TMB ผนึกธนชาตเป็นหนึ่งเดียว มุ่งสู่ ONE DREAM เพื่อสร้างนิยามใหม่ของวงการธนาคาร ตั้งเป้าเป็นเบอร์หนึ่งในใจของลูกค้าคนไทยทั้งประเทศ ร่วมขับเคลื่อนองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน สร้างนิยามใหม่ของวงการธนาคาร สร้างผลประโยชน์ให้กับธุรกิจ ใส่ใจสร้างผลประโยชน์ให้กับผู้คน, ลูกค้า ปัจเจกที่มีความต้องการไม่เหมือนกัน, สินค้าและบริการทางการเงิน โซลูชันที่ตอบโจทย์ตลอดช่วงชีวิต, มุ่งเน้นเทคโนโลยี ผู้เชี่ยวชาญที่หนุนด้วยเทคโนโลยี

ซึ่ง TMB และธนชาตตั้งใจมองเห็นลูกค้าเป็นคน ๆ ในรูปแบบ Personalize ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละคนได้อย่างตรงจุด เพื่อให้คนไทยก้าวสู่ชีวิตทางการเงินที่ดีในแบบ Financial Well-being คือรากฐานที่จะช่วยให้ทุกคนบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้มากขึ้น

ปัจจุบันคนไทย 80% ของรายได้ต่อเดือนหมดไปกับค่าใช้จ่าย และประเ้ทศไทยปัจจุบัน 21 ล้านคนมีหนี้สินคนละมากกว่า 500,000 บาท และคนไทย 7% มีประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพที่เพียงพอ และคนไทยไม่ได้วางแผนการเกษียณถึง 68% และคนไทยแม้เกษียณแล้วก็ยังมีหนี้อยู่มากกว่า 400,000 บาท จะมีแค่ 1 ใน 70 มีเงินใช้หลังเกษียณ แถมใครที่เริ่มต้นทำธุรกิจ ก็จะต้องเงินเก็บทั้งชีวิตนำมาเริ่มทำธุรกิจ นอกเหนือจากนั้นก็ต้องกู้ในแบบดอกเบี้ยสูงและมีเพียง 39% เข้าถึงเงินกู้ด้านธุรกิจ

โซลูชันตอบโจทย์ชีวิตทางการเงิน

ซึ่ง TMB ตั้งใจสร้างโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ชีวิตทางการเงินที่ดีในหลากหลายรูปแบบ เป็นโซลูชันสำหรับครอบครัวที่จะมีระบบดังนี้

  • การตั้งเป้าหมายฝากเงินผ่านบัญชีเพื่อออโนฟิกซ์ ที่มีดอกสูง 1.6%
  • ออมเงินทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตออลล์ฟรี
  • ออมอย่างมีวินัยผ่านฟังก์ชันเตือนเพื่อออมเมื่อถึงเวลา
  • ถ้าต้องการเงินกู้ฉุกเฉินก็มี Instant Loan ที่อนุมัติเร็ว ดอกเบี้ยต่ำ
  • ฟรีประกัน 20 เท่า สูงสุด 3 ล้านบาทจากเงินฝากของบัญชีออลล์ฟรี
  • สามารถลงทุนผ่านฟังก์ชันแผนการลงทุนอัตโนมัติที่ช่วยนำเงินจากการออมไปลงทุนได้อีกด้วย

สินเชื่อรถยนต์

ปัจจุบันรถยนต์ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญในการต่อยอดการดำเนินชีวิต สร้างการเติบโตทางด้านธุรกิจ ซึ่งธนาคาร TMB มีข้อมูล Scoring Model ที่นำข้อมูลมาวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้และการปล่อยกู้เพื่ออนุมัติสินเชื่อที่เหมาะสม เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงให้กับลูกค้า ทั้งเป็นการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ได้ในระดับที่เหมาะสมอีกด้วย นอกจากนี้ลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินที่ดีจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราพิเศษ และเพื่อสนับสนุนให้,ูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากการใช้บริการสิเชื่อรถยนต์ที่หลากหลายและครบทุกบริการผ่านกลุยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูล (Data-Driven Strategy) เพื่อบริการที่ดีที่สุด โดยมี 2 ระบบหลัก ๆ คือ Cross Area Booking เป็นระบบทำความเข้าใจการขายของคู่ค้าในช่องทางออนไลน์ ที่มีการให้บริการข้ามพื้นที่ เพื่อให้การขายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ ALDX (Automotive Lending Digital Experience) ระบบอำนวยความสะดวกลูกค้าตั้งแต่การสมัครสินเชื่อ ติดตามผลอนุมัติ จนกระทั่งบริการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด

ลูกค้าธุรกิจ

ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมี GDP อยู่ 15.3 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็น 43% หรือ 7 ล้านล้านบาท แบ่งอยู่ใน 0.2% หรือ 6,000 บริษัท แต่อีก 7 ล้านล้านบาทหรือ 43% ที่เหลือ ถูกแบ่งไปให้กับธุรกิจอีก 99.8% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ SME ซึ่งทำให้มีความเหลื่อมล้ำค่อนข้างสูง ดังนั้นการช่วยเศรษฐกิจไทย จึงต้องช่วยในฝั่งธุรกิจ SME เหล่านี้ ให้มีชีวิตทางการเงินที่ดี นั่นคือการมอบแหล่งเงินทุนให้ธุรกิจอย่างถูกประเภท ถูกเวลา ไม่เกินตัว และตรงความต้องการจริง เพื่อให้ธุรกิจทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กเติบโตไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน

การให้บริการลูกค้า

การรวม 2 ธนาคารเข้าด้วยกันนี้ทำให้จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านราย ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบให้ดีที่สุด โดยธนาคารตั้งใจนำเสนอโพรดักส์ในรูปแบบ Solution ผ่านช่องทางบริการมากมาย เช่น ช่องทางสาขา เครื่อง ATM / ADM โมบายแอป Contact Center หรือ Relationship Manager ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกสร้างเป็นประสบการณ์แบบไร้รอยต่อในทุกช่องทาง Seamless Experience ซึ่งจะต้องดูแล Relation ที่สามารถเข้าถึงช่องทางไหน ก็ได้รับการบริการได้ในระดับใกล้เคียงกันมากที่สุด นำ DATA มาใช้เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ถูกที่ ถูกเวลา Right Moment Right Advice Right Solution และในบรรดาช่องทางทั้งหมด พนักงานสาขาทั้งหมดคือหน้าบ้านและถือว่าเป็นด่านแรกที่จะพบกับลูกค้า จึงจำเป็นที่ต้องมีทักษะที่เปลี่ยนไป กลายเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่แท้จริง โดยจะมีการอบรมอย่างเข้มข้นและโค้ชชิ่งอย่างใกล้ชิด ปรับเปลี่ยน KPI ที่เน้นในด้านการตอบโจทย์ลูกค้าในรูปแบบ Customer Well-being เพื่อให้เกิด Employee Well-being ได้อย่างราบรื่น

คุณปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทีเอ็มบี

การดำเนินการแผนการจับมือทางธุรกิจรวมกิจการของทั้ง 2 ธนาคาร เป็นการก้าวข้ามความท้าทายมาได้อย่างราบรื่นและมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งในปี 2020 นี้ทั้ง 2 ธนาคารจะเริ่มผนึกกำลังหลอมรวมทีมงานจากทั้ง 2 ฝั่งให้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้ ONE DREAM, ONE TEAM, ONE GOAL เพื่อลูกค้าทั้งสองธนาคาร ซึ่งเป้าหมายการรวมพลังในครั้งนี้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลง พร้อมสร้างนิยามใหม่ของวงการธนาคารที่เน้นการเอาใจใส่ลูกค้า กล้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาด้านโซลูชันทางการเงินที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ลูกค้าตลอดทุกช่วงชีวิต

ความมุ่งหวังของเราคือ ต้องการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีหรือ Financial Well-Being ให้กับลูกค้าคนไทยทั้งประเทศ เพราะเราเชื่อว่ามันคือรากฐานที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้ เมื่อเรามี ONE DREAM ที่เป็นจุดหมายเดียวกันแล้ว และเรามี ONE TEAM ที่จะร่วมกันทำให้ฝันของเราเป็นจริง ดังนั้นการรวมกันในครั้งนี้หวังว่าจะทำให้ธนาคารใหม่นี้ขึ้นแท่นเป็นธนาคารที่ลูกค้าชื่นชอบและบอกต่อมากที่สุด (The Most Advocated Bank)

คุณปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทีเอ็มบี

คุณประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่

เป้าหมายของธนาคารคือการรวมเป็นหนึ่งเดียวภายใน กรกฎาคม 2564 โดยเริ่มต้นคือการเตรียมการให้พนักงานเริ่มเรียนรู้และทองลองใช้ เพื่อส่งต่อผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดให้ลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคาร เพื่อตอบโจทย์ในทุก ๆ ด้าน ซึ่งระบบของทั้ง 2 ธนาคารจะเริ่มมอบสิ่งดี ๆ ให้กับลูกค้าทั้ง 10 ล้านรายภายในเดือนมีนาคมนี้ และทำการรวมธนาคารทั้ง TMB และ ธนชาต มาร่วมกันในแบบ Co-Location และนอกจากนี้ลูกค้าของธนาคาร TMB Touch สามารถใช้บริการตู้ของธนาคารธนชาตที่มีกว่า 4,700 เครื่องได้ และพร้อมทำการโอนย้ายพนักงานเป็นระยะ โดยจะค่อย ๆ ทยอยปรับโครงสร้างจนถึงเดือนกรกฎาคมปี 64 นั่นเอง พร้อมดูแลพนักงานเท่าเทียมกันอย่างที่สุดในรูปแบบ Employee Well-being ที่มี 3 เรื่องหลัก ๆ ที่ดูแลคือ

  • Health สวัสดิการรักษาพยาบาลที่ดูแลตามอายุงานพนักงาน มีทุนประกันจำนวนหนึ่งสำหรับปกป้องพนักงานจากการเกิดโรคร้าย
  • Wealth มีการสมทบ Fund ให้กับพนักงานให้มีเงินเพียงพอให้กับการใช้จ่ายหลังเกษียณ
  • Skill พนักงานใหม่ต้องมีการ Reskill ใหม่ ๆ ทุก ๆ วัน เพื่อตามโลกในปัจจุบันได้ทันท่วงที
คุณประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่