ถือว่าเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานพอสมควร สำหรับ Movie2Free เว็บไซต์ขวัญใจคนชอบรับชมภาพยนตร์ ที่เปิดให้ชมภาพยนตร์ทั้งเก่าและใหม่ได้แบบฟรี ๆ แต่ว่าภาพยนตร์ที่นำมาให้ชมนั้น ล้วนเป็นภาพยนตร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งสิ้น บ้างก็เป็นหนังชนโรง บ้างก็เป็นการตั้งกล้องแอบถ่ายจากในโรงภาพยนตร์ (ตั้งกล้องซูม)
ซึ่งล่าสุด มีรายงานข่าวว่าเว็บไซต์ Movie2Free ได้ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เข้าทลายเว็บและยึดอุปกรณ์ พร้อมทั้งตรวจสอบทรัพย์สินภายใน โดยเว็บไซต์ที่ถูกสั่งปิดในครั้งนี้ จดทะเบียนโดเมนเนม movie2free.com พบว่าเจ้าของเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นชายวัย 30 ปี ปัจจุบันไม่ได้พำนักในประเทศไทย แต่มอบหมายให้หนุ่มวัย 22 ปี ดูแลเว็บไซต์แทน (ในฝั่งประเทศไทย) ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ DSI ได้เข้าจับกุมตัว ระหว่างที่หนุ่มวัย 22 ดังกล่าว กำลังมอนิเตอร์เว็บไซต์ ส่งผลให้นำมาสู่การสั่งปิดเว็บโดยทันที และพบว่าการทำงานของเว็บ Movie2Free เป็นไปอย่างซับซ้อน มีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในต่างประเทศ มีภาพยนตร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งไทยและเทศร่วม ๆ 3,000 เรื่อง มีการตั้งเครื่องแม่ข่ายบังหน้าไว้ถึง 2 ชั้น เพื่อป้องกันการเข้าถึงจากทางเจ้าหน้าที่ และป้องการถูกแกะรอย จนนำไปสู่การสั่งปิดและการจับกุม
ในส่วนของรายได้ที่เข้ามานั้น เดลินิวส์ออนไลน์ได้รายงานว่า ทางเว็บได้รับรายได้จากการลงโฆษณาบนเว็บ (แถบแบนเนอร์ตามส่วนต่าง ๆ) ซึ่งในช่วงระยะหลังมานี้ ได้รับค่าโฆษณาจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ แลกการลงโฆษณาบนเว็บ ทั้งในแบบแบนเนอร์ และวิดีโอที่จะเล่นก่อนภาพยนตร์จะเริ่ม พบว่าเว็บพนันที่ต่างมาลงโฆษณานี้ มีมากถึง 25 เว็บไซต์ รายได้ที่เข้าเว็บนั้นมากถึงราว ๆ 5 ล้านบาทต่อเดือน
สาเหตุที่ทาง DSI ต้องลงมาทำคดีนี้ด้วยตนเองนั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ในสหรัฐฯ ในชื่อ “สมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา” และตัวแทนลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ฮอลลีวูด 8 ราย ได้ร้องขอให้ทาง DSI สืบสวนเว็บไซต์ดังกล่าว เมื่อช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมา
สถิติการเข้าใช้บริการของเว็บนี้ จากการรายงานของ DSI พบว่า ในช่วงต้นปี 2562 ที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมประมาณ 800,000 – 900,000 IP Address ต่อวัน ซึ่งถือว่าสูงมาก ยอดวิวภายในตกวันละ 10 ล้านวิว และเว็บดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์อันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และก่อนหน้านี้ ในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2561 ได้ถูก DSI สั่งปิดเว็บไซต์มาแล้วหนหนึ่ง แต่ทว่ายังสามารถเข้าถึงเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ในเว็บไซต์ได้อยู่
สำหรับการเข้าทลายเว็บ Movie2Free ในครั้งนี้ อยากให้มองถึงเรื่องของการปราบปรามเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์เป็นหลัก ไม่เกี่ยวกับการตัดช่องทางการเข้าถึงแบบฟรี ๆ ตามที่พวกเราได้เห็นคอมเมนต์ต่าง ๆ ตามสื่อสังคมออนไลน์มาแล้วหลายต่อหลายนัด ทั้งอ้างว่าตนเองนั้นไม่มีรายได้ หรือแม้แต่ไม่ต้องการไปรับชมภาพยนตร์ในโรง จนมาหมายใจกับการรับชมแบบฟรี ๆ ผ่านเว็บไซต์หรือเพจต่าง ๆ บนเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นความน่าแปลกที่ว่าตนเองยอมรับชมแบบฟรี ๆ ทั้งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ และในบางครั้งที่รับชมนั้น กลับเป็นหนังซูม ไร้ซึ่งความละเอียดที่ชัดเจน
ผู้เขียนอยากให้มองถึงความตั้งใจในการสรรค์สร้างเนื้อหาเพื่อนำเสนอผู้ชมอย่างเรา ๆ ซึ่งแน่นอนว่างานแต่ละชิ้นที่ผ่านสายตาต่างมีต้นทุนในการสร้างทั้งสิ้น หากเลือกรับชมผ่านทางช่องทางที่ถูกต้องได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราได้ร่วมสนับสนุนผลงานของผู้สร้างโดยตรง หรือถ้าเป็นผลงานที่ผ่านมานานแล้ว การรับชมผ่านช่องทางสตรีมมิ่ง (Netflix, iFlix, Doonee, Google Play Movies, ฯลฯ) ก็ถือเป็นอีกช่องทางที่ทำได้ แทนที่จะไปรับชมจากเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์, จากเพจหนังฟรีบนเฟซบุ๊ก หรือยอมจ่ายเงินส่วนหนึ่งไปกับกล่อง IPTV ที่โนเนม และเรียกเก็บเงินแพงกว่า ซึ่งมองแล้วเห็นว่า “ได้ไม่คุ้มเสีย”
ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส