ดีแทคลั่นทุ่มงบขยายโครงข่ายและการตลาด ตั้งเป้าขยายส่วนแบ่งการตลาดหวังยอดลูกค้าเพิ่ม ตั้งเป้าเพิ่มผู้ใช้งาน 4G เพิ่มเป็น 4.5 ล้านรายภายในสิ้นปีหน้า พร้อมเอาใจลูกค้าช่วงปีใหม่ส่งแคมเปญ “ฉลองความสุขข้ามปีจัดเต็ม 9 วัน” จัดเต็ม 25 ธ.ค. 58-2 ม.ค. 59
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า “ดีแทค ไตรเน็ต ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการประมูลคลื่น 900 MHz แต่การไม่ได้คลื่นจากการประมูลครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผนงานและเป้าหมายทางธุรกิจของดีแทคในการเป็นผู้นำการให้บริการ4G และ 3G เพื่อรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแต่อย่างใด ปัจจุบัน ดีแทคยังถือครองคลื่นความถี่เพื่อให้บริการทั้ง 2G, 3G และ 4G อยู่มากถึง 35-40%ของภาพรวมคลื่นความถี่ทั้งหมดที่นำออกมาให้บริการโดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมเอกชนอีกทั้งดีแทคยังเป็นบริษัทฯ ที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และจะยิ่งรุกลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยดีแทคจะยังเร่งขยายโครงข่ายการให้บริการ 4G อยู่บนคลื่นความถี่ 1800MHz บนแบนด์วิธที่กว้างถึง 15 MHz และ 4G บนคลื่นความถี่ 2100 MHz ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และอีกมากกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจะขยายเพิ่มโครงข่าย 4G บนคลื่น 1800 MHz ในพื้นที่ต่างจังหวัดอีก 2,200 สถานีให้แล้วเสร็จภายในช่วงแรกของต้นปีหน้า และจะขยายเพิ่มพื้นที่การให้บริการ 4G บนคลื่น 2100 MHz ให้ครอบคลุมทั่วทุกจังหวัดทั่วประเทศภายในครึ่งแรกของปีหน้า เป้าหมายของดีแทคคือการสร้างความประทับใจสูงสุดให้กับผู้ใช้ 4G ให้ได้ประสบการณ์ในการใช้งานจริง และเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ 4G ของดีแทคสามารถให้บริการที่ความเร็วสูงมากกว่า 100 Mbps บนโทรศัพท์มือถือ”
นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์กรุ๊ป เปิดเผยว่า “เทเลนอร์กรุ๊ปยึดต่อคำมั่นและสานต่อในการพัฒนาการสื่อสารดิจิทัลของประเทศไทย พร้อมทั้งดำเนินการลงทุนอย่างต่อเนื่องสำหรับการยกระดับบริการโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล ขณะนี้ดีแทคมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในตลาดและศักยภาพในการนำคลื่นความถี่ที่มีอยู่มาแข่งขันในการให้บริการ 4G อย่างต่อเนื่องในอีกหลายปี เราขอส่งเสริมภาครัฐในการบรรจุแผนบริหารคลื่นความถี่หรือโรดแมป เพื่อนำคลื่นความถี่มาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการบรรจุแผนประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz, 850 MHz, 700 MHz และ 2600 MHz อย่างช้ดเจน”
ทั้งนี้ ดีแทคตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการ 4G เป็น 4.5 ล้านรายในปี 2559 จากจำนวนผู้ใช้บริการ 2.2 ล้านรายในขณะนี้ โดยเตรียมแผนการตลาดเชิงรุกเพื่อกระตุ้นตลาดผู้บริโภคให้เปลี่ยนผ่านสู่การใช้งานในระบบ 4G และ 3G ทั้งตลาด โดยดีแทคคาดว่าจะมีลูกค้าใช้งานอินเทอร์เน็ตถึง 80% ของทั้งเครือข่ายดีแทค นอกจากบทบาทในฐานะผู้ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ต ในปีหน้าและในอนาคตอันใกล้ ดีแทคจะมุ่งกลยุทธ์ไปที่เรื่องการสร้างอุตสาหกรรมธุรกิจอินเทอร์เน็ตให้เติบโตอย่างหลากหลายและยั่งยืน
จากการประมูลในครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า คลื่นความถี่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าและสามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับภาครัฐที่ควรนำมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อพัฒนาส่งเสริมระบบเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น ภาครัฐควรต้องจัดทำแผนการจัดสรรคลื่นความถี่ย่านต่าง ๆ หรือ Spectrum Roadmap ที่ชัดเจนมีกำหนดเวลาที่แน่นอน โปร่งใส ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนในระยะยาวทั้งการลงทุน การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้บริการแก่ผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลดีกลับมาสู่การพัฒนาประเทศอย่างชัดเจน
นายลาร์ส กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปี 2559 เป็นปีที่เราจะเห็นอัตราเร่งของการเจริญเติบโต 4G ทั้งจำนวนของผู้ใช้บริการ โทรศัพท์มือถือที่รองรับ 4G ปัจจุบันถือครองสัดส่วนมากกว่า 50% ของสมาร์ทโฟนทั้งตลาด และจะเริ่มมีการทำตลาดของโทรศัพท์มือถือเฮ้าส์แบรนด์เพื่อรองรับ 4G อย่างจริงจังและกำหนดราคาเริ่มต้นที่ต่ำลงไปได้ถึง 2,000 – 2,500 บาท รวมทั้ง อุตสาหกรรมที่ผลิตหรือใช้คอนเทนต์จะคึกคักมากยิ่งขึ้น ซึ่งดีแทคไม่ได้มองบทบาทขององค์กรว่าเป็นเพียงแค่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังทุ่มเททรัพยากรและปรับกลยุทธเพื่อเสริมสร้างศักยภาพและผลักดันการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต (Digital Ecosystems) ในวงกว้าง อาทิ การเปิดตัวการให้บริการการเงินบนมือถือใหม่เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐที่ต้องการให้ประเทศไทยกลายเป็นcashless society หรือแม้กระทั่ง การ ที่ดีแทคทุ่มเงินลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี ในการสร้างและสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต (Tech Start-up) หน้าใหม่ๆ ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก และสามารถหาเงินลงทุนให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในวัยทำงานเริ่มต้นแล้วมากกว่า 500 ล้านบาทภายใน 3 ปีที่ผ่านมา ในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ดีแทคจะเปิดตัว HANGAR ซึ่งเป็น Co-Working Space ครบวงจร ซึ่งได้รับการออกแบบตามเอกลักษณ์ของแบรนด์ดีแทค เพื่อเป็นพื้นที่แห่งโอกาสสำหรับ Start-up คนไทยที่มีความสามารถให้ได้ใช้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ความฝันที่ยิ่งใหญ่กลายเป็นธุรกิจแห่งอนาคต ตามแนวคิดของHANGAR ที่ว่า บ้านหลังเล็กของคนที่มีฝันใหญ่”