วยหมอวินิจฉัย, เลือกเนื้อหาให้เหมาะสำหรับผู้ใช้แต่ละคน, แปลเนื้อหาแบบ Real-time, คาดการณ์ปัญหาต่างๆ, จัดการสต็อกสินค้า และ AI จะเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน โดยที่งานซ้ำๆ หรืองานระดับล่างก็เริ่มมี AI เข้ามาแทนมากขึ้นเพราะให้ประสิทธิภาพมากกว่าในขณะที่ต้นทุนถูกกว่า และทำให้เกิดอาชีพใหม่ๆ อย่างนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล Data Science Engineer
แต่ตอนนี้ AI เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ถือเป็นแค่ Phase 2 จาก 4 ถือเป็นระดับที่เพิ่งเริ่มใช้ในงานต่างๆ ถัดจากการทดลองใช้ใน Phase 1 และระดับ Phase 3 ที่เริ่มเอาไปใช้มากขึ้น น่าจะเกิดขึ้นในเวลา 5-10 ปีหลังจากนี้ ส่วน Phase 4 คือองค์ประกอบพร้อม AI กลายเป็น GPT เช่นรถขับอัตโนมัติสามารถคุยกันได้ ถือเป็นการใช้งาน AI เต็มตัวแล้ว
รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจคลาวด์
บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด
ผู้สนใจเข้าร่วมชมงานนี้สามารถลงทะเบียนฟรีได้ที่ varpevent.com/e/2019/huawei/cloud-ai-day รีบหน่อยนะ ที่นั่งมีจำกัด แต่ถ้าลงทะเบียนไม่ทัน แบไต๋จะเก็บรายละเอียดมาเล่าให้ฟังกันอีกครั้งครับ