ธนาคารกสิกรไทยร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค (NECTEC) และบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการร่วมมือกันระหว่างองค์กร เพื่อนวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการประมวลผลภาษา NPL ที่โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 อาคารสยามแสควร์วัน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2562
NLP (Natural Language Processing)
การประมวลผลภาษาธรรมชาติซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เกิดขึ้นเพื่อลดช่องว่างในการสื่อสารภาษาธรรมชาติระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งการวิจัยในเรื่องนี้มีความโดดเด่นในการสร้างความสามารถให้คอมพิวเตอร์ได้เรียนรู้ และวิเคราะห์ภาษาที่ซับซ้อนต่าง ๆ ได้ใกล้เคียงกับมนุษย์
“นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย” กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การร่วมมือกันครั้งนี้เพื่อพัฒนาโปรแกรมการประมวลผลทางภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) หรือ NLP ซึ่งเป็นการพัฒนานวัตกรรมการประมวลผลภาษาไทยซึ่งเรียกว่า “Thai NLP” ในส่วนของภาษาทางการเงินการธนาคารและธุรกิจ ทั้งนี้คอมพิวเตอร์ AI จะฉลาดไม่ได้เลยถ้าไม่มีเทคโนโลยี NLP ที่แปลภาษามนุษย์ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว องค์ประกอบหลักจึงเป็นเรื่องของภาษาและคอมพิวเตอร์ และสำหรับภาษาไทยนั้นคงไม่มีใครเข้าใจได้ดีเท่าคนไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันการศึกษาที่มีบุคลากรที่มีความแข็งแกร่งทั้งทางด้านภาษาศาสตร์และคอมพิวเตอร์ ในขณะที่ เนคเทค เป็นสถาบันวิจัยด้านเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และทำการวิจัยเรื่องนี้มายาวนาน ส่วนธนาคารกสิกรไทยก็เป็นผู้นำด้านธุรกิจการเงินการธนาคารที่พร้อมสนับสนุนข้อมูลเพื่อให้งานวิจัยออกมาใช้ได้จริงกับภาคธุรกิจ เกิดเป็นความสำเร็จในการพัฒนา Thai NLP ครั้งนี้ ซึ่งธนาคารได้มีการทดลองใช้งานระยะเวลาหนึ่งแล้ว จึงได้เห็นความก้าวหน้าของความสามารถในการแปลความหมายของภาษาไทยในเชิงลึกได้แม่นยำมากขึ้น อันจะเป็นต้นแบบในการนำไปพัฒนาต่อยอดใช้งานสำหรับธุรกิจธนาคารและองค์กรอื่น ๆ ต่อไป
“ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์” อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า งานวิจัย Thai NLP เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ต่างจากภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก เพราะลักษณะภาษาไทยมีความซับซ้อน ทั้งสระ วรรณยุกต์ ความหมายในการใช้งานก็มีความแตกต่างกัน รวมถึงมีคำใหม่เกิดขึ้นเสมอตามการใช้งานแต่ละสมัย โดยเฉพาะปัจจุบันภาษาไทยที่ใช้ในโซเชียลมีเดีย เช่น ภาษาไทยที่ใช้ในทางการเงินการธนาคารก็มีความเฉพาะแตกต่างจากภาษาในภาคธุรกิจอื่นๆ รวมถึงภาษาทางราชการก็ต่างจากภาษาที่เราใช้ในชีวิติประจำวัน ปัจจุบันคนที่สนใจ Thai NLP และ AI ในไทยเริ่มมีมากขึ้น เพราะเรื่องนี้เป็นงานที่เติบโตทั่วโลก แต่ถึงเราจะมีคนสนใจมากขึ้นกว่าเดิมมากแต่เมื่อเทียบกับสากลแล้วนักวิจัยไทยในด้านนี้ก็ยังน้อยอยู่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงเน้นสร้างนักวิจัยใหม่ ๆ กระตุ้นให้มีคนมาสนใจงานด้านนี้มากขึ้น
“ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย” ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ( เนคเทค-สวทช.) กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 30 ปีที่ก่อตั้งเนคเทคขึ้นมา เนคเทคให้ความสำคัญและพัฒนางานวิจัยด้าน Thai NLP มาตลอด การสร้างความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญระหว่างองค์กรภาคธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐในการสร้างความเข้มแข็งของ Thai NLP ให้เป็นนวัตกรรมที่ทันต่อยุคสมัย AI ในปัจจุบัน หนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่นำ Thai NLP มาประยุกต์ใช้ได้แก่ กลุ่มธนาคาร ซึ่งธนาคารเป็นหน่วยงานที่มีข้อมูลหลากหลายและมีภารกิจสำคัญในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วนและต้องมีความรวดเร็ว เนคเทค-สวทช. ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในฐานะหน่วยงานวิจัยของประเทศ มีนโยบายและให้ความสำคัญกับการสนับสนุนเพื่อสร้างงานวิจัยไปสู่การใช้งานจริง
และด้วยการร่วมมือกันของทุกหน่วยงาน และมีจุดประสงค์เดียวกันเพื่อที่จะพัฒนา Thai NLP ทางธนาคารกสิกรไทย ได้มีการนำ Thai NLP นวัตกรรมการประมวลภาษาไทยเข้ามาใช้เพื่อสร้างความสามารถให้คอมพิวเตอร์ทำความเข้าใจข้อความที่ลูกค้าพิมพ์เข้ามาในระบบต่าง ๆ เพื่อการให้บริการและตอบคำถามลูกค้าโดยแชทบอทบนช่องทางโซเชียลมีเดียให้มีความถูกต้องแม่นยำและรวดเร็วได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งการประมวลผลเพื่อทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง (Customer Insight)
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็เปิดให้นักศึกษาได้ใช้ข้อมูล และ Open API ที่เกิดจากงานวิจัยนี้ และจัดตั้งSchool of Integrated Innovation ที่มีพันธกิจในการผลิตบุคลากรยุคใหม่ที่มีทักษะที่เหมาะสมที่จะสามารถสร้างสรรค์งานนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ University Technology Center ที่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโยงนักวิจัยของจุฬาฯ กับภาคอุตสาหกรรมในการนำงานวิจัยเชิงลึกมาพัฒนาเป็นนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมไทย และมีหน่วย CU Enterprise เพื่อบ่มเพาะการพัฒนาให้นวัตกรรมของงานวิจัยเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของ Startup ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานจะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้เกิดนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาประเทศ
นอกจากนี้ ทางเนคเทค-สวทช. ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มบริการ AI ในชื่อว่า AI FOR THAI รองรับการประมวลผลภาษาไทย เสียง และรูปภาพ อาทิ การวิเคราะห์ความคิดเห็น (Sentiment Analysis) การสร้างแชทบอท (chat bot) การแปลเสียงพูดให้เป็นข้อความ (Speech To Text) การแปลข้อความให้เป็นเสียงพูด (Text To Speech) การวิเคราะห์ภาพ ใบหน้าและวัตถุ (Face & Object Recognition) นักพัฒนาโปรแกรมสามารถเข้ามาทดลองใช้งานและร่วมพัฒนาบริการใหม่ ๆ เพื่อมาวางบนแพล็ตฟอร์ม AI FOR THAI ต่อไปได้ และแน่นอนว่าองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่ทาง KBTG วิจัยพัฒนาร่วมกับเนคเทค-สวทช. ส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้ประโยชน์สาธารณะโดยผ่านแพล็ตฟอร์ม AI FOR THAI เพื่อให้ AI ถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศไทยต่อไป