วันพลัส (Oneplus) เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ในซีรีส์ 7T ในไทยอย่างเป็นทางการ มีรุ่นย่อยถึง 2 รุ่นด้วยกัน คือ Oneplus 7T และ Oneplus 7T Pro พร้อมทั้งเปิดตัวดีไซน์พิเศษ McLared Edition ตกแต่งตัวเครื่องโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถซูเปอร์คาร์ McLaren

Oneplus 7T, Oneplus 7T Pro

ซ้าย: Oneplus 7T, ขวา: Oneplus 7T Pro

สำหรับสเปกของทั้งสองรุ่นนี้ เริ่มที่ซีพียู SnapDragon 855 Plus Octa-Core มาพร้อมกับ Qualcomm AI Engine ส่วนกราฟิกหรือจีพียูใช้ Adreno 640 ส่วนของแรมให้มาถึง 8 กิกะไบต์ สำหรับความจำภายในตัวเครื่อง ในร Oneplus 7T ให้มา 128 กิกะไบต์ ส่วน Oneplus 7T Pro ให้มาอีกหนึ่งเท่าตัว เป็น 256 กิกะไบต์ และแน่นอนว่าไม่มีช่องเสียงการ์ดความจำ จึงไม่สามารถใส่การ์ดเพื่อเพิ่มความจำได้

ขนาดของหน้าจอ ใน Oneplus 7T มีขนาด 6.55 นิ้ว อัตราส่วน 20:9 ส่วน Oneplus 7T Pro ขนาดหน้าจอ 6.67 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ซึ่งหน้าจอของทั้งสองรุ่นนี้ ใช้กระจกหน้าจอ 3D Corning Gorilla Glass และมีรีเฟรชเรตอยู่ที่ 90Hz ทำให้ทำให้การแสดงผลของภาพนั้นดูลื่นกว่าหน้าจอสมาร์ตโฟนอื่น ๆ ในท้องตลาด โดยเฉพาะใน Oneplus 7T Pro ความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ 3120 X 1440 พิกเซล ความคมชัดแบบ QHD+ รวมไปถึงยังรองรับความคมชัดในระดับ HDR10+ ทำให้การรับชมวิดีโอจากยูทูบ หรือจาก Netflix ได้คมชัดและสมจริงกว่าเดิม (ส่วนใน Oneplus 7T มีความละเอียด 2400 X 1080 พิกเซล)

Oneplus 7T

ด้านหน้าของ Oneplus 7T

Oneplus 7T Pro

ด้านหน้าของ Oneplus 7T Pro

ในส่วนของกล้องนั้น กล้องหลักของทั้งสองรุ่นใช้เซนเซอร์ Sony IMX586 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.6 รองรับระบบกันสั่น OIS และ EIS, กล้อง Ultra Wide Angle Lens ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.2 กว้างถึง 117 องศา, กล้อง Telephoto Lens มีความแตกต่าง โดยใน Oneplus 7T มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2 ส่วนใน Oneplus 7T Pro ความละเอียดลดมาที่ 8 ล้านพิกเซล f/2.4

ด้านซ้าย: กล้องหลังของ Oneplus 7T เรียงกันในแนวนอน, ด้านขวา: กล้องหลังของ Oneplus 7T Pro เรียงกันในแนวตั้ง

และในส่วนของ Optical Zoom นั้น Oneplus 7T สามารถทำได้ 2 เท่า ส่วน Oneplus 7T Pro ทำได้มากถึง 3 เท่า

สำหรับกล้องหน้านั้น ให้มาเท่ากันในทั้งสองรุ่น ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony IMX471 f/2.0 โดยกล้องหน้าในรุ่น 7T Pro เป็นกล้องแบบพอปอัพ รองรับแรงกดต่อตัวกล้องได้มากถึง 22.3 กิโลกรัม (ส่วนกล้องหน้าของ Oneplus 7T อยู่บนหน้าจอ ทำให้ขอบบนของหน้าจอมีดีไซน์ติ่งหยดน้ำ)

สเปกส่วนอื่น ๆ ของเครื่องมีตั้งแต่ ระบบปฏิบัติการ Android 10 มาพร้อม OxygenOS 10 ที่เป็นเอกลักษณ์ของวันพลัส, พอร์ตชาร์จแบบ USB Type-C รองรับการใช้งานหูฟังที่มีพอร์ต Type-C, ด้านหลังของเครื่องใช้กระจก 3D Corning Gorilla Glass, รองรับการใช้งานสองซิม และถาดซิมรองรับได้ทั้งสองใบ เป็นแบบ Nano Sim, ลำโพงคู่ ให้เสียงสเตริโอ มาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos และสามารถทำ Noise Cancelling ได้, Haptic Motor รองรับการสั่นหลายรูปแบบและสมจริง, รองรับการปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า และการสแกนนิ้วมือ แบบ In-Display และปุ่ม Alert Slider เปิดปิดเสียงเรียกเข้าของตัวเครื่อง ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และไมมีใครเหมือน

ส่วนแบตเตอรี่นั้น ใน Oneplus 7T ความจุ 3,800 มิลลิแอมป์, Oneplus 7T Pro ความจุ 4,085 มิลลิแอมป์ ทั้งสองรองรับการชาร์จแบบ Warp Charge 30T

นอกเหนือจากทั้งสองรุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ ยังได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนดีไซน์พิเศษ อย่าง Oneplus 7T Pro McLared Edition โดยตัวดีไซน์และลวดลายบนตัวเครื่อง ได้รับแรงบันดาลใจจากรถซูเปอร์คาร์ McLaren มาพร้อมกับสี Papaya Orange (สีส้มมะละกอ) อันเป็นสีที่เป็นเอกลักษณ์ของค่ายรถค่ายนี้ พร้อมทั้งตัว UI ภายในเครื่อง ยังออกแบบให้เข้ากันกับตัวเครื่องและ McLaren ซึ่งจะมีเฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้น เครื่องอื่นหรือรุ่นอื่น ๆ ไม่สามารถหามาติดตั้งได้ ส่วนตัวสเปกของรุ่นพิเศษนี้เหมือนกันทั้งหมด แต่จะมีจุดแตกต่างอยู่จุดเดียว คือส่วนของแรมที่ให้มาในตัวเครื่อง จากเดิมที่ให้มา 8 กิกะไบต์ ในรุ่นพิเศษนี้ให้มามากถึง 12 กิกะไบต์เลยทัเดียว ทำให้การประมวลผลแรงมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของราคาวางจำหน่ายนั้น

  • Oneplus 7T ราคา 17,990 บาท
  • Oneplus 7T Pro ราคา 26,990 บาท
  • Oneplus 7T Pro McLaren Edition ราคา 29,990 บาท

สำหรับการจัดจำหน่าย Oneplus 7T Series นั้น ในรุ่น 7T Pro จะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ผ่านช่องทางออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น AIS Online Store, JD Central และ Lazada รวมไปถึงเอไอเอสช็อป ทั้ง 33 สาขา ส่วน Oneplus 7T เปิดให้สั่งจองตั้งแต่วันที่ 22 – 28 ตุลาคม และจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป และในส่วนของรุุ่นพิเศษ Oneplus 7T Pro McLaren Edition จะเปิดจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ และที่สำคัญ เป็นรุ่น Limited Edition สินค้ามีจำนวนจำกัด ใครที่เป็นสาวกต้องไม่ควรพลาด

และข่าวดีสำหรับผู้ใช้งานเครื่องของ Oneplus ในประเทศไทย ในเร็ว ๆ นี้ จะมีศูนย์บริการของ Oneplus อย่างเป็นทางการ ส่วนจะตั้งอยู่ในที่ใด และเปิดให้บริการเมื่อไหร่นั้น ทาง #beartai จะรายงานให้ทราบต่อไป

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส