จบปี 2021 แล้ว beartai คิดว่า Gadget อะไรที่เจ๋งที่สุดในปีนี้บ้าง เราคัดมาให้ทั้งสมาร์ตโฟน, กล้อง, สมาร์ตทีวี, โน้ตบุ๊ก, หูฟัง และนาฬิกาให้ดูกัน มาดูกันว่าตรงใจขนาดไหนและนี่คือ Beartai Gadget of The Year 2021 ครับ

Beartai Gadget of The Year เน้นที่ผลิตภัณฑ์ที่ทีมงานแบไต๋ได้สัมผัสและใช้งานจริง เพราะฉะนั้นบาง Gadget ที่เค้าว่าดี แต่เราไม่ได้ลองใช้งานจริง ๆ เราก็นำมารวมในรายการนี้ไม่ได้นะครับ

สมาร์ตโฟนแห่งปี 2021

Samsung Galaxy Z Flip3

แม้ว่าซัมซุงจะจำหน่ายสมาร์ตโฟนจอพับได้มาหลายปีแล้ว แต่ Samsung Galaxy Z Flip3 ถือเป็นรุ่นที่สามารถดึงดูดผู้ใช้ทั่วไปให้สนใจสมาร์ตโฟนจอพับได้สำเร็จ ด้วยการปรับปรุงรายละเอียดการใช้งานจนสมบูรณ์ครับ

ทั้งการขยายขนาดหน้าจอด้านนอกให้สามารถใช้งานได้หลากหลายขึ้น ใช้เป็นหน้าจอสำหรับการถ่ายเซลฟีด้วยกล้องหลังก็ได้ นอกจากนี้ยังปรับปรุงตัวเครื่องโดยรวมให้สามารถกันน้ำได้ ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องให้ดีขึ้น ที่สำคัญคือปรับราคาเริ่มต้นใหม่ เหลือไม่ถึง 35,000 บาท ทำให้ผู้ใช้ชาวไทยสามารถเข้าถึงสมาร์ตโฟนพับได้รุ่นนี้ได้ง่ายขึ้น

เราจึงยกให้ Samsung Galaxy Z Flip3 เป็นสมาร์ตโฟนแห่งปี 2021 จากแบไต๋

ดูรีวิว Samsung Galaxy Z Fold3 และ Z Filp3

สมาร์ตโฟนที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง

แบรนด์ Infinix

พูดถึงแบรนด์หลายคนอาจจะไม่คุ้นหู กับ Infinix แบรนด์สมาร์ตโฟนจากจีนที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งช่วงหลังหลังเริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยแล้ว โดยในปี 2021 นี้แบไต๋ได้รีวิวสมาร์ตโฟน Infinix ถึง 4 รุ่นคือ

Infinix Hot 10S, Note 10 Pro, Hot 11S, Note 11S ด้วยจุดเด่นคือราคาเฉลี่ยของแต่ละรุ่นอยู่ที่ประมาณ 5,000 – 6,000 บาท แต่สามารถสร้างประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างเกินตัว เช่นจอลื่น 90 Hz, จอใหญ่ FHD+ แถมกล้องระดับ 50 ล้าน ซึ่งนอกจากสเปกที่เป็นตัวเลขชวนประทับใจแล้ว การใช้งานจริงก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะงานประกอบแม้จะเป็นพลาสติก แต่ก็ทำได้แน่นหนา มั่นคง จับแล้วมั่นใจ ไม่ก๊องแก๊ง โดยเฉพาะการเล่นเกม ถ้าเป็น MOBA ทั่วไปรับรองเอาอยู่สบาย ๆ หรือจะเป็นเกมกินสเปกชื่อดังอย่าง Genshin Impact ก็สามารถเล่นได้ เพียงแต่ถ้าต้องการความลื่นไหล เราอาจจะต้องตั้งค่ากราฟิกในระดับต่ำสักหน่อย

จากความสามารถทั้งหมดนี้ทำให้กองบรรณาธิการแบไต๋เลือกให้ สมาร์ตโฟนจาก Infinix เป็นสมาร์ตโฟนที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงแห่งปีครับ

ดูรีวิว Infinix Hot 10S, Infinix Note 10 Pro, Infinix Hot 11S, Infinix Note 11S

กล้องแห่งปี 2021

Sony a7 Mark IV

Sony a7IV กล้องฟูลเฟรมมิเรอร์เลสสาย hybrid ที่เหมาะทั้งงานภาพนิ่ง และวิดีโอ กับสเปกรวมถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ที่สมกับการรอคอยของเหล่าแฟน ๆ ค่ายหมี

ทั้งอัปเกรดเซนเซอร์ฟูลเฟรมที่มีความละเอียดสูงขึ้น 33MP พร้อมกันสั่น 5 แกน มีวิดีโอ 4K 60p ระบบโฟกัสที่ยกอัลกอริทึมมาจากรุ่นพี่ a1 มี real-time Eye AF โฟกัสติดตามดวงตาได้ทั้ง คน, สัตว์ และนก รวมไปถึงใช้ในโหมดวิดีโอได้ ยิงรัวได้สูงสุด 10fps

มาพร้อมจอฟลิบพับข้าง และเมนูใหม่ที่เรียกร้องกันมานาน รวมไปถึงยังมีฟังก์ชันเด็ด ๆ อย่าง S-Cinetone, Focus Map, AF Assist แบบของ FX6, ระบบช่วยลด focus breathing ในงานวิดีโอ ถือว่าเป็นกล้อง hybrid ที่เปิดตัวมาครบเครื่องกว่าทุก ๆ ครั้งที่ Sony เคยทำมาเลยก็ว่าได้

นี่เลยเป็นเหตุผลที่เลือก Sony a7IV เป็นกล้องแห่งปีในครั้งนี้ครับ

กล้องที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง

Sony ZV-E10

Sony ZV-E10 กล้องมิเรอร์เลสสาย Vlog ซีรีส์ ZV ที่พัฒนาต่อยอดมาจากกล้อง compact Sony ZV-1 ยอดฮิต กับเซนเซอร์ที่ขยับเป็นขนาด APS-C 24.2MP ตอยโจทย์ชาววิดีโอ และคอนเทนต์ได้ดีกว่าเดิม

ZV-E10 มีขนาดตัวเล็กเบา แถมใช้งานเลนส์ E-mount ของ Sony ได้ทั้งตระกูล มี Real-time tracking และ Eye AF ในโหมดวิดีโอ หน้าจอ LCD แบบฟลิบข้าง จะถ่ายมุมสูงมุมต่ำ Vlog หริอเซลฟีก็สะดวก พร้อมยกฟังก์ชันเด็ด ๆ จาก ZV-1 ทั้ง product showcase และ background defocus มาด้วย

วิดีโอบันทึกได้สูงสุด 4K/30p และ 1080/120P ในโหมด slow-motion มีโพรไฟล์สี S-Log2, 3 และ HLG เอามาเกรดสีวิดีโอสวย ๆ หรือโหมด Soft Skin Effect ถูกใจสาว ๆ ก็มีมาให้ ไมค์ในตัวกล้องก็ไม่ธรรมดารับเสียงคมชัดได้ 3 ทิศทาง หรือจะใช้ไมค์ผ่านพอร์ต 3.5 หรือผ่าน hotshoe แบบดิจิทัลก็สามารถทำได้ แถมยังรองรับการ livestreaming ได้ง่าย ๆ ด้วยสาย usb เส้นเดียวอีก

ทำให้เจ้า ZV-E10 เป็นกล้องรุ่นเริ่มต้นสำหรับการถ่ายภาพนิ่ง, วิดีโอหรือคอนเทนต์ที่คุ้มค่ามาก ๆ ตัวหนึ่ง ซึ่งตัวเดียวใช้ Work from Home หรือถ่าย Vlog นอกสถานที่ก็ได้ จึงเป็นกล้องที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงในปีนี้ครับ

ดูรีวิว Sony ZV-E10

สมาร์ตทีวีแห่งปี 2021

Samsung Neo QLED 8K QN900A

Samsung Neo QLED ถือเป็นการปรับปรุงหน้าจอ QLED ครั้งใหญ่ของซัมซุงนับตั้งแต่เปิดตัวจอประเภทนี้มาตั้งแต่ปี 2017

โดยทำให้หลอดไฟ LED ที่ให้แสงด้านหลังแผงหน้าจอเล็กลงเหลือแค่ 1/40 ของ QLED เดิม ทำให้หน้าจอสามารถแบ่งโซนความสว่างได้ละเอียดขึ้น จึงทำให้ Contrast ของภาพเห็นได้ทัดเทียมหน้าจอ OLED แต่ได้จุดเด่นของ QLED มาครบคือสีสันสดใสกว่า สว่างกว่าทำให้แสดงผล HDR ได้ดี และไม่มีปัญหาหน้าจอเบิร์น โดย Samsung Neo QLED 8K รุ่น QN900A ยังมีดีไซน์ที่ขอบหน้าจอบางมาก ทำให้เหมือนแสดงภาพลอยออกมากลางอากาศ โดยไม่รู้สึกว่าแสดงภาพอยู่ในกรอบ นอกจากนี้ยังมีลำโพงในตัว 6.2.2 Channel ที่ให้มิติเสียงตามภาพได้ดีอีกด้วย และยังมีการแยกพอร์ตเชื่อมต่อออกจากด้านหลังทีวีแล้วมาเสียบผ่านกล่อง One Connect Box แทน ทำให้เราสามารถติดตั้งทีวีรุ่นนี้เข้ากับผนังโดยตัดความรกของสายที่มองเห็นออกไปได้

Samsung Neo QLED 8K QN900A จึงเป็นสมาร์ตทีวีแห่งปี 2021 จากแบไต๋

ดูรีวิว Samsung Neo QLED 8K QN900A

สมาร์ตทีวีที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง

Mi TV P1

Mi TV P1 นั้นมีความน่าสนใจหลายอย่าง ตั้งแต่เปิดตัวมาราคาไม่ถึง 16,000 บาทสำหรับหน้าจอ 55 นิ้ว

พร้อมใช้ Android TV ที่รองรับแอปได้หลากหลายอย่าง Youtube, Netflix, iQiyi, Disney+ หรือ WeTV นอกจากนี้ยังรองรับ Dolby Vision อีกด้วย โดยรวมแล้วถือเป็นสมาร์ตทีวีที่ฟังก์ชันครบ ทำงานรวดเร็ว เครื่องไม่หน่วง ภาพสวย เสียงโอเค ในราคาไม่แพง

Mi TV P1 จึงเป็นสมาร์ตทีวีที่ควรค่าแก่การพูดถึงในปี 2021 จากแบไต๋

ดูรีวิว Mi TV P1

โน้ตบุ๊กแห่งปี 2021

Apple MacBook Pro 14/16 นิ้ว

Apple MacBook Pro 14 และ 16 นิ้วถือเป็น MacBook Pro ที่กลับมาฟังเสียงผู้ใช้อย่างแท้จริง สลัดภาพโน้ตบุ๊กระดับโปรเจ้าสำอางใช้งานยุ่งยาก Touchbar รกรุงรัง พอร์ตก็ไม่ครบออกไปได้

แถมยังกลับมาใช้หัวชาร์จแบบ MagSafe ที่ปลอดภัยต่อการใช้งานมากกว่า ที่สำคัญเลยคือชิป Apple M1 Pro และ M1 Max สุดแรงที่เป็นสมองของเครื่องรุ่นใหม่นี้ แรงในระดับที่ทั้งวงการคอมพิวเตอร์ยังต้องหันมามอง สามารถทำงานที่ MacBook Pro เดิมทั้งทำเสร็จช้า ทั้งเครื่องร้อน ให้จบลงได้อย่างรวดเร็ว และยังเก็บรายละเอียดอื่นๆ ให้การใช้งานสมบูรณ์ขึ้น เช่นเป็นโน้ตบุ๊กที่มีลำโพงดีมาก ไมค์ดีมาก กล้อง Webcam ดีมาก

จึงทำให้ MacBook Pro 14 และ 16 นิ้วได้รางวัลโน้ตบุ๊กแห่งปี 2021 นี้ไปครับ

โน๊ตบุ๊กที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง

Fujitsu UH-X

ส่วนรางวัลควรค่าแก่การพูดถึง ก็ตกเป็นของโน้ตบุ๊กสัญชาติปลาดิบ Fujitsu UH-X ที่พกน้ำหนักตัวมาเพียง 710 กรัม หรือหนักเท่ากับน้ำขวด 750 มล. เท่านั้น นี่เรามีโน้ตบุ๊กหน้าจอ 13.3 นิ้วที่เบาเท่ากับน้ำหนึ่งขวดแล้วหรอเนี่ย!!

ส่วนประสิทธิภาพก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลยใช้ทำงานทั่วไปในออฟฟิศได้สบาย ๆ โครงสร้างเครื่องก็ดูดีเพราะใช้วัสดุแมกนีเซียม ลีเธียม อัลลอย แถมประกอบในญี่ปุ่นทั้งหมดด้วย แม้แบตเตอรี่จะไม่ทนมากนักตามน้ำหนักของเครื่องก็เถอะ

Fujitsu UH-X เป็นโน้ตบุ๊กที่เบาที่สุดนับตั้งแต่ #beartai ได้รีวิวมาเลยครับ

ดูรีวิว Fujitsu UH-X

เกมมิงโน้ตบุ๊กแห่งปี 2021

Asus ROG Zephyrus S17 GX703

ถ้าพูดถึงโน้ตบุ๊กเกมมิง สิ่งที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือความแรง ฉะนั้นในปีนี้เกณฑ์การตัดสินว่ารุ่นไหนจะเป็นสุดยอดโน้ตบุ๊กแห่งปี 2021 จึงต้องมีเรื่องความแรงเป็นหลัก และโน้ตบุ๊กเกมมิงที่สามารถคว้ารางวัลนี้ไปได้ก็คือ ROG Zephyrus S17 GX703 ครับ

โน้ตบุ๊กรุ่นนี้มากับซีพียูตัวแรง Intel Core i9-11900H คู่กับการ์ดจอ RTX 3080 ที่ถือว่าเป็นคู่หูสุดโหดประจำปี 2021 เลย นอกจากนี้ก็ยังมีหน้าจอก็เป็น 4K 120Hz พร้อม Optical Mechanical Keyboard ที่หาได้ยากในโน้ตบุ๊กทั่ว ๆ ไป เรียกได้ว่ามาสุดแทบทุกส่วน นั่นรวมถึงราคาด้วย

ค่าตัวของรุ่นนี้คือ 129,990 บาท สุดแบบนี้จะหลุดจากตำแหน่งไปได้อย่างไร!

ดูรีวิว Asus ROG Zephyrus S17 GX703

เกมมิ่งโน้ตบุ๊กที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง

Lenovo Legion Slim 7

สำหรับโน้ตบุ๊กเกมมิงอีกรุ่นที่ชนะใจกองบรรณาธิการแบไต๋ได้ก็คือ Lenovo Legion Slim 7 ชื่อก็บอกถึงจุดเด่นแล้วว่าต้องมีความบางและเบา

ซึ่งน้ำหนักตัวก็ถือว่าไม่ได้เยอะเลย หนักเพียง 1.9 กก. สำหรับหน้าจอ 15.6 นิ้ว ด้านความบางก็อยู่ที่ 1.89 ซม. เมื่อลองเอาไปวางเทียบกับโน้ตบุ๊กเกมมิงทั่วไปก็ถือว่าบางกว่า แต่ถ้าเทียบกับโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไปที่ไม่ใช่ตัว Ultraslim อันนี้แทบไม่เห็นความต่างเลย เรียกว่า Slim สมชื่อ โดยข้อดีที่ได้จากความบางและเบานี้ก็คือจะสะดวกต่อการพกพา เวลาจะหยิบไปใช้ไม่ต้องคิดมากเรื่องน้ำหนักที่ต้องแบกเพิ่ม และในขณะเดียวกันด้านประสิทธิภาพก็ดูน่าใช้ จัดซีพียู AMD Ryzen 9 5900HX ตัวท็อปของค่ายแดง คู่มากับการ์ดจอ RTX 3060 และจอ 165Hz

เมื่อความแรงที่เกินพอรวมกับความเบากว่า Gaming Notebook ทั่วไป ทำให้ Lenovo Legion Slim 7 ควรค่าแก่การกล่าวถึงครับ

ดูรีวิว Lenovo Legion Slim 7

หูฟังแห่งปี 2021

Devialet Gemini

ท่ามกลางตลาดหูฟังแบบ True Wireless Stereo ที่แข่งขันกันดุเดือดในปัจจุบัน Devialet Gemini หูฟังรุ่นแรกจากแบรนด์เครื่องเสียงฝรั่งเศสสามารถยืนหนึ่งขึ้นมากลางสงครามนี้ได้

ด้วยการให้เสียงที่มีรายละเอียดชัดเจน หลับตาฟังยังจินตนาการท่าทางของนักดนตรีได้ชัดเจน ให้เสียงเบสลงลึก แรง impact เยอะ ฟังกันสนุก ๆ แถมระบบตัดเสียงรบกวนภายนอกหรือ ANC นั้นดีที่สุดเท่าที่เราเคยฟังหูฟังแบบ TWS มา ตัวหูฟังมีขนาดเล็ก ใส่ได้ไม่ยาก และยังได้ไมโครโฟนที่ดีพอสำหรับการใช้ทำงาน Work from Home ด้วย

ทำให้ Devialet Gemini เป็นหูฟังแห่งปี 2021 จากแบไต๋ไปครับ

ดูรีวิว Devialet Gemini

หูฟังที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง

OPPO Enco X

Enco X เป็นหูฟัง TWS รุ่นท็อปสุดของ OPPO ที่ร่วมงานกับ Dynaudio แบรนด์เครื่องเสียงจากเดนมาร์ก ทำให้ได้หูฟังที่เสียงมีเอกลักษณ์ แถมราคาปัจจุบันยังขายไม่แพงจนน่าหามาลอง

เสียงของ OPPO Enco X นั้นให้ย่านเบสที่หนักแน่นจนน่าประทับใจ แต่เสียงกลาง-แหลมก็ยังทำได้ดี เก็บรายละเอียดได้พอสมควร นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนภายนอกหรือ ANC ที่ดีที่ในระดับหนึ่ง และสามารถใช้หูฟังข้างไหนก็ได้เป็นไมโครโฟนสำหรับคุยสายได้ด้วย

เราจึงยกให้ OPPO Enco X เป็นหูฟังที่ควรค่าแก่การพูดถึงในปี 2021 จากแบไต๋ไปครับ

ดูรีวิว OPPO Enco X

สมาร์ตวอตช์แห่งปี 2021

HUAWEI Watch GT 3

HUAWEI Watch GT 3 คือสมาร์ตวอตช์ที่ไม่เพียงแต่ซัปพอร์ตการออกกำลังกาย แต่การกลับมาในครั้งนี้ยังเพิ่มบทบาทตัวเองเข้ามาอีกหนึ่งอย่างคือการเป็นผู้เฝ้าระวังสุขภาพได้ 24 ชั่วโมง

HUAWEI Watch GT 3 มาพร้อมอายุการใช้งานที่ยาวนานราว ๆ 12 -14 วัน ผ่านการแสดงผลบนหน้าจอ AMOLED โดยสิ่งที่สมาร์ตวอตช์รุ่นนี้เก่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือการที่เซนเซอร์ตัวใหม่ในชื่อ TruSeen 5.0+ ที่ทำให้สามารถวัดค่าสถานะร่างกายได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ยังไม่มีเจ้าไหนทำได้ คือการวัดค่าออกซิเจนในเลือดหรือ Sp02 ตลอดทั้งวัน นี่คือค่าที่จะช่วยให้เราเฝ้าระวังสุขภาพของตัวเองได้ในยุควิกฤตโควิดเช่นนี้ และการวัดคุณภาพการนอนเองก็เป็นอะไรที่น่าทึ่ง เพราะสมาร์ตโฟนหลายรุ่นมักที่จะต้องให้ผู้ใช้งานต้องตั้งค่าช่วงเวลาที่หลับและตื่นเพื่อไกด์ให้สมาร์ตวอตช์จับการนอนได้แม่นยำขึ้น แต่กลับ GT3 นั้นสามารถแทร็กการนอนได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ในพาร์ตของการออกกำลังกายเอง ฟีเจอร์ Route Back หรือ การแสดงเส้นทางการวิ่งออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้งานได้แบบออฟไลน์ ก็มีประโยชน์จริง ๆ ในกรณีที่เราเกิดหลงทางในเส้นทางการวิ่งที่ไม่คุ้นเคย โดยฟีเจอร์ทั้งหมดที่กล่าวมาได้อยู่บนสมาร์ตวอตช์ที่มีราคาไม่ถึงหมื่น

ซึ่งเมื่อประเมินจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างเข้าไว้ด้วยกัน HUAWEI Watch GT 3 จึงเหมาะสมกับรางวัลสมาร์ตวอตช์แห่งปีจากทางเราไป

ดูรีวิว HUAWEI Watch GT 3

สมาร์ตวอตช์ที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง

Samsung Galaxy Watch4 Series

ซัมซุงนั้นทำ Galaxy Watch ออกมาหลายรุ่น ซึ่งก็มีพัฒนาการอย่างน่าสนใจทุกปี ซึ่งรุ่นล่าสุดในปีนี้คือ Samsung Galaxy Watch4 Series

Samsung Galaxy Watch4 เป็น Smart Watch รุ่นแรกของซัมซุงที่ใช้ WearOS จาก Google ทำให้สามารถลงแอปได้หลากหลายขึ้น แถมยังเป็นนาฬิกาอัจฉริยะจากแบรนด์หลักรุ่นแรกที่สามารถวัด Body Composition เช่นมวลกล้ามเนื้อ มวลไขมันได้ภายในตัว ส่วนความสามารถแทร็กการใช้ชีวิต แทร็กการนอนก็ทำได้อย่างดีเหมือนเคย นอกจากนี้ในรุ่น Galaxy Watch4 Classic ยังมีดีไซน์เฉพาะตัวที่สามารถหมุนหน้าปัดเพื่อสั่งงานนาฬิกาได้ด้วย

ทั้งหมดนี้จึงทำให้ Samsung Galaxy Watch4 Series เป็นสมาร์ตวอตซ์ที่ควรค่าแก่การพูดถึงในปีนี้ครับ

ดูรีวิว Samsung Galaxy Watch4 Series

นวัตกรรมแห่งปี 2021

Intel Core Gen 12

หลังจากที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่นานหลายปี ในที่สุด Intel เจ้าของฉายาค่ายฟ้าในวงการซีพียู ก็สามารถ Comeback กลับมาเฉิดฉายอีกครั้งด้วยการเปิดตัวนวัตกรรม อย่าง Intel Core Generation 12 กับโค้ดเนม Alder Lake

Alder Lake มาพร้อมสถาปัตยกรรมใหม่แบบ Hybrid Core ที่แยกแกนประมวลผลออกเป็น 2 ไซซ์ เพื่อใช้งานในรูปแบบที่ต่างกัน โดย คอร์ใหญ่ (Performance Core) เอาไว้ประมวลผลกับงานที่หนัก ๆ อย่างการเล่นเกม ส่วน คอร์เล็ก (Efficiency Cores) เอาไว้ประมวลผลกับงานชิ้นเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ใช้ทรัพยากรมากนัก ยกตัวอย่างให้เห็นภาพที่สุด คือการเรียกรถส่งของ ถ้าเราจะส่งเตียงก็ควรเรียกรถกระบะ หรือ P-Core แต่ถ้าต้องการส่งข้าวแกงก็ต้องเรียกมอเตอร์ไซไป เราน่าจะเห็นภาพเดียวกัน ซึ่งการที่จะจัดว่าคำสั่งไหนควรไปที่คอร์อะไร ระบบจะเป็นตัวจัดการให้แบบอัตโนมัติ โดยการเลือกคอร์ที่เหมาะสมกับ ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ความแรงของ Gen 12 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนซีพียู Intel Core i5 Gen 12 สามารถทำผลทดสอบได้สูงกว่า Intel Core i9 Gen 11 ตัวท็อปของเจนเนอเรชันที่แล้ว รวมถึงแรงกว่า Ryzen 9 ของคู่แข่งตลอดกาลค่ายแดง AMD อีกด้วย ถือว่าเป็นการกลับมาเขย่าวงการซีพียูในรอบหลายปี และยังถือเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของแรม DDR5 อีกด้วย

หรือนี่เป็นการกลับมาทวงบัลลังก์ความเป็นหนึ่งในวงการซีพียู ของ Intel กันนะ?

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส