เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 บริษัท พานาโซนิค คอร์ปอเรชั่น ไลฟ์ โซลูชันส์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ภายใต้การกำกับดูแลของ พานาโซนิค คอร์ปอเรชั่น ได้จัดงาน “แถลง 3 กลยุทธ์สำคัญสำหรับการรุกตลาดธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้าและที่พักอาศัยแบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” โดยเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้า พาร์ตเนอร์ และสังคม พร้อมจับมือร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในแต่ละประเทศ เพื่อพัฒนาโซลูชันส์ใหม่ๆ ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตและการอยู่อาศัยให้ดีขึ้น คาดการณ์ว่าจะสร้างยอดขาย 27,800 ล้านบาท (100,000 ล้านเยน) จากทั่วทั้งภูมิภาคภายในปี 2564
โดยทางพานาโซนิคกล่าวว่า เหตุผลที่เราเข้ามาทำตลาด B2C (Business to Consumer) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างจริงจัง เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าในปี 2030 ประชากรในภูมิภาคอาเซียนจะมีมากถึง 640 ล้านคน (ปัจจุบัน 520 ล้านคนในปี 2020) และจะมีการก่อสร้างบ้านเรือนสำหรับอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น จึงตั้ง 3 กลยุทธ์สำคัญในการลุยตลาดอาเซียน
กลยุทธ์ที่ 1: เพิ่มโปรดักส์ใหม่ สร้างสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับลูกค้า
โดยทางพานาโซนิคได้กล่าวไว้ว่า กลยุทธ์แรกที่ให้ความสำคัญคือ การยกระดับความสัมพันธ์กับลูกค้าให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอุปกรณ์เดินสายไฟในบ้าน เช่น ปลั๊กไฟ สวิตช์ไฟ เต้ารับติดผนัง เนื่องจากในอนาคตจะมีประชากรมากขึ้น ที่อยู่อาศัยจะเยอะขึ้น ความต้องการก็สูงขึ้นตามไปด้วย
กลยุทธ์ที่ 2: จับมือพาร์ตเนอร์ พัฒนาโปรดักส์ใหม่ สำหรับที่อยู่อาศัย
“เราเข้ามาทำตลาดเกี่ยวกับไลฟ์โซลูชันส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อราวๆ 2-3 ปีก่อน ที่ผ่านมาเป็นการเตรียมตัวและวางรากฐานในปีนี้เราจะรุกตลาดอย่างจริงจัง” คุณ ไดโซะ อิโตะ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยกลยุทธ์ที่ 2 ที่ทางพานาโซนิคจะเข้ามาดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็คือ “การจับมือร่วมกับพาร์ตเนอร์ด้านอสังหาริมทรัพย์ในแต่ละประเทศ” เพื่อสร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันส์ต่างๆ ที่จะตอบโจทย์การใช้งาน ช่วยประหยัดแรงงานและลดระยะเวลาในการก่อสร้างลง นอกจากความร่วมมือในการพัฒนาแล้ว ทางพานาโซนิคยังจะแชร์ความรู้และประสบการณ์ที่ให้อีกด้วย
กลยุทธ์ที่ 3: พัฒนาโซลูชันส์ ช่วยแก้ปัญหาสังคม
นอกจากจะตอบโจทย์แล้วสินค้าของพานาโซนิคยังต้องช่วยแก้ปัญหาสังคม 3 ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพที่จะพัฒนาสินค้าใหม่อย่าง “ระบบกรองน้ำส่วนกลาง” ที่จะช่วยทำความสะอาดน้ำ เพื่อการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี, ด้านการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากอัตราการเกิดลดลง ทำให้หลายประเทศเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่คนสูงวัยจะมีมากกว่าคนทำงาน จึงเกิด “บ้านสำเร็จรูป” สำหรับหอพักอพาร์เมนต์ ที่สามารถลดเวลาการก่อสร้าง ลดปริมาณงาน และทำให้คุณภาพสูงขึ้น โดยทางพานาโซนิคเริ่มจำหน่ายแล้วในจีน แล้วก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงมาต่อยอดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, สุดท้ายปัญหาเรื่องสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากสุขภาพที่ร่วงโรยตามกาลเวลาจึงจำเป็นต้องมีโปรดักส์มาช่วยดูแลในส่วนนี้ โดยทางพานาโซนิคได้พัฒนา “เดอะชาวเวอร์” เก้าอี้สำหรับนั่งอาบน้ำที่มีมุมฉีดน้ำรอบตัว และมีเตียงนอน “ริโชเนะ” แบบแอโรบิคที่ปรับระดับได้ แล้วยังสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วย (คล้ายเตียงในโรงพยาบาล) ทำให้ผู้สูงอายุสามารถเคลื่อนไหว ไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง
และในช่วงท้าย คุณ ไดโซะ อิโตะ ได้ตอบคำถามของนักข่าวเกี่ยวกับเรื่องไวรัสโคโรนาที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศจีนว่า “เราประเมินแล้วว่าสถานการณ์ไวรัสโคโรนาในประเทศจีนยังสามารถรับมือได้ ไม่ส่งผลกระทบกับภาคการผลิต และถ้าโรงงานปิดเราก็ยังไปผลิตที่อื่นได้ มีโรงงานตั้งอยู่ในหลายประเทศ ยังมีสินค้าป้อนสู่ตลาด และไม่กระทบกับเป้ายอดขายที่ตั้งไว้อีกด้วย”
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส