ในปีที่ผ่านมา ทีมงานป้องกันสินค้าลอกเลียนแบบของเอชพี (ACF) เดินหน้าให้ความช่วยเหลือลูกค้าจากการซื้อผลิตภัณฑ์เอชพีที่ถูกปลอมแปลงและมีคุณภาพต่ำ โดยทำการยึดสินค้าเป็นจำนวนกว่า 3.5 ล้านชิ้น ทั้งเครื่องพิมพ์ หมึกพิมพ์และผงหมึกในตลาดทั่วยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา (EMEA), เอเชียแปซิฟิก (APAC) และอเมริกา
ผลิตภัณฑ์แท้ของเอชพี ได้รับการออกแบบและผลิตตามมาตรฐานคุณภาพ ความน่าเชื่อถือและความยั่งยืน ภายใต้การทดสอบที่เข้มงวดของเอชพีที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในด้านการสร้างนวัตกรรม และการค้นคว้าวิจัย สำหรับผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบที่ผิดกฎหมายไม่เพียงแต่จะก่อให้เกิดปัญหาหลากหลายในด้านประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ แต่ยังอาจทำให้เครื่องพิมพ์ชำรุดจากการใช้หมึกพิมพ์หรือผงหมึกปลอม จะส่งผลให้ประกันเครื่องเป็นโมฆะ
มร. กีโยม เจอราดีน หัวหน้าและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวัสดุการพิมพ์ของเอชพีทั่วโลก กล่าวว่า “ผู้ปลอมแปลงสินค้าขายสินค้าลอกเลียนแบบทางออนไลน์มากขึ้น เป็นเรื่องยากสำหรับผู้บริโภคที่จะสามารถตรวจสอบตลับหมึกปลอม ณ จุดซื้อ จึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเอชพีที่ต้องมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับตลาดออนไลน์อย่างรัดกุม เพื่อชี้แนะและทำการถอดถอนรายการสินค้าลอกเลียนแบบ รวมทั้งติดตามแหล่งที่มาของสินค้าเหล่านี้ด้วย”
เอชพีต่อต้านสินค้าปลอมแปลงอย่างเข้มงวด
ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2563 ถึงตุลาคม 2564 เอชพีได้ยึดผลิตภัณฑ์พิมพ์ลอกเลียนแบบในภูมิภาค EMEA จำนวน 646,000 รายการ ในภูมิภาคอเมริกา จำนวนมากกว่า 400,000 รายการ และอีกจำนวน 2.5 ล้านรายการทั่วภูมิภาค APAC สำหรับในประเทศไทยพบสินค้าผิดกฎหมายสูงสุดในเอเชียแปซิฟิก โดยมีสินค้าลอกเลียนแบบที่ถูกยึดมากกว่า 143,700 รายการ ประกอบด้วย หมึกพิมพ์ปลอม ตลับหมึกและผงหมึกปลอม กล่องบรรจุภัณฑ์ โทนเนอร์และฉลากปลอม
อาชญากรทางการค้าได้หันมาใช้ช่องทางการซื้อขายสินค้าลอกเลียนผ่านทางออนไลน์อย่างชัดเจน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นภายใต้สถานการณ์ COVID-19 โดยเอชพีสามารถเพิ่มการถอดรายการสินค้าออนไลน์ในอัตราปีต่อปีสูงถึง 19% และยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับตลาดออนไลน์และหน่วยงานต่างๆ เพื่อวางขั้นตอนที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์และผู้ขายที่ละเมิดลิขสิทธิ์
การระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อวิถีความร่วมมือกับภาครัฐในการบังคับใช้กฎหมาย อย่างไรก็ตาม จึงต้องเพิ่มวิธีการตรวจสอบในรูปแบบออนไลน์ผ่าน Customer Delivery Inspections (CDIs) และระบบตรวจสอบ Channel Partner Protection Audits (CPPA) โดยมีการตรวจจับมากถึง 1,191 รายการในปี 2564 หรือเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบจากปี 2563 ทำให้ทีม ACF สามารถดำเนินการระบุและเพิกถอนสินค้าลอกเลียนแบบเอชพีที่ผิดกฎหมายบนตลาดออนไลน์ได้มากกว่า 224,000 รายการทั่วโลก
เกล็น โจนส์ หัวหน้าโครงการป้องกันสินค้าลอกเลียนแบบของเอชพี กล่าวว่า “ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้ขาย คู่ค้า ผู้จัดจำหน่าย และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในท้องถิ่น ทำให้เราสามารถลดจำนวนผลิตภัณฑ์สิ่งพิมพ์ปลอมแปลงออกสู่ตลาดได้ เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการเกี่ยวกับการแพร่ระบาดและพนักงานสามารถกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศ จึงมีความจำเป็นที่ผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีและการจัดซื้อจะต้องเข้มงวดระมัดระวังผลิตภัณฑ์สำนักงานของปลอมราคาถูกที่อาจจะทะลักเข้าตลาด การทำงานของหน่วยงานต่อต้านสินค้าลอกเลียนแบบและการตรวจสอบการจัดส่งของให้ลูกค้าของเอชพี จะสามารถระบุและรับประกันว่าตลับหมึกและส่วนประกอบที่ปลอมแปลงเหล่านั้นจะไม่มีวันไปถึงมือผู้ใช้”
เอชพี ยังได้ดำเนินการให้ความรู้และการฝึกอบรมทางออนไลน์อย่างต่อเนื่องให้กับลูกค้า คู่ค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียนับล้านรายเพื่อต่อต้านผลิตภัณฑ์ปลอมแปลงในตลาด
ตราสัญลักษณ์บนตลับหมึกแท้ของเอชพี
เอชพี ได้ผลิตตลับหมึกและโทนเนอร์แท้มากกว่า 3.9 พันล้านชิ้น ปัจจุบันตลับหมึกแท้ของเอชพีมากกว่า 80% และตลับหมึกโทนเนอร์แท้ 100% มีส่วนประกอบจากวัสดุรีไซเคิล ภายใต้โปรแกรมรับคืนตลับหมึกเพื่อนำไปรีไซเคิล HP Planet Partners บริษัทได้รีไซเคิลตลับหมึกจำนวนมากกว่า 875 ล้านตลับตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อ 30 ปีที่แล้ว และครอบคลุมกว่า 68 ประเทศ
โปรแกรม HP Instant Ink และ Managed Print Services ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจและปลอดภัยว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์เอชพีของแท้เสมอ รวมถึงวัสดุการพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ลูกค้าสามารถตรวจสอบความแตกต่างของหมึกพิมพ์แท้ของเอชพีและหมึกพิมพ์ลอกเลียนแบบ ด้วยวิธีดังนี้
- ตรวจสอบฉลาก มีฉลากโฮโลแกรมบนกล่อง โดยการเอียงฉลากด้านหน้าไปด้านหลังหรือขึ้นและลง ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสี หรือสามารถมองเห็น “OK” และ “√” บนฉลาก
- สแกนโค้ด ใช้แอป HP SureSupply หรือ สแกน QR code บนกล่องตลับหมึก หากไม่สามารถสแกน QR code ด้วยสมาร์ทโฟนได้ ให้ตรวจสอบผ่านระบบออนไลน์
- รายงานตลับหมึกปลอม เป็นส่วนหนึ่งของการต่อต้านสินค้าปลอมแปลงของเอชพีผ่าน HP.com