ก็คงจะต้องบอกว่าสมาร์ตโฟนสมัยนี้มีการแข่งขันด้านสเปกที่โหดขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เกรงใจ COVID-19 กันเลยทีเดียว ซึ่งล่าสุดนี้ก็เป็นคราวของ OPPO Reno 3 Pro สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดที่พรีเซนต์ความเทพด้วยกล้องหน้าความละเอียดระดับ 44 ล้านพิกเซล ไม่พอ กล้องหลังยังให้มาอีก 4 เลนส์ และมีระบบชาร์จไวที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีก็ได้ 50% แต่เชื่อไหมว่าทั้งหมดนี้ราคาค่าตัวยังไม่ถึงสองหมื่นเลย!
สเปกที่น่าสนใจของ OPPO Reno 3 Pro
- หน้าจอ: 6.4 นิ้ว Full HD+ แบบ Super AMOLED อัตราส่วน 20:9 และมีการแสดงหน้าจออยู่ที่ 91.5%
- กล้องหลัก: 4 ตัว ได้แก่
- กล้อง 64 ล้านพิกเซล F/1.8
- เลนส์อัลตราไวด์ 8 ล้านพิกเซล F/1.4 องศารับภาพ 119.9 ํ
- เลนส์เทเลโฟโต้ 13 ล้านพิกเซล F/2.4
- เลนส์โมโน (วัดระยะ) 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า: กล้องหน้าคู่ เลนส์หลักความละเอียด 44 ล้านพิกเซล อีกตัวเป็นเลนส์วัดระยะความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- ชิปประมวลผล: MediaTek P95
- RAM/ROM: 8GB/256GB ใส่ microSD เพิ่มได้สูงสุด 256GB
- พอร์ตเชื่อมต่อ: หูฟังแจ๊ค 3.5 มิลลิเมตร และ USB-C
- แบตเตอรี่: 4025 mAh ระบบชาร์จไว VOOC Flash Charge 3.0 กำลังไฟ 30W เต็ม 50% ใน 20 นาที!
- สี: น้ำเงิน Auroral Blue, ขาว Sky White White และดำ Midnight Black
- ความปลอดภัย: สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ใช้เวลาสแกน 0.34 วินาที
เรามาว่ากันด้วยเรื่องดีไซน์ก่อนและกันนะครับ แน่นอนว่าซีรีส์ Reno ย่อมไม่พ้นจุดเด่นในด้านการออกแบบที่ทันสมัย มีความเป็นแฟชัน โดยในรุ่นนี้มีการไล่สีสันและเกรเดี้ยนสีที่ให้ความรู้สึกเหมือนแสงเหนือ มีความบางอยู่ที่ 8.1 มิลลิเมตร มีน้ำหนักอยู่ที่ 175 กรัม ซึ่งก็จะให้ความรู้สึกสบายไม่ทำร้ายข้อมือ
ถัดมาคือเรื่องของหน้าจอกันบ้างครับ OPPO Reno 3 Pro มีสัดส่วนคอสทราสต์อยู่ที่ 2400000:1 แล้วตัวเลขนี้ให้ประโยชน์อะไรล่ะ? คำตอบคือจะทำให้มองเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ในภาพได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะกับภาพในวิดีโอหรือเกมที่มีฉากมืด ๆ, ได้มาตรฐาน DCI-P3 ก็จะส่งผลให้การเกลี่ยสีสวยงามใกล้เคียงของจริง, ผ่านมาตรฐาน TUVRheinland แสงจากหน้าจอตัดแสงสีฟ้าได้ดีช่วยถนอมสายตา, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ใช้เวลาสแกน 0.34 วินาที
ในส่วนของกล้อง OPPO Reno 3 Pro ยังเป็นเจ้าแรกของโลกที่ใช้กล้องหน้าคู่อีกด้วยโดยจะเป็นการผสมการทำงานระหว่างเลนส์หลัก 44 ล้านพิกเซลและเลนส์วัดระยะ 2 ล้านพิกเซล ซึ่งจะทำให้พื้นหลังของภาพที่ได้มีความลึกตื้นเป็นธรรมชาติมากขึ้น อีกทั้งยังกล้องหน้ายังสามารถใช้ถ่ายภาพกลางคืนได้อีกด้วยครับ
ถัดมาคือกล้องหลัก ที่มีด้วยกันทั้งสิ้น 4 ตัว ได้แก่ เลนส์ไวด์ ความละเอียด 64 ล้านพิกเซลที่ยังมีซอฟต์แวร์ในชื่อ Ultra Clear ช่วยปรับความละเอียดภาพให้ชัดขึ้นเป็น 108 ล้านพิกเซล ถัดมาคือเลนส์เทเลโฟโต้ที่มีความละเอียด 13 ล้าน สามารถถ่าภาพระยะไกลได้ที่ 5x ในแบบไฮบริด และ 20x ในแบบดิจิทัลซูม ส่วนเลส์อัลตราไวด์ที่มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซลก็ยังสามารถนำไปใช้ในการถ่ายภาพแบบมาโครได้อีกด้วย และไม่เพียงแต่ภาพนิ่ง แต่กลับวิดีโอก็ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นด้วยครับ สามารถที่จะถ่ายวิดีโอแบบ FullHD แบบ 60 เฟรมเรต มีระบบ Ultra Steady 2.0 ช่วยในการกันสั่นได้มากขึ้น อีกทั้งในรุ่นนี้ยังคงมี So Loop แอปเฉพาะของทาง OPPO ที่จะตัดตัดต่อวิดีโอพร้อมใช้งานได้เลย (ตัดต่อใส่เพลง ช่วงเวลาจากฟุตเทจให้อัตโนมัติ)
ความสามารถในการใช่งานของ OPPO Reno 3 Pro ก็น่าสนใจนะครับ ไล่ตั้งแต่การเก็บข้อมูลที่ตัวเครื่องรับรองช่องใส่การ์ด 3 ช่อง (ใส่คละกับซิมการ์ดได้) มีระบบชาร์จไว VOOC Charge 3.0 กำลังไฟ 30 วัตต์ ได้แบตเตอรี่ 50% ในระยะเวลาเพียง 20 นาที, Hyper Boost ประมวลผลให้การเล่นเกมกับแอปไวขึ้น เฟรมเรตไวขึ้นโดยเฉลี่ย 38% การทัชไวขึ้น 36% พร้อมมีการระบายความร้อนที่ดีขึ้นด้วย Multi Cooling System ฯลฯ
และไม่เพียงเท่านั้น OPPO ยังได้เปิดตัวหูฟังไร้สายในชื่อ Enco W31 โดยมีจุดเด่นคือหูฟังแต่ละข้างจะยิ่งสัญญาณบลูทูธคู่พร้อมกัน (จากปกติจะยิงจากหูซ้ายไปขวาก่อน) ก็จะส่งผลให้ความหน่วงหายไป, ตัดเสียงรบกวน มีไมค์คู่ เลือกตัดเสียงภายนอกตามความเหมาะสม โดยมาด้วยกันสองสี (ดำ ขาว) สนนราคาอยู่ที่ 1,999 บาท
OPPO Reno 3 Pro เปิดตัวด้วยราคา 18,990 บาท โดยจะเริ่มเปิดจองในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 – 7 พฤษภาคม 2563 ซึ่งผู้ที่สั่งจองจะได้รับของแถมมูลค่า 7,990 บาท ประกอบด้วย E-VIP Service ประกันหน้าจอแตกมูลค่า 6,000 บาท, กระเป๋า OPPO Backpack มูลค่า 1,490 บาท และส่วนลดพิเศษอีก 500 บาท
และหากสั่งซื้อผ่านโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ค่าย ก็จะได้รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุด 10,000 บาท (เมื่อสมัครแพ็กเกจที่กำหนด) รักค่ายไหนก็ลองไปตรวจสอบโปรโมชันกันดูนะครับ
แต่สำหรับ 100 ท่านแรกที่กดสั่งซื้อที่ OPPO Official Store ไม่ต้องจองและรอรับเครื่องอีกที สั่งวันนี้จัดส่งพรุ่งนี้ ได้ OPPO Reno3 Pro รุ่นใหม่ใช้ก่อนใคร พร้อมโปรโมชันพิเศษจัดเติม 3 ต่อ ได้แก่ OPPO E-VIP service ที่เป็นประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี มูลค่า 6,000 บาท, กระเป๋าสุดเท่ มูลค่า 1,490 บาท และพิเศษสุดๆ ต่อที่ 3 – หูฟังที่เพิ่งเปิดตัวสดๆใหม่ๆวันนี้ OPPO Enco W31 มูลค่า 1,999 บาท รวมมูลค่าทั้งหมด 9,489 บาท
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส