ในยุคที่ใคร ๆ ก็เป็นครีเอเตอร์ หรือผู้สร้างสรรค์ผลงานออกสู่สายตาผู้ชมออนไลน์ มีคอนเทนต์มากมายให้เลือกสรรและติดตามกัน แต่จะมีสักกี่คอนเทนต์ หรือนักสร้างสรรค์กี่ราย ที่จะมีเอกลักษณ์ทางด้านการนำเสนอเนื้อหา หรือรูปแบบรายการที่ไม่ซ้ำใคร และสามารถดึงดูดสายตาคุณผู้ชมหลายต่อหลายท่านได้ จนนำไปสู่การสร้างรายได้จากคอนเทนต์เหล่านั้น
แน่นอนว่า ‘น้าเน็ก’ หรือ เกตุเสพสวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา พิธีกรผู้มากความสามารถ ถือเป็นหนึ่งในครีเอเตอร์ผู้สร้างสรรค์เนื้อหาออนไลน์ที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก จากประสบการณ์ที่สะสมมานานจากการทำรายการบนหน้าจอทีวี ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังร่วม ๆ 30 ปี สู่วันที่น้าเน็กหันมาผลิตคอนเทนต์ต่าง ๆ ลงในช่องทางออนไลน์และมีผู้ชมเป็นจำนวนมาก ทั้งในแบบถ่ายทอดสด หรือจะอัดเทปแล้วผ่านการตัดต่อก็ตาม จากความสำเร็จที่ว่ามานี้ เฟซบุ๊ก ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียอันดับหนึ่งของโลก ในฐานะเจ้าของพื้นที่ที่เปิดกว้างให้เหล่าครีเอเตอร์ทั้งหลายได้ใช้พื้นที่ในการนำเสนอผลงาน ได้หยิบยกความสำเร็จจากการทำคอนเทนต์ออนไลน์ของน้าเน็ก มานำเสนอเพื่อเป็นกรณีศึกษาให้ได้เรียนรู้ไปด้วยกัน เพื่อการพัฒนาผลงานที่ดียิ่งขึ้น เข้าถึงผู้ชมได้มากกว่าเดิม และสร้างรายได้ให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง
จาก “ปากหมา หน้าตี๋ ชาติตระกูลดี ผมสี มีหนวด” ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่เห็นผ่านหน้าจอทีวีกันจนชินตามานาน สู่ภาพลักษณ์ใหม่ที่ “อบอุ่น สุขุม นุ่มลึก รวยอารมณ์ขัน” ภาพลักษณ์ของน้าเน็กในปัจจุบันนี้มีความน่าเชื่อถือ ดูอบอุ่น และเข้าถึงได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม และด้วยภาพลักษณ์ใหม่นี้เอง ทำให้คอนเทนต์ต่าง ๆ ที่น้าเน็กได้ผลิตลงบนเฟซบุ๊กเพจ Nanake555 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ถือเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์รายแรกบนเฟซบุ๊กที่มีผู้ติดตามชมมากเป็นหลักล้าน จากจำนวนผู้ที่ติดตามบนแฟนเพจมากกว่า 3 ล้านคน และรายการต่าง ๆ ที่เป็นรายการสดและออนแอร์บนเพจในแต่ละสัปดาห์ ใช้เวลาถ่ายทอดสดในแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง
โดยมีจุดมุ่งหมายหลักคือ…
“สร้างเนื้อหาสาระให้ชาวไทยทุกคนให้ทราบในเรื่องที่ควรทราบ และทุกเรื่องที่ไม่มีสอนในโรงเรียน”
ไม่ว่าจะเป็น กฎหมาย, เพศ, การเงินและการลงทุน นอกเหนือจากการสอนในเรื่องที่ควรรู้แล้ว ตัวของน้าเน็กเอง ยังเปรียบเสมือนสะพานที่เชื่อมคนทั้งสองช่วงวัยให้เข้าหากันง่ายขึ้น คือวัยรุ่นที่กำลังเติบโตและรับรู้โลกกว้างมากกว่าเดิม กับผู้ใหญ่หรือผู้ที่มีอายุ โดยใช้เฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือในการพูดคุยและติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกัน
เป้าหมายของน้าเน็ก
- สร้างเนื้อหาสาระ และส่งมอบให้แฟน ๆ ชาวไทยทุกคน
- เพิ่มจำนวนผู้ชมที่สามารถจับต้องได้จริง ๆ
- สร้างช่องทางการหารายได้และให้กำไรเติบโตด้วยการไลฟ์สตรีม (ถ่ายทอดสด) ลงในเฟซบุ๊ก
กลยุทธ์ในการทำคอนเทนต์ของน้าเน็ก
1. สร้างคอนเทนต์ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้
น้าเน็กได้แชร์วิธีการสร้างคอนเทนต์ว่า ในแต่ละวัน จะอัปโหลดคลิปวิดีโออย่างต่ำสุด 5 คลิป ทุกคอนเทนต์ที่นำเสนอบนเพจ Nanake555 เป็นคอนเทนต์ที่สร้างโดยตัวเขาเอง ด้วยเอกลักษณ์ที่สนุกสนาน รวยอารมณ์ขัน และมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งแสดงออกมาทุกครั้งผ่านทางหน้าจอ
น้าเน็กได้กล่าวถึงกลยุทธ์ในการสร้างคอนเทนต์ให้ประสบความสำเร็จว่า “มันไม่เกี่ยวกับเรื่องความโชคดี” ตัวของน้าเน็กมักใส่ใจและทุ่มทั้งใจของเขาในการสรรค์สร้างคอนเทนต์ขึ้นมา โดยมีจุดมุ่งหมายคือ “ช่วยให้คนไทยทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น” และถือว่ามาได้ถูกจังหวะ และถูกเวลาพอดี
นอกจากการโพสต์คลิปวิดีโอลงเพจต่ำสุด 5 คลิปต่อวันแล้วนั้น ยังจัดรายการสดผ่าน Facebook Live เป็นประจำ โดยจัดในทุก ๆ วันพฤหัสบดี ไปจนถึงวันเสาร์ ในแต่ละครั้งที่ถ่ายทอดสดนั้น จะใช้เวลามากสุดถึง 5 ชั่วโมง และเลือกช่วงเวลาที่แฟน ๆ ทุกคนสามารถตามติดและเชื่อมต่อกับน้าเน็กได้ ทั้งยังเปิดช่องทางการสื่อสารให้สามารถส่งคำถามต่าง ๆ มายังรายการ เพื่อให้น้าเน็กอ่านและตอบออกอากาศในช่วงเวลานั้น ๆ
2. จับผู้เชี่ยวชาญมาเป็นพาร์ตเนอร์เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น้าเน็กได้เลือกใช้ คือ การร่วมมือ (Collaboration) โดยร่วมกับผู้ที่คร่ำหวอด หรือผู้ที่เชี่ยวชาญในเรื่องต่าง ๆ เชิญมาร่วมรายการและสร้างเนื้อหาด้วยกัน น้าเน็กได้กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ตัวของน้าเน็กได้โฟกัสในการสร้างเนื้อหาบันเทิงที่สอดแทรกความรู้แก่คุณผู้ชม และสอนคุณผู้ชมให้มีทักษะการใช้ชีวิต โดยผ่านการทำ Live Session บน Facebook ซึ่งถือเป็นพื้นที่หนึ่งที่เปิดให้แฟน ๆ หรือคุณผู้ชมสามารถส่งข้อความ หรือส่งคำถามมาถามกันได้ ตัวของน้าเน็กจะร่วมจัดรายการสดร่วมกับผู้ที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เช่น ด้านกฎหมาย, การเงินการลงทุน, ภาษาอังกฤษ, เพศและชีวิตคู่ และให้คำแนะนำในด้านทักษะการใช้ชีวิต
“ถ้าเพจเปรียบเสมือนโรงเรียน ตัวเขาเองก็เป็นครูใหญ่ประจำโรงเรียน”
นอกจากเปรียบตัวน้าเน็กเป็นเหมือนครูใหญ่ในโรงเรียนแล้ว ยังเปรียบเทียบตัวเองว่าเป็นคุณครูประจำคาบวิชาแนะแนวอีกด้วย ส่วนผู้เชี่ยวชาญท่านอื่น ๆ ที่เชิญมาร่วมรายการ เปรียบเสมือนคุณครูประจำวิชาต่าง ๆ มาสอนในวิชาที่เขาถนัด
ภารกิจในการสร้างเนื้อหาบันเทิงสอดแทรกความรู้ของน้าเน็กนั้นถือว่าสร้างกำไรขึ้นมาได้เป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว น้าเน็กได้กล่าวว่า “พวกเราทีมงานทุกคนรู้สึกโคตรโชคดี” ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 (นับตั้งแต่เมื่อช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา) ธุรกิจของเรามีการเติบโต ตัวของน้าเน็กคิดว่า เพราะคอนเทนต์ที่ได้ผลิตออกมา มีส่วนในการช่วยเหลือผู้คนทั่วไปที่กำลังประสบปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต ยิ่งมีความยากลำบากมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีจำนวนของผู้ชมที่ต้องการเข้ามาที่เพจนี้เป็นจำนวนมาก เพื่อหาหนทางในการแก้ปัญหาให้กับตนเอง บางรายอาจจะหาคำแนะนำทางด้านกฎหมาย บางรายอาจจะหาคำแนะนำทางด้านการเงินการลงทุน และเมื่อมีผู้คนเข้ามาเป็นจำนวนมากแล้ว ทั้งการลงโฆษณา และผู้สนับสนุนหลายต่อหลายรายต่างก็ตบเท้ากันเข้ามาที่เพจ ๆ นี้
3. ทดลองใช้เครื่องมือใหม่ ๆ ในการสร้างรายได้
ตัวของน้าเน็กนั้นถือได้ว่าเป็นตัวพ่อทางด้าน Early Adopter กับเครื่องมือต่าง ๆ ที่เฟซบุ๊กได้พัฒนาและปล่อยออกมาให้ได้ใช้งานกัน อย่างเครื่องมือในการสร้างรายได้ชิ้นล่าสุดของเฟซบุ๊ก อย่าง Stars หรือการส่งดาว น้าเน็กย่อมไม่พลาดที่จะทดลองใช้งานก่อนใคร
น้าเน็กได้แชร์ประสบการณ์ของการส่งดาว (Stars) ว่า ตัวของน้าเน็กเองจะบอกกับแฟน ๆ ของเขาอยู่เสมอว่า “อย่าส่งดาวมานะ!” แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ก็มีแฟน ๆ ส่งดาวกันเข้ามาอย่างเนืองแน่น เสมือนว่าการส่งดาวกันเป็นว่าเล่นนี้ ถือเป็นการแสดงความรักความชอบแก่น้าเน็กในอีกรูปแบบหนึ่ง จนถึงขั้นที่ว่าน้าเน็กต้องตอบแทนแฟน ๆ ที่ส่งดาวเข้ามา ด้วยการเชิญให้พวกเขาเหล่านั้นมาสัมผัสประสบการณ์พิเศษ กับกิจกรรมแฟนมีตที่จัดขึ้นมา เพื่อพบปะและได้สัมผัสกับน้าเน็กแบบตัวเป็น ๆ แต่ถึงกระนั้น น้าเน็กยังตระหนักอยู่เสมอว่า…
“ต้องสร้างคอนเทนต์ให้กับทุก ๆ คน ไม่ใช่สร้างคอนเทนต์ขึ้นมาให้เฉพาะกับคนที่ส่งดาวให้กับเราอย่างเดียว”
ไม่ใช่แค่การสร้างคอนเทนต์ขึ้นมา และให้คอนเทนต์เป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อสร้างรายได้ น้าเน็กยังได้เลือกใช้เครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ของเฟซบุ๊ก อย่าง Chatbot Commerce และ Facebook Payment มาใช้กับการไลฟ์ขายของในช่วงเทศกาล 11.11 กับ “อย่าหาว่าน้าขาย” ซึ่งเป็นการไลฟ์ขายของรักของส่วนตัวของน้าเน็ก เพื่อนำรายได้จากการขาย บริจาคสมทบมูลนิธิก้าวคนละก้าว
แน่นอนว่าเฟซบุ๊กในยุคปัจจุบันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการซื้อขายสินค้า และจากการขายในครั้งนั้นเอง ทำให้น้าเน็กมีรายได้มากขึ้นกว่าเดิม 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการขายในรูปแบบปกติ
4. คิดอะไรได้ ไปที่เฟซบุ๊กเป็นอันดับแรก
น้าเน็กได้อธิบายว่า เฟซบุ๊กเปรียบเสมือนช่องทางขั้นพื้นฐานในการสร้างแหล่งรวมผู้คน (Community) จุดมุ่งหมายของตัวเขาเองนั้นก็คือการสร้างแหล่งรวมผู้คน และเหตุผลนี้แหละ จึงเป็นที่มาว่าทำไมตัวเขาเองถึงเลือกเฟซบุ๊กในการนำเสนอคอนเทนต์ต่าง ๆ เป็นช่องทางแรก
สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวอย่างของความสำเร็จที่เห็นภาพได้อย่างชัดเจน คือการไลฟ์รายการเกมโชว์ออนไลน์รายการแรกบนเพจ Nanake555 “โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” ซึ่งเป็นเกมโชว์ที่โฟกัสไปยังกลุ่มผู้ชมบนเฟซบุ๊กเพียงอย่างเดียว นอกเหนือจากความสนุกที่เกิดขึ้นผ่าน Facebook Live แล้วนั้น ยังมีการใช้เครื่องมือ Facebook Messenger และ Facebook Polls มาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินเกม และสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมและรายการ
โดยการใช้งานทั้งสองเครื่องมือที่ว่ามากับเกมโชว์ “โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” นั้น เริ่มต้นจากการใช้ Chatbot กรองผู้ชมที่คอมเมนต์คำว่า “โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” ซึ่งคำดังกล่าวนี้ได้ใช้เพื่อเป็นการลงทะเบียนร่วมเล่นเกมและคอมเมนต์ได้เพียงครั้งเดียวต่อหนึ่งตัวบุคคล Chatbot จะระบุตัว และส่งข้อความคำเชิญผ่านทาง Facebook Messenger และในระหว่างการแข่งขัน ผู้ชมที่ลงทะเบียนเล่นเกมแล้วจะต้องตอบคำถามผ่านทาง Facebook Polls โดยแข่งกับแขกรับเชิญในรายการสด ถ้าแขกรับเชิญตอบถูก แขกรับเชิญจะได้เงินรางวัลสะสมตามแผ่นป้ายที่ได้เลือกไว้ แต่ถ้าตอบผิด เงินรางวัลสะสมจากแผ่นป้ายที่เลือก จะตกเป็นของผู้ที่ชมผ่านทาง Facebook Live และจะมีผู้เล่นเพียงไม่กี่ท่านเท่านั้นที่ได้รับเงินรางวัลจากทางรายการในช่วงท้ายของรายการ ผ่านการสุ่มรายชื่อผู้โชคดีจากผู้เล่นที่ไม่ตอบผิดเลยแม้แต่ข้อเดียว ตั้งแต่ข้อแรกจนถึงข้อสุดท้าย
ซึ่งในครั้งแรกของการไลฟ์ “โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” สามารถทำเงินรางวัลให้กับผู้ชมออนไลน์ไปมากถึง 34,000 บาท และมีผู้ชมที่ร่วมเล่นเกมผ่านทางเฟซบุ๊กเพจเพียง 34 ท่านเท่านั้นที่ได้รับเงินรางวัลไป เฉลี่ยท่านละ 1,000 บาท
ผลลัพธ์จากกลยุทธ์ที่ว่ามาทั้งหมดนี้
- ในช่วงเดือนมกราคม 2563 ถึงเดือนธันวาคม 2563 มีการนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบคลิปวิดีโอมากกว่า 1,200 คลิป และมีจำนวนผู้เข้าชมรวมกันมากกว่า 492 ล้านราย
- ในช่วงเดือนมกราคม 2563 ถึงเดือนธันวาคม 2563 มีผู้ติดตามหน้าใหม่มากกว่า 900,000 ราย (ผลสำรวจดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจาก CrowdTangle)
- มีการสร้างรายได้บนเฟซบุ๊กด้วยหลากหลายวิธี ทั้งโฆษณาที่แทรกขึ้นมาระหว่างรับชมคลิปวิดีโอ (Instream Ads), การสร้างเนื้อหาร่วมกับแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ (Branded Content) และการส่งดาว (Stars) ซึ่งจากหลากหลายวิธีที่กล่าวมา ทำให้เพจ Nanake555 สามารถสร้างกำไรเพิ่มมากขึ้นถึง 62 เปอร์เซ็นต์ โดยเปรียบเทียบกับช่วงเวลาตลอดทั้งปี 2562
ถือเป็นกรณีศึกษาที่ควรศึกษาให้เข้าใจและนำมาปรับใช้กับคอนเทนต์ของผู้สร้างสรรค์ผลงานในแต่ละรูปแบบเนื้อหาและการนำเสนอ พร้อมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ที่ทางเฟซบุ๊กได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มศักยภาพและการเข้าถึงของเพจ รวมไปถึงการสร้างการเชื่อมต่อของผู้ติดตาม และการทำมาค้าขายอีกด้วย ทั้งนี้ นอกเหนือจากกรณีศึกษาของน้าเน็กและเพจ Nanake555 แล้วนั้น ยังสามารถศึกษาความสำเร็จจากผู้สร้างสรรค์ผลงานท่านอื่น ๆ รวมไปถึงสามารถอ่านเคล็ดลับและวิธีการใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ ให้เข้าใจมากกว่าเดิม เพื่อการเลือกใช้งานที่เหมาะสมกับชิ้นงานของตนเอง สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บไซต์ Facebook for Media
ที่มา: Facebook for Media
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส