เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทาง Nokia ได้จัดงาน New Nokia ที่อัพเดทเทคโนโลยีอัพเดทใหม่ ๆ ซึ่งทางผู้บริหารโนเกียประเทศไทยก็ได้มาพูดถึงผลิตภัณฑ์ล่าสุดในยุคการให้บริการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงระดับ 100G ด้วยชิปเซ็ตรุ่นใหม่ที่โปรแกรมได้ง่ายและ ระบบเชื่อมโยงเครือข่ายออปติคเน็กซ์เจเนอร์เรชั่น (โดยทาง Nokia ได้เปลี่ยนชื่อจาก Nokia network เป็น Nokia เฉย ๆ แล้วหลังจากควบรวมกิจการกับทาง Acatel)
โนเกียเปิดตัวการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์แพลทฟอร์มสวิทชิ่ง 1830 Photonic Service Switch (PSS) สามารถเพิ่มศักยภาพการส่งผ่านข้อมูล ของออปติคอลไฟเบอร์ขึ้นอีกสี่เท่า จึงสามารถให้ความเร็วได้มากกว่า 70 เทราบิตต่อวินาที เพื่อรองรับกับปริมาณการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กลุ่มผลิตภัณฑ์ 1830 PSS นี้ใช้ชิปเทคโนโลยี Photonic Service Engine รุ่นที่ 2 (PSE-2) จากโนเกีย เบลล์แล็ปส์ สามารถขยายความจของความยาวคลื่นและความยาวคลื่นต่อไฟเบอร์ขึ้นได้ถึงสองเท่า โดยมีส่วนช่วยให้ผู้ให้บริการพร้อมให้บริการรับส่งข้อมูลที่ความเร็วระดับ 100G เพื่อตอบสนองตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันทาง Nokia ได้เปลี่ยนคอนเซ็ปต์จาก Connecting People เป็น Connecting Things and People เข้าหากัน โดยผลสำรวจจากทาง Nokia พบว่ามีการเติบโตทางด้านการใช้งานอินเทอร์เน็ตเยอะขึ้นกว่าปีก่อนถึง 73% ซึ่งทาง Nokia ก็ได้มีการคิดค้นทางด้าน Infrastructer ตั้งแต่ยุค 3G ไปจนกระทั่งยุค 5G ในอนาคตอันใกล้
ในปัจจุบันทาง Nokia ได้มีการให้บริการสาย Fiber Optics ไปแล้วว่า 100,000 สาย และมีการให้บริการอินเทอร์เน็ตแล้วกว่า 125 TB หรือกว่า 6 เท่าต่อวันเมื่อเทียบกับการใช้งาน YouTube ในประเทศไทย และมี Partner กว่า 20 ราย
Product ของ Nokia รุ่น 1830 PSS ได้ถูกวางจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 11,000 units ซึ่งปัจจุบันทาง Nokia ก็สามารถพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถส่งข้อมูลผ่านสาย Fiber Optics ได้เร็วถึง 500 Gbps และทาง Nokia ได้สำรวจความต้องการของลูกค้าออกมาเป็น 3 ข้อหลัก ๆ ดังนี้
- ต้องการความเร็วในการใช้งานที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
- ต้องการความเสถียรของการส่งข้อมูลสูง
- สามารถปรับเพิ่มลดได้ตามความต้องการ
ซึ่งทาง Nokia ก็มีอุปกรณ์ที่ออกมาเพื่อรองรับการใช้งานเหล่านี้คือ 1830PSS- นั่นเอง และในอนาคตทาง Nokia จะมีอุปกรณ์ที่มารองรับอินเทอร์เน็ตระดับ 1 Tbps หรือ 1,000 Gbps ออกมา รวมไปถึงทาง Nokia ก็ได้เล็งเห็นว่าทางประเทศไทยยังคงมีความต้องการใช้งานมือถือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าทาง Nokia จะมีมือถือรุ่นใหม่ ๆ (ที่ใช้เทคโนโลยีจากทาง Acatel) มาให้คุณเห็นอย่างแน่นอน
PSE-2 เป็นชิปเซ็ตที่ได้รวมคุณสมบัติการทำงานด้านอิเล็กทรอ-ออปติกไว้เรียบร้อย นับเป็นชิปเซ็ตที่มีการผสานการทำงานขั้นสูงที่สุดในโลก ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายมีความสามารถที่จะบริหารความสมดุลระหว่างความจุ และการครอบคลุมของช่วงคลื่น รวมถึวการใช้ประโยชน์จากไฟเบอร์ทุกๆ เส้น
ในเครือข่ายของตนให้ได้มากที่สุดได้อย่างชาญฉลาด ทั้งนี้โนเกียได้ออกแบบ PSE-2 ออกมาสองรุ่นคือ
PSE-2 Super Coherent (PSE-2s) มาพร้อมประสิทธิภาพสูงสุด และมีความยืดหยุ่นรองรับการใช้งาน ที่ต้องการการรับส่งข้อมูลจำนวนมาก และอาจมีประเด็นเรื่องระยะการใช้งานทางที่ห่างไกลเข้ามาเกี่ยวข้อง สามารถตั้งโปรแกรมการใช้งานได้เจ็ดรูปแบบไม่ซ้ำกัน เพื่อรองรับช่วงคลื่นส่วนทรานสปอร์ตตั้งแต่ความเร็ว 100G จนถึง 500G และตั้งระยะทางการใช้งานได้ตั้งแต่โครงข่ายในเมืองไปจนถึงระยะทางที่ไกลออกไปมาก เป็นการรับส่งข้อมูลแบบ Single carrier 400G รายแรกของโลก ให้ความเร็ว 200G สำหรับการใช้งานที่ Long Haul เป็นรายแรกของโลก และความเร็ว 100G สำหรับ Ultra-long haul รายแรกในโลกเช่นกัน นอกจากนี้ PSE-2s นี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายต่อบิตต่อกิโลเมตรโดยการขยายความจุสูงสุดในทุกระยะทาง ในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง 50 เปอร์เซ็นต์
PSE-2 Compact (PSE-2c) ออกแบบมาให้เหมาะกับแอพพลิเคชั่นการใช้งานแบบ 100G DWDM ซึ่งให้ความสำคัญเรื่องของการรองรับการส่งผ่านข้อมูลจำนวนมาก และการใช้พลังงานที่ต่ำ รวมถึงการใช้งานโครงข่ายในเมือง และกลุ่มเครือข่ายต่างๆ นอกจากนี้ PSE-2c ได้รับการออกแบบให้เป็นไลน์การ์ดที่มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้นโดยรองรับรูปแบบ “จ่ายเท่าที่ใช้งาน” ซึ่งเป็นออปติกที่ถอดเสียบได้ ในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง 66 เปอร์เซ็นต์