วันที่ 28 มกราคม Huawei เผยความพร้อมด้านการทดสอบเทคโนโลยี 5G โดยเตรียมเปิดการทดสอบการใช้งาน (Testbed) ขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นครั้งแรกในภูมิภาค พร้อมจับมือสำนักงานส่งเสริมเศรษกิจดิจิทัล (DEPA) จัดสมมนาฝึกอบรม “Embracing 5G: Business Leadership Training” เพื่อเตรียมความพร้อมของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในการมาถึงของเทคโนโลยี 5G อย่างเป็นทางการ โดยการฝึกอบรมในครั้งนี้จัดขึ้น 3 วันตั้งแต่วันที่ 28 – 30 มกราคมนี้
Alex Wang Vice President of Marketing Operation, Huawei Wireless พูดถึงขีดความสามารถของเทคโนโลยี 5G
เรียกได้ว่าเทคโนโลยี 5G นั้นมีความเป็นไปได้ที่มากมายมหาศาลสำหรับการใช้งาน เพราะ 5G มาพร้อมกับความไวที่สูงมาก ความหน่วงที่น้อยมาก และครอบคลุมได้กว้างกว่าเครือข่าย 4G ซึ่งปัจจุบันมี Operator รองรับแล้วกว่า 30 เจ้าทั่วโลก
ซึ่งเมื่อเทียบกับอดีตแล้ว โลกของธุรกิจได้เปลี่ยนไปอย่างมหาศาล เช่นบริษัทผลิตนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันไม่ใช่ Rolex หรือ Casio แต่เป็น Apple ผู้มี Data อยู่กับตัวมากมายมหาศาล จึงเรียกได้ว่าใครมี Data มากและนำมาใช้งานได้ คน ๆ นั้นจะกลายเป็นผู้นำในปัจจุบัน
ปัจจุบันนอกจาก 5G ที่กำลังจะเข้ามาแล้ว ยังมีโลกของ AI, Big Data และ IoT ที่กำลังพัฒนาขึ้นมาอยากต่อเนื่อง โดยจะถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันผ่าน 5G เพื่อก้าวสู่อุตสาหกรรมในยุคใหม่
Cloud X
ก้าวถัดไปของเทคโนโลยี Cloud ที่นำเอา Cloud APP ร่วมกับความเร็วในการเชื่อมต่อของอินเตอร์เน็ต 5G เชื่อมกับ Smart Device ต่าง ๆ เพื่อให้เราสามารใช้ระบบ AR/VR ผ่านอินเตอร์เน็ตได้เลย!
Huawei Cloud PC 2.0 เป็น 1 ในก้าวล่าสุดที่สามารถทำให้คุณใช้คอมพิวเตอร์ผ่านระบบ Cloud ได้อย่างเต็มที่ เสมือนกับนำเอาคอมพิวเตอร์ที่บ้านของคุณมาใช้งานทั้งการทำงานปกติหรือทำงานด้านกราฟิก หรือแม้แต่การเล่นเกม ก็สามารถเล่นผ่านระบบ Cloud ได้เลย เพียงแค่มีหน้าจอ + Type-C Dock และมือถือ 1 เครื่องเท่านั้น
Digital Sky
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราจะมีโอกาสได้สัมผัสกับเทคโนโลยีการรับส่งผู้โดยสารและด้านการขนส่งสินค้าผ่านอากาศยานไร้คนขับอย่างแน่นอน
Wireless eHealth
อีก 1 เทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยเหลือชีวิตของมนุษย์กับระบบที่ที่ทำให้แพทย์สามารถรับรู้ข้อมูลข้อมูลข่าวสารได้แบบ Realtime และสามารถเชื่อมต่อกับหุ่นยนต์ เพื่อทำการผ่าตัดระยะไกลได้เสมือนกับไปอยู่ตรงนั้นจริง ๆ ได้
Wireless Connect Factory
ในอนาคตจะมีระบบ AI ที่เข้ามาควบคุมการขับเคลื่อนสายพานให้มีความ flexible มากกว่าเดิม พร้อมการควบคุมผ่านเทคโนโลยี 5G โดยใช้ AI เข้ามาควบคุมการทำงาน ทำให้โรงงานจากเดิมที่ต้องผลิตบนสายพานแบบยาว ๆ ก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามความเหมาะสม ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการเป็นอย่างมาก
Tele-operated Driving
อีก 1 เทคโนโลยีที่น่าสนใจนั่นคือระบบรถยนต์ไร้คนขับ โดยใช้อินเตอร์เน็ต 5G เชื่อมต่อระหว่างคนขับที่อยู่อีกที่หนึ่งเข้ากับรถยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดภาระของคนขับรถที่ต้องเดินทางไปมาได้เป็นอย่างดี
และนี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี 5G ที่โลกของเรากำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า พร้อมปูทางไปสู่บริการใหม่ ๆ ในอนาคต ปัจจุบันหัวเว่ยได้ลงนามในสัญญา 5G เชิงพาณิชย์แล้วกว่า 30 ฉบับ และยังคงศึกษาความต้องการของไทยอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมแสวงหาแนวทางที่เหมาะสมเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ยุคแห่ง Digital Transformation ตลอดจนทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมไปถึงสถาบันการศึกษาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาผู้มีความสามารถที่จะเป็นกำลังสำคัญต่อไปในอนาคต