เนื่องจากทุกภาคส่วนถูก Disrupt ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ส่งผลให้หลายองค์กรต่างทำการ Digital Transformation อย่างรวดเร็ว ด้วยการปรับเอาเทคโนโลยีมาใช้กับธุรกิจ เช่น ระบบ AI, 5G, Cloud เพื่อให้ตามทันกับการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ และหนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็คือ ระบบ Cloud (คลาวด์) แต่รู้หรือไม่ว่ามันมี “กับดัก” ที่ซ่อนอยู่
วันนี้ทีมงานแบไต๋มีโอกาสได้คุยกับ NetApp ถึงเรื่องที่องค์กรต้องคิดให้ดีก่อนจะเปลี่ยนไปใช้ Cloud แบบเต็มตัว โดย นายวีระ อารีรัตนศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ NetApp กล่าวว่าปัจจัยหลักที่ทำให้หลายองค์กรเลือกเข้าไปใช้ Cloud อย่าง Microsoft Azure, Amazon Web Services, Google Cloud Platform เพราะมีสะดวกสบายเข้าถึงได้สะดวก มีความปลอดภัย และที่สำคัญที่สุดคือมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจัดหาระบบ Server มาใช้เอง
แต่ก็มีจุดที่หลายองค์กรลืมนึกถึงอยู่ นั่นก็คือ ช่วงที่จะต้องย้ายหรือยกข้อมูลออกจาก Cloud ซึ่งการเข้าไปไม่เสียค่าใช้จ่าย ต่างกับตอนที่จะยกข้อมูลออกมันจะมี ค่าใช้จ่าย Exit Cost ปกติค่าใช้จ่ายในการยกข้อมูลออกมาทั้งก้อน จะคำนวนจามจำนวนข้อมูลที่มี มีน้อยจ่ายน้อย มีมากจ่ายมาก ซึ่งบางองค์กรฝากข้อมูลไว้เยอะเกินจนไม่คุ้มที่จะถอนออกมาทำให้ต้องใช้ต่อไปแบบไม่มีทางเลือก จุดนี้เองคือกับดักของ Cloud ที่กำลังพูดถึง
โดย NetApp ได้เผยกับทาง beartai ว่ามีปัญหาเรื่องกับดักนี้ ทาง NetApp บริการที่ช่วยจัดการกับระบบ Cloud ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถโยกย้ายข้อมูลได้อย่างอิสระ เช่นระบบ Multi Hybrid Cloud ที่เป็นการผสมผสานระหว่าง Private Cloud ที่ใช้เฉพาะในองค์กร และ Public Cloud ใหญ่ 3 เจ้า อย่าง Microsoft Azure, Amazon Web Services, Google Cloud Platform เพื่อเพิ่มความยื่นหยุ่นในการใช้ ร่วมกับระบบ Data Fabric ที่ช่วยให้การจัดการระบบ Cloud ได้อย่างลื่นไหล สลับข้อมูลไปมาระหว่างเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างสะดวกสบาย
นอกจากนี้ คุณวีระ ยังอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังจะมาถึงว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามา Disputation แทบทุกธุรกิจ โดยเฉพาะด้านการเงินการธนาคาร ที่เกิดเป็นบริการ i-Banking และ m-Banking แน่นอนว่าทุกธุรกิจมีการขยับปรับเอาเทคโนโลยีมาใช้กับธุรกิจ จากธุรกิจเล็กๆ สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด แต่สำหรับธุรกิจที่ไม่ปรับตัวหรือปรับตัวไม่ทันก็จะถูกกลืนกิน และไม่สามารถแข่งขันได้ในตลาด
และด้านการเก็บข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ายังต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA (Personal Data Protection Act) ฉะนั้นการเก็บจึงต้องขออนุญาตเสียก่อน และต้องเก็บข้อมูลให้ปลอดภัย ถ้าเกิดข้อมูลหลุดออกไป อาจทำให้เกิดปัญหาหนักตามมาภายหลังถึงขั้นเกิดคดีความได้ ปกติแล้วข้อมูลที่ถูกเก็บเป็น Data ไว้ในระบบจะง่ายต่อการตรวจสอบ แต่ถ้าข้อมูลถูกเก็บไว้ในไฟล์ Excel, Word จะเป็นจุดที่ตรวจสอบไม่ทั่วถึง โดยทาง NetApp ก็มีบริการที่มาช่วยในจุดนี่ก็คือ Cloud Compliance ที่มาพร้อมกับระบบ AI คอยตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลในระบบพร้อมกับบอกถึงความเสี่ยงในแต่ละจุด ทั้งข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ หรือข้อมูลที่อยู่ในไฟล์อีกด้วย
สุดท้ายคุณวีระ เสริมข้อมูลให้กับทางแบไต๋ว่า NetApp ไม่ได้โฟกัสว่าจะเป็น Cloud Provider หรือผู้ให้บริการ Cloud แต่จะเป็นผู้ให้บริการที่เชื่อมโยงเข้ากับ Cloud ได้อย่าง เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นที่สุดครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส