ไม่มงไม่มีอีกต่อไปกับคำล้อซัมซุง (Samsung) ว่าชอบกั๊กสเปก เพราะในสมาร์ตซีรีส์ S รุ่นล่าสุดอย่าง S20 ที่มาด้วยกันทั้งสิ้น 3 โมเดล (S20, S20+ และ S20 Ultra 5G) ที่จัดหนักจัดเต็มอัดแน่นด้วยหลากหลายฟังก์ชันของความเป็นสมาร์ตโฟน จนอาจกล่าวได้ว่าบางอย่าง “แซงหน้าแบรนด์อื่นไปเลยทีเดียว”
Galaxy S20 | Galaxy S20+ | Galaxy S20 Ultra 5G | |
---|---|---|---|
หน้าจอ | ขนาด 6.2 นิ้ว ประเภท Quad HD+ Dynamic AMOLED 2X Infinity O-Display (3200x1440) รองรับ HDR10+ หน้าจอสนับสนุนรีเฟรชเรตที่ 120Hz | ขนาด 6.7 นิ้ว ประเภท Quad HD+ Dynamic AMOLED 2X Infinity O-Display (3200x1440) รองรับ HDR10+ หน้าจอสนับสนุนรีเฟรชเรตที่ 120Hz | ขนาด 6.9 นิ้ว ประเภท Quad HD+ Dynamic AMOLED 2X Infinity O-Display (3200x1440) รองรับ HDR10+ หน้าจอสนับสนุนรีเฟรชเรตที่ 120Hz |
กล้องหน้า | 10 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยี Dual Pixel AF รูรับแสง 2.2 มุมรับภาพ 80 องศา | 10 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยี Dual Pixel AF รูรับแสง 2.2 มุมรับภาพ 80 องศา | 40 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยี PDAF รูรับแสง 2.2 มุมรับภาพ 80 องศา |
กล้องหลัง | กล้องหลัก: (อัลตราไวด์) 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.2 มุมรับภาพ 120 องศา | กล้องหลัก: (อัลตราไวด์) 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.2 มุมรับภาพ 120 องศา | กล้องหลัก: (อัลตราไวด์) 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.2 มุมรับภาพ 120 องศา |
กล้องเลนส์ไวด์: 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง 1.8 มุมรับภาพ 79 องศา ใช้เทคโนโลยี Super Speed Dual Pixel AF และมีกันสั่นแบบ OIS | กล้องเลนส์ไวด์: 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง 1.8 มุมรับภาพ 79 องศา ใช้เทคโนโลยี Super Speed Dual Pixel AF และมีกันสั่นแบบ OIS | กล้องเลนส์ไวด์: 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง 1.8 มุมรับภาพ 79 องศา ใช้เทคโนโลยี PDAF มีระบบกันสั่น OIS |
|
กล้องเลนส์เทเลโฟโต้: 64 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยี PDAF รูรับแสง 2.0 มุมรับภาพ 76 องศา มีกันสั่นแบบ OIS | กล้องเลนส์เทเลโฟโต้: 64 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยี PDAF รูรับแสง 2.0 มุมรับภาพ 76 องศา มีกันสั่นแบบ OIS | กล้องเลนส์เทเลโฟโต้: 48 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยี PDAF รูรับแสง 3.5 มุมรับภาพ 24 องศา มีกันสั่นแบบ OIS | |
กล้องวัดระยะ (TOF) | กล้องวัดระยะ (TOF) | ||
ชิปประมวลผล | Exynos 990 | Exynos 990 | Exynos 990 |
RAM/ROM | 8GB/128GB (ใส่ MicroSD Card เพิ่มได้สูงสุด 1TB) | 8GB/128GB (ใส่ MicroSD Card เพิ่มได้สูงสุด 1TB) | 12GB/128GB (ใส่ MicroSD Card เพิ่มได้สูงสุด 1TB) |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB Type-C | USB Type-C | USB Type-C |
แบตเตอรี่ | 4000 mAh | 4500 mAh | 5000 mAh |
สีเครื่อง | เทา Cosmic Grey, น้ำเงิน Cloud Blue และ ชมพู Cloud Pink | เทา Cosmic Grey, น้ำเงิน Cloud Blue และ ดำ Cosmic Black | เทา Cosmic Grey และ ดำ Cosmic Black |
นี่อาจจะเป็นข่าวเปิดตัว แต่ไหน ๆ ผู้เขียนก็ไปจับมาแล้ว คิดซะว่านี่คือการพรีวิวตัวเครื่อง ๆ คร่าวละกันครับ เริ่มกันที่ดีไซน์ตัวเครื่อง ต้องบอกเลยว่าขนาดและสัมผัสนั้นออกแบบมาให้จับได้ถนัดมือมาก ฝาหลังใช้วัสดุเป็นจะติดมือไม่รู้ โดยเฉพาะรุ่นพลัสและอัลตรา 5G (หัวสูงซะด้วย ฮ่า ๆ) ด้านข้างของเครื่องลาดลงก็จริง แต่ฝาหลังจะให้ผิวสัมผัสค่อนข้างติดมือก็มั่นใจได้ระดับหนึ่งว่ามันไม่ตกหล่นง่าย ๆ แต่ที่ดูจะขัดหูขัดตาหน่อยก็คงจะเป็นกล้องที่นูนขึ้นมาพอสมควร ก็แนะนำให้หาเคสมาใส่ไว้ละกัน (ส่วนเรื่องการวางกล้องอันนี้ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจเนอะ…)
มาต่อกันที่จุดเด่นในซีรีส์นี้กันบ้าง S20 นั้น สามารถถ่ายวิดีโอด้วยความคมชัดระดับ 8K มี Super Steady ที่ป้องกันการสั่นให้ รวมถึงการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวด้วย AI จึงทำให้ภาพวิดีโอที่มีการเคลื่อนไหวสูงดูนิ่งและนุ่มนวลเสมือนถ่ายโดยใช้อุปกรณ์กันสั่น Gimbal เลยละ ถัดมาคือ Single Take โหมดถ่ายภาพที่ผู้เขียนว่าเมื่อผู้ใช้งานได้ลองเล่นกันจริง ๆ จะชอบและหลงรัก โดยวิธีการทำงานนั้นจะเป็นการภาพถ่ายและวิดีโอพร้อมกันและประมวลผลออกมาเป็น ภาพกับวิดีโอที่หลากหลายมากสูงสุด 14 แบบ
แถมคราวนี้ S20 ยังมาพร้อมเซนเซอร์ตัวใหม่ ที่รับภาพขนาดใหญ่ที่ก็แน่นอนว่ารับแสงได้เยอะกว่าเดิม ทำให้ภาพคมชัด มีสีสันสดใสที่สวยงามขึ้นมาก ๆ และในรุ่น S20 Ultra 5G จะมีความสามารถในการสลับสับเปลี่ยนระหว่างโหมดความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล กับโหมด 12 ล้านพิกเซล ผ่านเทคโนโลยี Nona-binning ที่สามารถรวมพิกเซลเก้าเม็ดเป็นหนึ่งเดียวที่ระดับเซนเซอร์ จึงทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับภาพที่มีคุณภาพสูงขึ้นแม้ในสภาพแสงน้อยก็ตาม (แถมมีกิมมิกเล็ก ๆ ที่ผู้เขียนว่าเจ๋งดี คือถ้าเราซูม 100X ตัวอินเตอร์เฟซของกล้องจะแสดงจุดที่เราถ่ายบริเวณขวาบนเพื่อขิงเป็นนัย ๆ ว่าเหนือชั้นป่ะล่ะ ไกลจากที่ ๆ เรายืนตั้งเยอะ!)
รุ่นใหม่ทั้งที ก็ต้องหาอะไรใหม่ ๆ ยัดลงไปในเครื่องด้วยสิ! S20 นั้น มาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดที่เป็นลูกรักของทาง Samsung อย่าง Exynos 990 ที่ประสิทธิภาพการทำงานทุกอย่างดีขึ้น มีคอร์เพิ่มขึ้นมาเป็น 8 หน่อ โดยจะแยกการทำงานออกเป็น 2 คอร์ 2 ชุด และ 4 คอร์ อีก 1 ชุด โดยกราฟิกการ์ดภายในจะใช้เป็น Mali G77 ที่ติดตั้ง NPU 2 ตัวเข้าไป ทำสามารถรองรับหน้าจอแบบ 120Hz พร้อมกับ RAM แบบ LDDR5 รุ่นล่าสุดได้ แถมยังรองรับ 5G ความเร็วสูงสุด 5.1 Gbps หรือ 8 CA จากชิปโมเด็ม Exynos 5123 ได้อีกด้วย
Samsung Galaxy S20 ซีรีส์สนนราคาตามรุ่น ดังนี้ S20 ราคา 28,990 บาท, S20+ ราคา 31,900 บาท และ S20 Ultra 5G ราคา 39,990 บาท โดยหากพรีออเดอร์รุ่น S20+ และ S20 Ultra 5G ตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคม ฟรี Galaxy Buds+ (มูลค่า 4,990 บาท)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส