ไอทีซิตี้ (IT City) ผู้นำทางด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีครบวงจร และ คอมพิวเตอร์ ซิสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล หรือที่รู้จักกันในนาม “ซีเอสซี” (CSC) ผู้นำแห่งการจัดจำหน่ายสมาร์ตดีไวซ์ชั้นนำ ผนึกกำลังร่วมกิจการ และเปิดตัวแคมเปญใหม่ในการให้บริการการรับประกันที่ไม่ซ้ำใคร ภายใต้ชื่อ “MAX Protection ประกันสองปีที่ดีกว่า” พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายในการขยายสาขาให้ทะลุ 400 สาขาทั่วประเทศ ภายในปี 2563 นี้ และยังเพิ่มพอร์ตสินค้าสมาร์ตดีไวซ์ภายในร้าน เพื่อรองรับกระแส 5G
ภายในงานได้รับเกียรติจากคุณโสภณ อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการแห่งไอทีซิตี้ กล่าวว่า การที่ไอทีซิตี้ได้จับมือร่วมกับทางซีเอสซี ซึ่งมีความเป็นผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์ในตลาดสมาร์ตดีไวซ์มาอย่างยาวนาน ทำให้บริษัทสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านธุรกิจ ทั้งในด้านการเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น จากสาขาของทั้งสองบริษัท ซึ่งรวมกันกว่า 280 แห่งในปัจจุบัน และแบรนด์สินค้าภายใต้การดูแลของทั้งสองบริษัท มีแบรนด์ชั้นนำอีกมากมาย ทำให้เป็นการเพิ่มอำนาจในการต่อรองกับซัพพลายเออร์ให้กับกลุ่มบริษัท
โดยทางบริษัทได้เปิดตัวแคมเปญทางการตลาดชื่อว่า “MAX Protection ประกันสองปีที่ดีกว่า” เป็นการแสดงความขอบคุณและตอบแทนลูกค้าที่ให้ความสนใจ ทั้งไอทีซิตี้ และซีเอสซี มาโดยตลอด แคมเปญดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการรับประกันตัวเครื่องสมาร์ตดีไวซ์ที่ดีที่สุดของตลาดในขณะนี้ ด้วยความที่เงื่อนไขไม่ยุ่งยาก, รวดเร็วทันใจ, ติดตามการซ่อมได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ และง่ายต่อการเข้ารับบริการ เนื่องจากมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ เริ่มจากการประกันตัวเครื่อง 2 ปี โดยในปีแรก หากตัวเครื่องเสียหรือมีปัญหาสามารถติดต่อที่ศูนย์บริการได้ และในปีที่ 2 ยังมีเครื่องให้ยืมใช้งานระหว่างที่ทำการซ่อม นอกเหนือจากนี้ หากพบว่าตัวเครื่องมีปัญหา ต้องการเปลี่ยนเครื่องใหม่นั้น สามารถนำเครื่องมาเปลี่ยนใหม่ได้ ภายใน 30 วัน และยังรับประกันจอแตกนานถึง 1 ปี ซึ่งถือว่านานที่สุดในตลาด ณ ขณะนี้
ทางด้านคุณพิชัย นีรนาทโกมล รองประธานคณะกรรมการของไอทีซิตี้ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของซีเอสซี ได้กล่าวด้วยว่า การร่วมมือกับไอทีซิตี้ ทำให้ซีเอสซีมีเงินทุนเพิ่มในการขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ทางบริษัทสามารถขยายจำนวนสาขาเพิ่มขึ้น จาก 150 สาขาเป็น 200 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ อีกทั้งยังมีความคล่องตัวมากขึ้นในการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ได้ทั้นตามกระแสที่เปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยีในปัจจุบัน
ทางกลุ่มบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มไลน์สินค้าภายในร้านและสาขา ให้รองรับกับเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) และเทคโนโลยี 5G พร้อมทั้งใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซเป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในช่วง Gen Y และ Gen Z มากยิ่งขึ้น ในขณะที่มีแผนเดินหน้าขยายสาขาให้ได้ไม่น้อยกว่า 400 สาขา ภายในสิ้นปี 2563 แคมเปญ MAX Protection ที่ออกมานี้ เป็นแค่การเริ่มต้นของทั้งสองบริษัทในการสร้างสีสันให้กับวงการ ซึ่งหลังจากนี้ ทางกลุ่มบริษัทจะมีแคมเปญทางการตลาด และโปรโมชัน ออกมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแคมเปญ MAX Protection นี้ ได้รับความร่วมมือจากหลากหลายแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่เป็นพันธมิตร อาทิ Samsung, Huawei, Oppo, Vivo และ Realme โดยเชื่อว่าแคมเปญดังกล่าว จะได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกข้าของทั้งสองบริษัท และช่วยเพิ่มยอดของขาให้กับทางบริษัทในช่วงสิ้นปี